เอฟบี้."ศรีสุข มณีใส" เรื่องราวของเขาบอกถึงความหวังของเกษตรกร

โดย ไพโรจน์ จันทรนิมิ ครรชิต ธำรงรัตนฤทธิ์
นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2530)



กลับสู่หน้าหลัก

คนในโป่งแยง-แม่แรม รู้จักเอฟบี้. เป็นอย่างดี เกษตรกรวัย 35 ปี ลูกครึ่งไทย-เดนมาร์กคนนี้ เป็นผุ้บุกเบิกโลกแห่งการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ เอฟบี้. ร่วมงานกับคุณหญิงอุไร เชิงอำรุง แม่ยายของกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล กรรมการผู้จัดการแบงก์อาคารสงเคราะห์ ตกแต่ง "แม่สาวัลเลย์" ให้เป็นรีสอร์ทแห่งแรก

หลังจากที่ทำงานให้แม่สาวัลลย์แล้วเสร็จ หนุ่มลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก อดีตนักเรียนเก่าแม่โจ้ ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็น "มือกุหลาบ" มือหนึ่งคนนี้ก็ถูกกลิ่นไอป่าแม่ริมดึงดูด จนต้องกว้านซื้อที่ดินมาเป็นกรรมสิทธิถึง 134 ไร่

"ผมชอบที่นี่แม้ว่าจะเป็นเด็กแพร่ก็ตาม ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่จะสมบูรณ์เหมือนโป่งแยง" เขากล่าวกับ " ผู้จัดการ" งานแรกๆ ของการพัฒนาที่ดิน เอฟบี้. ลงผลไม้เมืองหนาวจำพวกสตรอเบอรรี่ แต่เห็นว่าตลาดไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไรจึงหันมาเล่น "กุหลาบ" งานที่ตนถนัด

เอฟบี้. เขียนโครงการขอกู้เงินจากแบงก์นครหลวงและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์นวธนกิจ จำกัด ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท เพื่อทำไร่กุหลาบแบบติดตาตัดดอกขายที่ใหญ่สุดในเอเชีย โดยประมาณว่าในพื้นที่ปลูกจะมีกุหลาบไม่น้อยกว่า 100,000-200,000 ต้น

กุหลาบของเอฟบี้. เป็นกุหลาบแดงมีหลายพันธุ์ อาทิเช่น แฮปปิเนส เกสท์ มาสเตอร์ พีท ซีสเต็ม คอนท์ ฯลฯ ซึ่งขนาดของกุหลาบแต่ละดอกจะมีขนาดไม่ต้ำกว่า 3-5 นิ้ว เอฟบี้. บอกว่า ความเป็นไปได้ของตลาดนั้นมีมากว่า 50% โดยเฉพาะตลาดสิงคโปร์ที่พูดคุยกันแล้ว และความประสงค์ของเขาอีกอย่างคือว่า อยากให้ไร่กุหลาบแห่งนี้เป็นสถาบันศึกษาด้านไม้ดอกของคนที่สนใจด้วย

จากคนงานที่เริ่มต้นกันอย่างขมีขมันในตอนแรกร่วม 60 คน เคลียร์พื้นที่แปรเป็นแปลงกุหลาบที่เริ่มให้ดอกแล้วหลายแปลง ปรากฏว่าจนถึงวันนี้ที่เกิดปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินแม่ริมขึ้นมา ทำให้แบงก์งดปล่อยสินเชื่อ คนงานแยกย้ายกันไปเหลือเพียง 3 คนเท่านั้น

"กำลังมันๆ อยู่เชียวก็มีเรื่อง ของผมเขาก็ว่าบุกรุก จะบุกรุกได้อย่างไรหลักฐานซื้อ-ขายก็มีครบครัน ทำกันอย่างนี้แล้วจะให้เกษตรกรรมบ้านเราก้าวหน้าไปได้อย่างไร" เกษตรกรลูกครึ่งระบายความคับใจอย่างเหลืออด

ตอนนี้เอฟบี้. จึงต้องสู้ด้วยเงินสะสมกับทุนรอนที่หยิบยืมจากเพื่อนฝูง พร้อมกับตั้งความหวังว่า ภายในปีหน้ากุหลาบบางส่วนพอที่จะตัดออกขายนำมาเป็นทุนต่อเนื่องได้ และเหตุการณ์ทุกอย่างจะจบสิ้นกันเสียที

เอฟบี้. เป็นลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ที่ปู่-ย่า-ตา-ยาย ก็เป็นลูกผสมเช่นกัน เขาเป็นอดีตลูกอดีตศึกษาธิการอำเภอ หลังจบชั้นมัธยมที่เชียงใหม่ก็เข้าเรียนต่อที่แม่โจ้ เสร็จแล้วไปทำงานที่สถาบันโรคเรื้อน โดยการชักชวนจากพ่อของคัทลียา นุดล (คอลัมนิสต์ชื่อดัง นสพ.ไทยรัฐ) ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่

ระหว่างที่เรียนแม่โจ้ เอฟบี้. เคยหาลำไพ่พิเศษด้วยการเป็นนักร้อง ในห้องอาหารโรงแรมรินคำ วันหนึ่งในหลวงและสมเด็จฯ เสด็จมาเสวยพระการยาหารค่ำที่นี่ พบเขากำลังร้องเพลง "ตระเวนชายแดน" ที่คัดทำนองมาจากเพลง "แดนนี่บอย" ทรงสนพระทัยเป็นอันมากที่ฝรั่งคนนี้ร้องเพลงไทยได้ชัด จึงรับสั่งให้เข้าเฝ้าและร่วมร้องเพลง-เล่นดนตรีกับพระองค์

เอฟบี้. ได้รับการคัดเลือกจากในหลวง ให้เป็นคนแรกที่ร้องเพลง "จากยอดดอย" ซึ่งเขาถือว่าเป็นเพลงประจำตัว พอในหลวงฯ ทราบว่าจบเกษตรมาก็รับสั่งให้ไปอยู่แผนกสวนของวังสวนจิตรลดา เอฟบี้.ทำงานในวังร่วม 8 ปี จึงออกมาสู่โป่งแยง อ .แม่ริม

แต่ก็มีเสียงบอกว่า ที่ดินที่มีการสวม ส.ค.ลอยมากที่สุดนั้น ก็คือที่ดินของเอฟบี้. นี่ล่ะ!!

"อยากเอาไปก็เอาไปสิ กฎหมายมันบอกว่าเป็นของหลวงนี่ ใครว่าผมไม่ใช่คนไทยก็เจ็บใจพอแล้ว นี่ถ้าต้องมาเช่าที่ในที่ของตัวเองคงเจ็บใจมากขึ้นไปอีก เดี๋ยวนี้นะใครๆ ก็เป็นนายทุนกันได้สบาย แค่ไปกู้เงินแบงก์ก็เป็นแล้ว เป็นนายทุนให้เขาตั้งข้อหาได้ง่ายๆ" เขากล่าวค่อนข้างดุเดือด ก่อนต่อว่า

"ถ้ามันถึงที่สุดผมจะถวายฎีกาพระองค์ท่าน"!!

เม็ดเหงื่อบนใบหน้า ดวงตาสีฟ้าเข้มตามแบบฉบับชาวไร่ เอฟบี้.ย้ำอีกครั้งว่า "ครอบครัวของผมเป็นคนเชียงใหม่ทั้งหมด แม่ริมนี่คือแผ่นดินของผม จะอยู่หรือจะตายผมจะไม่ไปจากที่นี่" !!



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.