กินบุญเก่ากับเมืองภูเก็ต

โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

ความเห็นของเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต

นอกจากตำแหน่งรองประธานหอการค้าจังหวัด เอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ยังเป็นเจ้าของโรงแรมชั้นนำหลายแห่งในจังหวัดภูเก็ต เช่น กะตะบีชรีสอร์ท, กะรนบีชรีสอร์ท, ภูเก็ตออร์คิดรีสอร์ท และเดอะลากูน รีสอร์ท แอนด์สปา ความคิดเห็นของเขาหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองภูเก็ต จึงน่าสนใจทีเดียว

- ภูเก็ตแอร์ไลน์เข้ามาส่งผลอย่างไรกับการท่องเที่ยวบ้าง

ดีใจมากที่ภูเก็ตแอร์เข้ามา เพราะส่วนใหญ่แล้วในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวภูเก็ตจะมีปัญหาเรื่องที่นั่ง
เครื่องบินไม่พอ ทำให้เราเสียโอกาสไป เพราะนักท่องเที่ยวมาถึง กทม.แล้ว แต่ไม่สามารถมาภูเก็ตได้ อาจจะมาได้ แต่ไม่สามารถยืนยันเที่ยวกลับได้ ภูเก็ตแอร์ก็เลยจะเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่ง

ในปี 2543 ห้องพักในภูเก็ตเพิ่มขึ้นประมาณ 3 พันกว่าห้อง ปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 5 พันกว่าห้องในขณะเดียวกันชั่วโมงของเที่ยวบินหรือจำนวนที่นั่งไม่ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและควรรีบหาทางออกอย่างมาก

- ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในภูเก็ตปีที่แล้วจำนวนเท่าไร

ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาตามตัวเลขของ ททท.คือประมาณ 3.2 ล้านคน เป็นคนไทยประมาณ 7-8 แสนคน นี่คือตัวเลขที่ประกาศออกมา แต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่าไม่มีใครทราบว่าตัวเลขจริงๆ เท่าไร ผมมองว่าอาจจะเป็นการสร้างฟองสบู่ของการท่องเที่ยว เพราะถ้ามองว่า 2.4 ล้านคนนี่ 2 คนพัก 1 ห้อง แล้ว ททท.บอกเราว่าภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวจะมาพักประมาณ 4 คืน เมื่อคูณกับ1.2 ล้านห้อง มันเกือบ 5 ล้านห้อง หากเอาจำนวนห้องพักรวมของภูเก็ตประมาณ 3 หมื่นห้องคูณกับ 365 วัน ออกมาจะทำให้คนเต็ม 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทุกเดือนเลย นี่คือฟองสบู่ เพราะนอกฤดูกาลเรายังมีห้องที่ว่างอีกเยอะ ผมยังไม่เชื่อว่าจะไปเฉลี่ย 60-70 เปอร์เซ็นต์ได้

- มีการร้องเรียนกันมากว่าราคาค่าห้องพักที่ภูเก็ตสูงมากน่าจะมีวิธีการให้คนไทยได้เข้าพักบ้างในราคาที่ลดกว่านี้

ความจริงผมว่าราคาห้องของภูเก็ตจะมาสูงในช่วงไฮซีซั่นประมาณ 5-6 เดือน คือ จากเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนหรือในช่วงปลายปีที่มีความต้องการมากก็จะมีเซอร์ชาร์จเข้ามาประมาณ 15 วัน หรือ 1 เดือน ใครมาพักช่วง 15 ธันวาคม-15 มกราคม ต้องบวกมาอีก 1,000-1,500 บาท หรือใครมาพักช่วง 24 ธันวาคม หรือ 31 ธันวาคม จะต้องอยู่ร่วมงานด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นรายได้เล็กน้อยของโรงแรมในภูเก็ต มันเป็นวิธีการหารายได้ เพื่อสามารถเลี้ยงตัวเองได้ทั้งปี

ส่วนช่วงนอกฤดูกาลทางหอการค้าก็พยายามให้โรงแรมต่างๆ มาเข้าโครงการลดราคาห้องพักเหลือ 800-1,000 บาทเพื่อให้คนไทยมาเที่ยว ผู้ประกอบการเอง ก็ยอมรับว่าที่ภูเก็ตราคาแพงมาก พ่อแม่ลูก 4 คน ไปฮ่องกง สิงคโปร์ จะถูกกว่า

