|
ศาลยกคำร้องยืดแผนฟื้นTPIPL มั่นใจประชุมเจ้าหนี้เสร็จต.ค.นี้
ผู้จัดการรายวัน(1 ตุลาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
ศาลฯยกคำร้องขอ ขยายเวลาแผนฟื้นฟูฯทีพีไอโพลีน ออกไปอีก 1 ปี ระบุเป็นการแก้ไขแผนฯต้องเรียกประชุมเจ้าหนี้ โดยได้รับเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 50% ของมูลหนี้ "ทีพีไอโพลีน" มั่นใจดำเนินการประชุมเจ้าหนี้เสร็จทันตุลาคมนี้ โดยจะนัด จพท.ประชุมเจ้าหนี้เพื่อแก้ไขแผนฯเกี่ยวกับการชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายเป็นเงินสด รวมกับการขยายเวลาแผนฯออกไป 1 ปีเป็น 31 ธ.ค.48
วานนี้ (30 ก.ย.) ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) คดีขอขยายระยะ เวลาการฟื้นฟูกิจการบริษัทออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.47 เป็นวันที่ 31 ธ.ค.48 เนื่องจาก ศาลฯพิจารณาเห็นว่าการขยายระยะเวลาแผนฟื้นฟูฯเป็นการแก้ไขแผนฯ ตามมาตราที่ 90/63 จึงต้องมีขั้นตอนให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์(จพท.) เรียกประชุมเจ้าหนี้ทั้งหมด เพื่อโหวตลงคะแนนเสียงและยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อมีคำสั่งต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริหารแผนฯไม่ยื่นคำร้องขอขยายเวลาการฟื้นฟูกิจการตามระยะเวลาที่กำหนด เมื่อสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 47 ศาลฯอาจ มีคำสั่งให้ทีพีไอโพลีนพ้นจากการฟื้นฟูกิจการ หรือถ้าบริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัวก็อาจมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามมาตราที่ 90/70
นายชวลิต อัตถศาสตร์ ทนายความของบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามกฎหมายฟื้นฟู กิจการ กำหนดว่าบริษัทฯที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูสามารถอยู่ในแผนฯ ได้ 5 ปี โดยจะขยายระยะเวลาแผนฯได้ 2 ครั้งๆละ 12 เดือน และหากแผน ฟื้นฟูใกล้บรรลุความสำเร็จ ศาลอาจใช้ดุลพินิจขยายระยะเวลาของแผนฟื้นฟูฯต่อไปได้
เนื่องจากแผนฟื้นฟูกิจการของทีพีไอโพลีน ระบุไว้ว่า แผนฟื้นฟูฯมี อายุ 5 ปี และลูกหนี้สามารถยื่นขอขยายแผนฯได้ 3 ครั้งๆละ 12 เดือน ซึ่งผู้บริหารแผนฯได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการเจ้าหนี้มีความเห็นร่วมกันที่จะให้ยื่นคำร้องต่อศาลฯเพื่อขอขยายระยะเวลาแผนฟื้นฟูกิจการที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.47 ออกไปอีก 1 ปีเป็นวันที่ 31 ธ.ค.48 โดยมองว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไขแผนฯ เพราะแผนฟื้นฟูฯได้ระบุให้ขยายแผนฯได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลฯได้พิจารณาเห็นว่าการขยายเวลาของแผนฯเป็นการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ทั้งหมด ทางทีพีไอโพลีนจะหารือกับคณะกรรมการเจ้าหนี้ก่อน หลังจากนั้นจะยื่นหนังสือให้จพท.กำหนดนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อโหวตแก้ไขแผนฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในตุลาคมนี้
เนื่องจากขณะนี้ ทีพีไอโพลีนได้มีการร่างรายละเอียดการแก้ไขแผนฯไว้คร่าวๆแล้วเกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายเป็นเงินสด จากเดิมที่กำหนดให้มีการแปลงดอกเบี้ยค้างจ่ายเป็นหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งขณะนี้ลูกหนี้มีเงินสดเพียงพอที่จะชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายได้ โดยคณะกรรมการเจ้า หนี้ก็เห็นชอบในการรับเงินสดแทนหุ้นเพิ่มทุน
ดังนั้น รายละเอียดการแก้ไขแผนฯจะเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับการขยายเวลาของแผนฟื้นฟูฯออกไปอีก 1 ปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.48 รวมทั้ง การจดจำนองทรัพย์สินของบริษัทฯเป็นประกันอันดับที่ 2 และ 3 ให้กับเจ้าหนี้ไม่มีหลักประกัน เป็นต้น
"การที่ศาลยกคำร้องขอขยายเวลาแผนฟื้นฟูฯออกไปอีก 1 ปีนั้น ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะเป็นการยื่นคำ ร้องก่อนล่วงหน้า และบริษัทฯเตรียมที่จะให้จพท.นัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อขอแก้ไขแผนฯ โดยจะกำหนดข้อความชัดเจนเกี่ยวกับการชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายเป็นเงินสดแทนการแปลงดอกเบี้ย เป็นทุนอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะแก้ไขแผนฯรวมกันไปเลย"
นายประเสริฐ อิทธิเมฆินทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ศาลฯมีคำสั่งเห็นชอบตามคำ ร้องทีพีไอโพลีนกับคณะกรรมการเจ้าหนี้ที่จะถอนฟ้องคดีความทั้งหมด 7 คดีไปแล้วนั้น ทำให้การเจรจารีไฟแนนซ์ หนี้ทั้งหมด 670-680 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาททำได้ง่ายขึ้น
การรีไฟแนนซ์หนี้ทั้งหมดนั้นไม่อยู่ในเงื่อนไขตามแผนฟื้นฟูกิจการ เพียงแต่บริษัทฯสนใจที่จะรีไฟแนนซ์เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากภาระหนี้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐมีถึง 50% ของมูลหนี้ สกุลยูโร 16-48% สกุลเยน 3-4% และที่เหลือเป็นหนี้สกุลบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยเกือบ 5%
ดังนั้นการรีไฟแนนซ์หนี้ดังกล่าว จะต้องมีเงื่อนไขการชำระหนี้ที่ดีกว่าปัจจุบัน โดยบริษัทต้องการรีไฟแนนซ์ ให้เป็นหนี้สกุลบาทเป็นส่วนใหญ่เพื่อลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งจะพิจารณาถึงการออกหุ้นกู้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้เจรจาขอกู้เงิน จากธนาคารกรุงไทย 650 ล้านเหรียญ เพื่อมารีไฟแนนซ์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|