ความเห็นของเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต
นอกจากตำแหน่งรองประธานหอการค้าจังหวัด เอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ยังเป็นเจ้าของโรงแรมชั้นนำหลายแห่งในจังหวัดภูเก็ต
เช่น กะตะบีชรีสอร์ท, กะรนบีชรีสอร์ท, ภูเก็ตออร์คิดรีสอร์ท และเดอะลากูน
รีสอร์ท แอนด์สปา ความคิดเห็นของเขาหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองภูเก็ต
จึงน่าสนใจทีเดียว
- ภูเก็ตแอร์ไลน์เข้ามาส่งผลอย่างไรกับการท่องเที่ยวบ้าง
ดีใจมากที่ภูเก็ตแอร์เข้ามา เพราะส่วนใหญ่แล้วในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวภูเก็ตจะมีปัญหาเรื่องที่นั่ง
เครื่องบินไม่พอ ทำให้เราเสียโอกาสไป เพราะนักท่องเที่ยวมาถึง กทม.แล้ว แต่ไม่สามารถมาภูเก็ตได้
อาจจะมาได้ แต่ไม่สามารถยืนยันเที่ยวกลับได้ ภูเก็ตแอร์ก็เลยจะเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่ง
ในปี 2543 ห้องพักในภูเก็ตเพิ่มขึ้นประมาณ 3 พันกว่าห้อง ปีที่แล้วเพิ่มขึ้น
5 พันกว่าห้องในขณะเดียวกันชั่วโมงของเที่ยวบินหรือจำนวนที่นั่งไม่ได้เพิ่มขึ้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและควรรีบหาทางออกอย่างมาก
- ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในภูเก็ตปีที่แล้วจำนวนเท่าไร
ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาตามตัวเลขของ ททท.คือประมาณ 3.2 ล้านคน เป็นคนไทยประมาณ
7-8 แสนคน นี่คือตัวเลขที่ประกาศออกมา แต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่าไม่มีใครทราบว่าตัวเลขจริงๆ
เท่าไร ผมมองว่าอาจจะเป็นการสร้างฟองสบู่ของการท่องเที่ยว เพราะถ้ามองว่า
2.4 ล้านคนนี่ 2 คนพัก 1 ห้อง แล้ว ททท.บอกเราว่าภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวจะมาพักประมาณ
4 คืน เมื่อคูณกับ1.2 ล้านห้อง มันเกือบ 5 ล้านห้อง หากเอาจำนวนห้องพักรวมของภูเก็ตประมาณ
3 หมื่นห้องคูณกับ 365 วัน ออกมาจะทำให้คนเต็ม 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทุกเดือนเลย
นี่คือฟองสบู่ เพราะนอกฤดูกาลเรายังมีห้องที่ว่างอีกเยอะ ผมยังไม่เชื่อว่าจะไปเฉลี่ย
60-70 เปอร์เซ็นต์ได้
- มีการร้องเรียนกันมากว่าราคาค่าห้องพักที่ภูเก็ตสูงมากน่าจะมีวิธีการให้คนไทยได้เข้าพักบ้างในราคาที่ลดกว่านี้
ความจริงผมว่าราคาห้องของภูเก็ตจะมาสูงในช่วงไฮซีซั่นประมาณ 5-6 เดือน
คือ จากเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนหรือในช่วงปลายปีที่มีความต้องการมากก็จะมีเซอร์ชาร์จเข้ามาประมาณ
15 วัน หรือ 1 เดือน ใครมาพักช่วง 15 ธันวาคม-15 มกราคม ต้องบวกมาอีก 1,000-1,500
บาท หรือใครมาพักช่วง 24 ธันวาคม หรือ 31 ธันวาคม จะต้องอยู่ร่วมงานด้วย
ซึ่งตรงนี้เป็นรายได้เล็กน้อยของโรงแรมในภูเก็ต มันเป็นวิธีการหารายได้ เพื่อสามารถเลี้ยงตัวเองได้ทั้งปี
ส่วนช่วงนอกฤดูกาลทางหอการค้าก็พยายามให้โรงแรมต่างๆ มาเข้าโครงการลดราคาห้องพักเหลือ
