ชินฯชี้ผู้บริหารทิ้งหุ้นไม่ส่งผลราคาประกาศเดินหน้าโครงการ "ESOP"


ผู้จัดการรายวัน(28 กันยายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

SHIN ออกโรงแจงโครงการ ESOP หลัง "บุญคลี ปลั่งศิริ" และทีมผู้บริหารพร้อมใจทิ้งหุ้น ระบุไม่ส่งผลกระทบราคาหุ้นในกระดาน พร้อมเตรียมออกวอร์แรนต์ ตอบแทนกก.-พนง.อีก 2 รอบ คือ ปี 2548 และ 2549 หลัง 2 ปีที่ผ่านมา ออกวอร์แรนต์ตามโครงการ ESOP ไปแล้ว 3 ชุด รวมไม่เกิน 5% ของทุนจดทะเบียน เผยสาเหตุที่ออกเนื่องจากหวังสร้างแรงจูงใจ ไม่ให้ผู้บริหารระดับสูงย้ายค่าย โดยกำหนดเพดานให้ขายได้ไม่เกิน 1 ใน 3 ของหุ้นที่ถืออยู่ในแต่ละปี

นายธีระ วีรธรรมสาธิต ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN )ออกโรงชี้แจงถึงกรณีที่ผู้บริหาร SHIN มีการขายหุ้นที่มีอยู่จากโครงการที่บริษัทเสนอขายหุ้นให้กับกรรมการและพนักงานบริษัท (ESOP) ในช่วงที่ผ่านมาว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้บริหารมีการขายหุ้นออกมา และไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการเคลื่อนไหวราคาหุ้นในกระดานของบริษัท และหากตรวจสอบข้อมูลจะพบว่าราคาหุ้นที่ผู้บริหารขาย เมื่อเทียบกับราคาหุ้นในกระดานปัจจุบัน ราคาหุ้นในกระดานสูงกว่ามาก

"สาเหตุสำคัญที่เราได้มีโครงการ ESOP ก็เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานและผู้บริหารระดับสูง ให้อยู่กับองค์กรนานที่สุด เนื่องจากการแข่งขันแย่งชิงบุคลากรที่มีความชำนาญในธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคมมีมาก ทำให้บริษัทมีแนวคิดออก ESOP เพื่อจูงใจให้ผู้บริหารทำงานกับบริษัทต่อไป และการขายหุ้นของผู้บริหารที่ผ่านมา ตามโครงการก็ได้กำหนดสัดส่วนให้ในแต่ละปีหลังจากแปลงเป็นหุ้นสามัญ สามารถขายได้ในจำนวนไม่เกิน 1 ใน 3 ของหุ้นที่มีอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับราคาหุ้น"

นายธีระ กล่าวว่า ปัญหาการดึงตัวผู้บริหารที่มีความรู้ความชำนาญด้านธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม ถือว่ามีสูงมาก และในปัจจุบันมีบริษัทเกิดใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการผู้บริหารในระดับสูงเกิดขึ้น การมีโครงการ ESOP ให้กับผู้บริหารระดับสูง กรรมการและพนักงาน ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้การย้ายออกไปอยู่บริษัทใหม่มีน้อยมาก

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีกรรมการและพนักงานบริษัทในเครือชินคอร์ปฯ ที่ได้รับสิทธิตามโครงการประมาณ 170 คน และเฉพาะใน SHIN มีจำนวน 20 คน

ในช่วงที่ผ่านมา SHIN ได้ออก ESOP แล้วเป็นจำนวน 3 ครั้ง โดยครั้งแรกออกเมื่อปี 2545 และมีแผน ที่จะออกให้กับผู้บริหาร กรรมการและ พนักงานอีก 2 ครั้ง ในปี 2548 และปี 2549 โดยนโยบายการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)ตามโครงการจะ ไม่เกิน 5% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาการออกวอร์แรนต์มีการแปลงสิทธิเป็นหุ้นสามัญแล้วประมาณ 2% ของทุนจดทะเบียน ถือว่าน้อยมาก และไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการเคลื่อน ไหวราคาหุ้นในกระดาน

ส่วนนโยบายของบริษัทเครือ ชิน คอร์ป ทั้งหมด กำหนดให้ออกวอร์แรนต์ในโครงการ ESOP ไม่เกิน 5% ซึ่งบางบริษัทอาจออกเพียง 2-3% ของทุนจดทะเบียน ส่วนกรรมการและพนักงานที่จะได้รับวอร์แรนต์ จะมีตำแหน่งตั้งแต่ เอวีพี หรือ ระดับผู้อำนวยการสำนักขึ้นไป

หลังเปิดโครงการออกวอร์แรนต์ให้กับผู้บริหารระดับสูง กรรมการและพนักงานของบริษัท ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าทำให้ผู้บริหารระดับสูงยังคงอยู่ในองค์กร เนื่องจากได้รับผลตอบแทนที่จูงใจ มีผู้บริหารเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ลาออกคือ นายสรรชัย เตียวประเสริฐกุล ที่ลาออกไป

นายธีระกล่าวว่า เงื่อนไขของวอร์แรนต์ตามโครงการของบริษัท หากผู้บริหารลาออก สิทธิในการแปลงเป็นหุ้นสามัญก็จะหมดลงตามไปด้วย

"การขายหุ้นของผู้บริหารกลุ่มชิน คอร์ป ขณะนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ และไม่มีผลต่อราคาหุ้น เชื่อว่ากลุ่มนักลงทุนประเภทสถาบันจะเข้าใจ เพราะหุ้นที่ขายถือว่าเล็กน้อยมาก และโดยส่วนตัวคาดว่าเป็นการนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว เช่น การชำระเงินกู้ที่ผู้บริหารกู้เงินมาใช้แปลงสภาพ ซึ่งทำ ให้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าว"

นอกจากนี้ การขายหุ้นของผู้บริหารยังถือว่ามีเวลาขายเพียง 8 เดือนในแต่ละปี โดยจะเว้นช่วง 1 เดือนก่อน ประกาศผลการดำเนินงานในแต่ละไตรมาส ต่างจากนักลงทุนทั่วไป ที่สามารถทำการซื้อขายหุ้นได้ตลอดทั้งปี

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้บริหารระดับสูงของ SHIN ไม่ว่าจะเป็นนายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการ และผู้บริหารระดับสูง หลายคน เช่น นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์, นายสมประสงค์ บุญยะชัย, นางศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล และนายดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ ได้ขายหุ้นออกมาส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนตื่นตระหนกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท

ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้น SHIN เมื่อวานนี้ (27 กันยายน) เปิดตลาดภาคเช้าราคาหุ้นอยู่ที่ 38.75 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดประจำวัน และเคลื่อน ไหวในกรอบแคบๆ ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 38.00 บาท ก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยปิดตลาดที่ 38.75 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 406.58 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.