เมื่อโผแต่งตั้ง-โยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทยออกมาว่า ชัยยา
พูนศิริวงศ์ ซึ่งครองตำแหน่งพ่อเมืองนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 7 ปีเต็มถูกขยับให้มาเป็น
"ใหญ่" ในกรมประชาสงเคราะห์พ่อค้าหลายรายยิ้มรับด้วยความยินดี
และบอกด้วยความเต็มใจยิ่งว่า "ท่านควร นานแล้ว"
สายตาและความรู้สึกของพ่อค้าเชียงใหม่มากคนที่มีต่อพ่อเมืองผู้นี้ คือความเป็น
"ข้าวนอกนา" ของวงการธุรกิจ, 7 ปีของชัยยา กับพ่อค้าเชียงใหม่
แทบจะนับครั้งได้ที่สบตากันด้วยความรักดูดดื่ม ขนาดงานเลี้ยงรับรองพ่อค้าจีนงานหนึ่งที่มีการเชิญพ่อเมืองไปเป็นเกียรติด้วยนั้น
แทบไม่น่าเชื่อว่าคนระดับพ่อเมืองจะถูกปล่อยให้เป็น " แกะหลงฝูง"!!!
ประวิทย์ อัครชิโนเรศ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ พูดถึงพ่อเมืองผู้นี้ว่า
"ยอมรับว่าท่านเป็นคนตรง ซื่อสัตย์ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเข้ากับพ่อค้าไม่ค่อยได้
อย่างงานของหอการค้าเชิญท่านบางทีก็ไม่มาร่วมเสียอย่างงั้น"
ชัยยาไม่เป็นเพียงแต่ "ข้าวนอกนา" ของพ่อค้าเท่านั้น ในสายนักปกครองด้วยกันเอง
ก็ดำรงสภาพที่ว่านั้นเช่นกัน เนื่องจากเป็นพ่อเมืองคนเดียวที่ไม่เป็น "สิงห์ดำ
สิงห์แดง" อะไรกับเขา ทว่ากระโดดข้ามสายมาจากสำนักผังเมือง
แต่ถึงจะไม่มี "สี" เป็นเกราะ ทว่าชัยยาก็เป็นผู้ว่าฯ คนเดียวที่ครั้งหนึ่งเคยถูกสั่งย้ายจากเชียงใหม่แล้วปรากฏว่า
คำสั่งย้ายนั้นต้องเป็น "หมัน" ต้องย้ายชัยยากลับไปเป็นผู้ว่าฯ
เชียงใหม่อีกครั้ง ใน 24 ชั่วโมงหลังมีคำสั่งแรกออกมา นั่นย่อมแสดงว่า กำลังภายในของชัยยาลึกล้ำยากหยั่งได้จริงๆ
!!
ชัยยา เป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด เกิดเมื่อ 20 กันยายน 2475 เป็นลูกของเชาวลิตร-เน้ย
พูนศิริวงศ์ เป็นพี่ชายของวารินทร์ ผอ.นสพ.แนวหน้า ที่เปิดฉากโจมตีเรื่องนายทุนบุกรุกที่ดิน
โดยเฉพาะรายของ "เอราวัณรีสอร์ท" ก่อนใครอื่นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
มีน้องคนอื่นอีก เช่น สินธุ คุณากร, เยาวลักษณ์ สารภีปทุม
ชัยยา จบชั้นมัธยมที่อัสสัมชัญ แล้วได้ทุนไปเรียนต่อที่ลิเวอร์พูล ยูนิเวอร์ซิตี้
จนจบปริญญาตรี (เกียรตินิยม) ทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทำให้ฮาร์วาร์ดสนใจให้ทุนเรียนต่อทางผังเมืองโดยเฉพาะ
จากนั้นจึงกลับมารับราชการเป็นสถาปนิกโท กองผังเมืองโยธาธิการ หัวหน้ากองผังเมืองเฉพาะ
ผู้อำนวยการผังเมืองรวม นายช่างผังเมืองพิเศษ และรองผู้อำนวยการสำนักผังเมืองก่อนไปเป็นผู้ว่าฯ
เมื่อปี 2523
"งานวิชาการยังพอผลัดวันประกันพรุ่งได้ แต่งานปากท้องประชาชนเป็นงานที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ทันที
รอช้าไม่ได้" ชัยยาเคยพูดไว้ เมื่อครั้งไปเป็นผู้ว่าฯ ใหม่ๆ และคนบนศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ก็บอกว่า
"ท่านทำอะไรเร็วจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ดินแม่ริม"
ชัยยา แต่งงานกับวนิดา พูนศิริวงศ์ ซึ่งเป็นภริยาผู้ว่าฯ คนเดียวที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคุณหญิง
เขาเป็นเขยผู้น้อง-ผู้พี่กับเสนาะ อูนากูล เลขาการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ถึงแต่งงานกันมาหลายปี แต่ทั้งคู่ยังไม่รู้จักคำว่า เป็นพ่อเป็นแม่คนเลย
มีเพียงแต่อำภา-อำไพ เด็กหญิงฝาแฝดจากสันกำแพงที่ขอมาเลี้ยงให้หายว้าเหว่
เพราะความเป็นคนเชียงใหม่หนึ่ง กับเชี่ยวชาญด้านผังเมืองอย่างหาตัวจับยากอีกหนึ่ง
ครั้งหนึ่งชัยยาเคยสั่งรื้อกำแพงเมืองเก่าทิ้งแล้วสร้างขึ้นด้วยวัสดุสมัยใหม่เพื่อให้ถูกต้องตามหลักการ
