|
"เฟรชมาร์ท" ขอแจ้งเกิดธุรกิจอสังหาฯปั้นแบรนด์นรินทร์ภิรมย์ทดสอบตลาด
ผู้จัดการรายวัน(27 กันยายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
ร้านสะดวกซื้อ "เฟรชมาร์ท" น้องใหม่ขอแจ้งเกิดในวงการอสังหาฯ ซุ่มรุกธุรกิจบ้านจัดสรร หวังสร้างตัวเลขรายได้ให้สวย ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมเปิดตัวโครงการแรกภายใต้แบรนด์ "นรินทร์ภิรมย์" มูลค่า 50 ล้านบาท เจาะกลุ่มวัยทำงาน พร้อมกว้านซื้อที่ย่านสายไหม รอผุดโครงการ 2 อีก 200 หลัง
ถึงแม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทานในบางตลาด อย่างเช่น ตลาดคอนโดมิเนียม หรือตลาดบ้านระดับหรู (ไฮเอนด์) ที่บางทำเล มีการลงทุนเปิดโครงการจำนวนมาก ขณะที่กำลังซื้อในทำเลนั้นๆ มีข้อจำกัดอยู่ ขณะที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์เฮาส์ ยังมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการบางรายเห็นโอกาสเข้ามาทำตลาดในส่วนนี้
นางสาวนรินทร์ จิยารมณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรชมาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ "เฟรชมาร์ท" เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ขณะนี้บริษัทได้ขยายไลน์ไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจใหม่ โดยได้ลงทุนเปิดโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ "นรินทร์ ภิรมย์" รูปแบบทาวน์เฮาส์ ซึ่งจุดมุ่งหมายของการขยายธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท และสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มนักลงทุนก่อนที่บริษัทจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใน อีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยต่อไปธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรและรายได้หลักให้กับบริษัท
"ที่ผ่านมาธุรกิจร้านสะดวกซื้อเฟรชมาร์ท ไม่ได้คิดค่าส่วนแบ่งยอดขายของผู้ซื้อแฟรนไชส์เลย กำไรที่ได้จึงมาจากช่วงเริ่มแรกที่ขาย แฟรนไชส์เท่านั้น และรายได้แต่ละปีก็ไม่มากด้วย เฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่ธุรกิจบ้านจัดสรรสามารถสร้างเม็ดเงินและกำไรได้ทันที โดยมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีช่องว่างที่เติบโตได้อยู่ โดยเฉพาะตลาดประเภททาวน์เฮาส์ที่ยังมีผู้ทำตลาดน้อย เพราะช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดบ้านเดี่ยวขยายตัวมากและมีอัตราการเติบโตสูงจนเกือบถึงขั้นอิ่มตัวแล้ว จึงเชื่อว่าตลาดทาวน์เฮาส์จะเติบโตแทนที่ และมีผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจในตลาดนี้มากขึ้นในปีหน้า อาทิ กลุ่มปริญสิริ ก็เริ่มหันมาขยายบ้านทาวน์เฮาส์มีโครงการแรก ถึง 200 หลัง" นางสาวนรินทร์กล่าว
สำหรับรายละเอียดโครงการนรินทร์ภิรมย์ จะมีจำนวน 29 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ย่านคู้บอน ถนนรามอินทรา มีมูลค่าโครงการประมาณ 50 ล้านบาท ราคาขายเบื้องต้น 1.55 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มก่อสร้างไปบ้างแล้วคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในเดือนมีนาคม 2548 โดยจะเปิดตัวโครงการ และเริ่มการขายประมาณเดือนพ.ย.-ธ.ค.2547
"กลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยทำงาน ที่มีอายุงานตั้งแต่ 5 ปี อายุเฉลี่ย 27 ปีขึ้นไป ซึ่งกลุ่มนี้จะมีระดับเงินเดือน ประมาณ 12,000 บาท ก็สามารถผ่อน บ้านได้แล้ว หรือกลุ่มครอบครัวขนาดเล็กที่ไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่ ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีช่องว่างให้เจาะเข้าไปได้" นางสาวนรินทร์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในโครงการ 2 รูปแบบทาวน์เฮาส์ จำนวน 200 หลัง ทำเลย่านสายไหม บนพื้นที่ 17 ไร่ แต่จะต้องรอดูผลของโครงการแรกก่อน หากสามารถขายให้หมดโครงการภายใน 1-2 เดือนหลังจากเปิดให้จองก็จะดำเนิน โครงการ 2 ต่อได้เลย แต่หากโครงการแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็จะปรับแผนการทำตลาดใหม่ เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าและทำโครงการ 2 ได้อย่างต่อเนื่อง
นางสาวนรินทร์กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก แต่จะต้องหาช่องว่างในการเจาะตลาด ซึ่งรายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรรจะเห็นได้ชัดเจนใน สิ้นปี 2548 ที่มาจากโครงการแรกประมาณ 50 ล้านบาท รวมรายได้ปกติจากขายแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อเฟรชมาร์ทต่อปีเฉลี่ย 100 ล้านบาท เป็น 150 ล้านบาท และในปี 2549 หลังเปิดขายโครงการ 2 รายได้รวมจะเพิ่มเป็น 200-300 ล้านบาท เป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบ้านจัดสรร 80%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|