อย่างสิงคโปร์ ต้นปีที่แล้วเขาประกาศขึ้นราคาโรงแรม แต่เมื่อกันยายน 2544 ที่อเมริกาเกิดเหตุการณ์เครื่องบินถล่มตึกเวิลด์เทรด สิงคโปร์แอร์ไลน์ก็พยายามดึงคนเข้าไปโรงแรม โดยลดราคาค่าเครื่องบินลงมา พอลดปั๊บการบินไทยเราก็สวนทางเลยประกาศขึ้นราคาเครื่องบิน ช่วงนั้นเราได้ส่งฝ่ายตลาดของเราไปสิงคโปร์ เขาบอกว่าที่สิงคโปร์ล้วนแต่เป็นคนไทยทั้งนั้น ซึ่งถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ หมูวิ่งไปชนปังตอ เพราะค่าเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ถูกกว่ากรุงเทพฯ ไปภูเก็ต

การบินไทยต้องมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ด้วย พอมันเป็นอย่างนี้ก็เลยเป็นว่าแต่ละโรงแรมรวมตัวกันไม่ได้ ต่างคนต่างทำ แต่กะตะกรุ๊ปยังทำอยู่ในเรื่องที่จะส่งเสริมให้คนไทยมาเที่ยวหลักๆ ของเราคือ เราลดค่าโรงแรมเหลือประมาณ 800-1,000 หรือ 1,400 บาท แล้วหลังจากนั้นเขามาเลือกเองว่าจะไปไหน

- ถ้าจะให้คนไทยไม่หนีไปเที่ยวสิงคโปร์ ฮ่องกง ต้องทำอย่างไร

ผมก็อยากเห็นสายการบินเช่น ภูเก็ตแอร์ จัดเป็นแพ็กเกจออกมา เพื่อที่จะจูงใจคนไทยมา เพราะผู้ประกอบการในท้องถิ่นก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือเพื่อดึงคนเข้ามาอยู่แล้ว

- รัฐบาลกำลังบูมให้ปีนี้เป็นปีการท่องเที่ยว ไม่ทราบว่าทางจังหวัดภูเก็ตเองเตรียมรองรับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

เรื่องนี้ก็สำคัญมาก เรากำลังจะเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวแต่ภูเก็ตเรากำลังกินบุญเก่าอย่างเดียว

จะต้องมีการวางแผนระยะยาว ตอนนี้วางแผนกันว่าจากนักท่องเที่ยว 3 ล้านกว่าคนต้องเพิ่มเป็น 5 ล้านคน อะไรต่างๆ แต่ไม่มีการพูดเลยว่าจะขนคนมาอย่างไร แม้แต่สนามบินภูเก็ตเอง รันเวย์ยังขาดไปตั้ง 200-300 เมตร ถ้าจะต่อรันเวย์ให้มันมากขึ้น ก็ยังมีปัญหาว่าจะต้องทำอย่างไร ต้องถมทะเล หรือทำอย่างไรกับภูเขาที่ติดขัดกับทางลง นี่คือการวางแผนระยะยาว ภูเก็ตในทศวรรษหน้า ยังต้องมีการพูดถึงและต้องมีการวางแผนในเรื่องต่างๆ ให้ชัดเจน เรื่องขยะ เรื่องการบำบัดน้ำเสีย แทนที่จะกินบุญเก่าอย่างเดียวปล่อยไปอย่างนี้มีแต่ทรงกับทรุด

สิงคโปร์นี่เขาพยายามขายตัวเองให้เป็นศูนย์กลางคือ ใครก็แล้วแต่มาในภูมิภาคนี้ต้องลงที่เขาก่อน เมื่อเดือนกันยายนที่เกิดปัญหา นักท่องเที่ยวไม่กล้าไปมาเลเซีย เพราะนายกฯ เขาวิจารณ์เยอะ ฟิลิปปินส์ก็มีปัญหาภายในมาก สิงคโปร์ฉวยโอกาสโปรโมตเต็มที่เลย ทำไมภูเก็ตไม่เป็นอย่างนั้นบ้างอย่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมือนกัน ผมมองว่าสินค้าเราที่ดีหลายอย่าง ตัวไหนที่ดีอยู่แล้วเราต้องส่งเสริม เน้นเป็นพิเศษเป็นจุดขายที่สำคัญ แล้วค่อยส่งเสริมเมืองอื่นๆ

ก็มีบ้างที่ทางโรงแรมแต่ละแห่งไปทำโรดโชว์ที่เมืองนอก แต่ผมอยากจะเห็นอะไรที่มากกว่านั้น กว้างกว่านั้น แล้วเป็นการร่วมมือกันทำอย่างเป็นระบบ



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.