แต่การณ์ครั้งนั้นกลับถูกนักประวัติศาสตร์เยินเสียจนยับยุ่ยว่า "เล่นทำลายของเก่าที่มีคุณค่าลงไปหมด"
ชัยยา เป็นคนที่รู้ลึกเรื่องที่ดินและเศรษฐศาสตร์ได้ดีคนหนึ่ง และที่ดิน
ต.โป่งแยง - ต.แม่แรม อ.แม่ริม ก็อยู่ในข่ายความสนใจ มีเสียงบอกว่า ที่ดินซึ่งชัยยาชอบมากที่สุดมี
2 จุด คือ หนึ่ง-เขตไร่วังน้ำซับของท่านจรัสพันธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา กับที่ดินที่ตั้ง
"เอราวัณรีสอร์ท" ของวงเดือน จริยากรกุล (ส่วนหนึ่งของที่ดินนี้ปัจจุบันเป็นของคุณหญิงมาลาทิพย์
โอสถานุเคราะห์)
ชัยยา-เสนาะ ประมูลราคาที่ดินบริเวณ "เอราวัณรีสอร์ท" จากเจ้าของเดิมซึ่งเป็นเจ้าของ
"ปางช้าง" แข่งขันกับวงเดือน-กรวิก ธีรประทีป ซึ่งเดิมทีวงเดือน-กรวิกต้องการที่บริเวณนี้ทำเป็นเหมืองแร่
จึงเสนอราคาค่อนข้างสูงจนให้ชนะชัยยา-เสนาะ
วงเดือน จริยากรกุล สาวโสดที่เคยผ่านการแต่งงานวัย 47 ปี เป็นคนจีนมาจากเกาะไหหลำ
ชีวิตเริ่มต้นต่อสู้ตั้งแต่วัยเด็กที่สระบุรีด้วยการขายล็อตเตอรี่ ปลาหมึกบด
และส่งไก่ขายตามตลาด อายุ 14 ปี เข้ามาศึกษาต่อที่ รร.โชติเวศม์ กรุงเทพฯ
หลังสลัดคราบนักศึกษาก็ไปเป็นผู้จัดการโรงงานสยามไม้อัด ทำได้ 4-5 ปีก็แต่งงานทว่าก็ล้มเหลว
จากนั้นก็แต่งงานอีกครั้งกับกรวิก ธีรประทีป มือโฆษณาชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย
วงเดือน-กรวิก ขึ้นไปซื้อที่ดินแม่ริมร่วมกันแต่ภายหลังกัน ที่ดินเป็นของวงเดือนคนเดียว
ครั้งหนึ่งของวงเดือนผ่านการเป็นชายาของพระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร "องค์ชายกลาง"
มาแล้ว (เป็นชายาคนที่ 6) จากการขึ้นมาซื้อที่ดินแม่ริม 6 ครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากประยูร
จินดาประดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่แบงก์ทหารไทย ทำให้กลายเป็นราชินีที่ดินไปโดยปริยาย
วงเดือนกับชัยยามีความเหมือนกันตรงที่ ต่างคนไม่เคยมีลูก "พยายามแล้วหลายครั้งแต่ไม่สมหวังสักที
ก็เลยเฉยๆ เรื่องที่ดินของพี่ที่ถูกโจมตีมาตลอดว่าบุกรุก โดยเฉพาะจากหนังสือพิมพ์ที่เป็นน้องชายผู้ว่าฯ
ชัยยา คิดไปแล้วก็สนุกดี เป็นเรื่องของคนไม่มีลูกมาสู้กัน วงเดือนเคยกล่าวกับ
"ผู้จัดการ"
กรณีปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่แม่ริมที่เกิดขึ้นนั้น "เอราวัณรีสอร์ท"
ของวงเดือนจะเป็นเป้าใหญ่ของการถูกกล่าวหามากที่สุด เพราะที่ดินยังได้มีการจัดสรรขายให้กับเศรษฐีมีเงินอีกหลายคน
"เรายอมรับว่า พูดกับผู้ว่าฯ ชัยยาไม่รู้เรื่อง ท่านไม่เคยสนใจข้อมูลที่ถึงปลัดสุธีก็เป็นผู้ว่าฯ
นี่แหละ รายงานเข้าไป ขอปรึกษาก็บอกว่าไปพึ่งศาลเอาเองก็ดี ถ้าถูกเพิกถอนเมื่อใดก็ต้องสู้กันจนถึงที่สุด"
นักลงทุนหลายรายกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน
วันนี้ของผู้ว่าฯ ชัยยา อาจหลุดพ้นจากวังวนหน้าที่การงานฐานะพ่อเมืองแล้วก็จริง
แต่นอกจากจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านริมปิงตามโอกาสสมควรแล้วนั้น ด้านหนึ่งคงต้องเตรียมตัวรับแรงต้านจากลุ่มนักลงทุนอยู่ในที
ปกติของชัยยา ได้ชื่อว่าเป็นนักดำน้ำที่มีฝีมือ เวลาที่ไม่เครียดนักชอบฟังเพลงคลาสสิก
ของโมสาร์ทบ้าง เบโธเฟ่นบ้าง หรือไม่อาจเป็นของซีบีลิส หรือบารห์มส์เคล้าไปกับการดื่มไวน์ขาวราคาแพง
"เพลงคลาสสิกนี้ยิ่งใหญ่ ฟังแล้วไม่เข้าใจว่าทำไมโลกเราถึงโกรธถึงเกลียดกัน
ทำไมต้องรบราฆ่าฟันกัน ไม่เข้าใจจริงๆ"
นี่ยังดีนะ หากชัยยาไปพูดอย่างนี้กับกลุ่มนักลงทุนก็อาจได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันว่า
" ก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมผู้ว่าฯ ถึงไม่ยอมคุยเจรจาอย่างสันติบ้างเลย"