800-1,000 บาทเพื่อให้คนไทยมาเที่ยว ผู้ประกอบการเอง ก็ยอมรับว่าที่ภูเก็ตราคาแพงมาก
พ่อแม่ลูก 4 คน ไปฮ่องกง สิงคโปร์ จะถูกกว่า
อย่างสิงคโปร์ ต้นปีที่แล้วเขาประกาศขึ้นราคาโรงแรม แต่เมื่อกันยายน 2544
ที่อเมริกาเกิดเหตุการณ์เครื่องบินถล่มตึกเวิลด์เทรด สิงคโปร์แอร์ไลน์ก็พยายามดึงคนเข้าไปโรงแรม
โดยลดราคาค่าเครื่องบินลงมา พอลดปั๊บการบินไทยเราก็สวนทางเลยประกาศขึ้นราคาเครื่องบิน
ช่วงนั้นเราได้ส่งฝ่ายตลาดของเราไปสิงคโปร์ เขาบอกว่าที่สิงคโปร์ล้วนแต่เป็นคนไทยทั้งนั้น
ซึ่งถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ หมูวิ่งไปชนปังตอ เพราะค่าเครื่องบินจากกรุงเทพฯ
ไปสิงคโปร์ถูกกว่ากรุงเทพฯ ไปภูเก็ต
การบินไทยต้องมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ด้วย พอมันเป็นอย่างนี้ก็เลยเป็นว่าแต่ละโรงแรมรวมตัวกันไม่ได้
ต่างคนต่างทำ แต่กะตะกรุ๊ปยังทำอยู่ในเรื่องที่จะส่งเสริมให้คนไทยมาเที่ยวหลักๆ
ของเราคือ เราลดค่าโรงแรมเหลือประมาณ 800-1,000 หรือ 1,400 บาท แล้วหลังจากนั้นเขามาเลือกเองว่าจะไปไหน
- ถ้าจะให้คนไทยไม่หนีไปเที่ยวสิงคโปร์ ฮ่องกง ต้องทำอย่างไร
ผมก็อยากเห็นสายการบินเช่น ภูเก็ตแอร์ จัดเป็นแพ็กเกจออกมา เพื่อที่จะจูงใจคนไทยมา
เพราะผู้ประกอบการในท้องถิ่นก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือเพื่อดึงคนเข้ามาอยู่แล้ว
- รัฐบาลกำลังบูมให้ปีนี้เป็นปีการท่องเที่ยว ไม่ทราบว่าทางจังหวัดภูเก็ตเองเตรียมรองรับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
เรื่องนี้ก็สำคัญมาก เรากำลังจะเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวแต่ภูเก็ตเรากำลังกินบุญเก่าอย่างเดียว
จะต้องมีการวางแผนระยะยาว ตอนนี้วางแผนกันว่าจากนักท่องเที่ยว 3 ล้านกว่าคนต้องเพิ่มเป็น
5 ล้านคน อะไรต่างๆ แต่ไม่มีการพูดเลยว่าจะขนคนมาอย่างไร แม้แต่สนามบินภูเก็ตเอง
รันเวย์ยังขาดไปตั้ง 200-300 เมตร ถ้าจะต่อรันเวย์ให้มันมากขึ้น ก็ยังมีปัญหาว่าจะต้องทำอย่างไร
ต้องถมทะเล หรือทำอย่างไรกับภูเขาที่ติดขัดกับทางลง นี่คือการวางแผนระยะยาว
ภูเก็ตในทศวรรษหน้า ยังต้องมีการพูดถึงและต้องมีการวางแผนในเรื่องต่างๆ ให้ชัดเจน
เรื่องขยะ เรื่องการบำบัดน้ำเสีย แทนที่จะกินบุญเก่าอย่างเดียวปล่อยไปอย่างนี้มีแต่ทรงกับทรุด
สิงคโปร์นี่เขาพยายามขายตัวเองให้เป็นศูนย์กลางคือ ใครก็แล้วแต่มาในภูมิภาคนี้ต้องลงที่เขาก่อน
เมื่อเดือนกันยายนที่เกิดปัญหา นักท่องเที่ยวไม่กล้าไปมาเลเซีย เพราะนายกฯ
เขาวิจารณ์เยอะ ฟิลิปปินส์ก็มีปัญหาภายในมาก สิงคโปร์ฉวยโอกาสโปรโมตเต็มที่เลย
ทำไมภูเก็ตไม่เป็นอย่างนั้นบ้างอย่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมือนกัน ผมมองว่าสินค้าเราที่ดีหลายอย่าง
ตัวไหนที่ดีอยู่แล้วเราต้องส่งเสริม เน้นเป็นพิเศษเป็นจุดขายที่สำคัญ แล้วค่อยส่งเสริมเมืองอื่นๆ
ก็มีบ้างที่ทางโรงแรมแต่ละแห่งไปทำโรดโชว์ที่เมืองนอก แต่ผมอยากจะเห็นอะไรที่มากกว่านั้น
กว้างกว่านั้น แล้วเป็นการร่วมมือกันทำอย่างเป็นระบบ