คลังใช้ช่องกม.ปิดเกมทีพีไอ


ผู้จัดการรายวัน(21 กันยายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ขุนคลังเร่งเครื่องปิดเกม "ทีพีไอ" นำทีมแจงแผนฟื้นฟูกิจการให้กับเจ้าหนี้กว่า 140 ราย หวังล็อบบี้ให้เจ้าหนี้โหวตรับแผน ส่วนผู้บริหาร "ปตท." แจงยังไม่ตัดสินใจซื้อหุ้นทีพีไอ ขณะที่แผนฟื้นฟูฯ "ทีพีไอ โพลีน" ให้ชำระดอกเบี้ยจ่าย 5.4 พันล้านเป็นเงินสด

วานนี้ (20 ก.ย.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการประชุมเพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับ แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ก่อนที่จะนำเสนอรายละเอียดของแผนฟื้นฟูฯให้แก่เจ้าหนี้ได้รับทราบ จำนวนกว่า 140 ราย

นายสมคิด กล่าวว่า คณะผู้บริหารแผนได้เชิญเจ้าหนี้ทั้งหมดมารับฟังรายละเอียดของแผนปรับโครงสร้างหนี้ทีพีไอ เพื่อให้ได้ศึกษาแผนก่อนที่จะมีการลงมติในวันที่ 27 กันยายนนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลและผู้บริหารแผนพยายามที่จะหาแนวทางที่ดีที่สุด และให้ความเป็นธรรมต่อทุก ฝ่าย เนื่องจากที่ผ่านมาทีพีไอมีปัญหา ความขัดแย้งภายในมาตลอดระยะเวลา 7-8 ปี ดังนั้น จึงต้องการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้รับข้อมูลที่ชัดเจน

"รัฐบาลขอยืนยันว่าทำแผนด้วยความเป็นกลาง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยรัฐบาลไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร การทำแผนจะพยายามทำให้ทีพีไอดีที่สุด สรรหามืออาชีพที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารเข้ามา และในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ได้เสียงโหวตจากเจ้าหนี้เพียง 50% ก็ถือว่าผ่านแล้ว"

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้บริหารแผน ทีพีไอ กล่าวว่า การชี้แจงรายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ ทีพีไอครั้งนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ศึกษาแผนให้รอบคอบก่อนจะลงมติ และเป็นการลดขั้นตอนจากเดิมที่ผู้บริหารแผนจะจัดโรดโชว์ให้กับเจ้าหนี้รับฟังในต่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ปารีส ลอนดอน ฮ่องกงและสิงคโปร์ ก่อนจะจัดการประชุมเจ้าหนี้ในวันที่ 27 กันยายนนี้ หลังจากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (จพท.) จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อลงมติโหวตก่อนให้ศาลล้มละลายพิจารณาแผนอีกครั้ง

นายสมบูรณ์ กิติญาณทรัพย์ ที่ปรึกษากฎหมายผู้บริหารแผนจากบริษัท นอร์ตัน โรส จำกัด กล่าวให้ความมั่นใจว่า เจ้าหนี้จะให้การสนับสนุนแผนฟื้นฟูฯ ทีพีไอ โดยการลงมติจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. จะต้องได้มติจากเจ้าหนี้ทีพีไอทุกๆ กลุ่ม ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าหนี้ประมาณ 14 กลุ่ม โดยกรณีแรกในทางปฏิบัติถือว่าทำได้ยากมาก 2. ใช้ พ.ร.บ. ล้มละลายในการขอมติพิเศษจากเจ้าหนี้เพียงกลุ่มเดียว รวมกันแล้วให้ได้ 50% ของเจ้าหนี้ที่ลงมติ ซึ่งจะใช้กฎหมายดังกล่าวในการขอมติผ่านแผนฯ

"การโหวตในแบบแรก หรือกรณีที่ 1 นั้น ในทางปฏิบัติถือว่าทำได้ยากมาก ดังนั้น ผู้บริหารแผนจึงจะเลือกใช้รูปแบบที่สอง ซึ่งจะทำให้แผนฟื้นฟูฯ ผ่านการโหวตได้ง่ายกว่า"

นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันที่ 27 กันยายนนี้ จะเป็นการประชุมเจ้าหนี้สถาบันการเงิน เพื่อขอเสียงสนับสนุน 75%ของเจ้าหนี้ ทั้งหมด หลังจากนั้นจพท. จะจัดการประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 ตุลาคม เพื่อขอเสียงสนับสนุนตามกฎหมายเพียง 50% หากเจ้าหนี้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีมติพิเศษเห็นด้วยกับแผนและเมื่อนับรวมกับเจ้าหนี้ราย อื่นที่มาร่วมประชุม มีคะแนนเพียง 50% ถือว่าแผนผ่านแล้ว ก่อนที่ จพท.จะนำแผนฟื้นฟูฯ ให้ศาล ล้มละลายพิจารณาอนุมัติในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนฟื้นฟูฯ ทีพีไอ ถือว่ามีความเป็นไปได้ระดับหนึ่ง ซึ่งจะต้องนำกลับไปหารือกับผู้บริหารธนาคารก่อน หากจะมีข้อแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดสามารถทำได้ แต่ธนาคารกรุงเทพจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลทุกอย่าง โดยขอบข่ายของแผนจะให้กระทรวงการคลังดำเนินการเรื่องจัดสรรหุ้นของทีพีไอ ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ต่างชาติรุมถาม PTT ซื้อหุ้นทีพีไอ

ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ในการนำเสนอข้อมูลแบบ one on one กับนักลงทุนต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นกองทุนในประเทศแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกานั้น นักลงทุนต่างชาติได้ซักถามเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงในกรณีที่ปตท.จะเข้าไป ซื้อของทีพีไอ ซึ่งบริษัทได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะเข้าไปซื้อหุ้นหรือไม่

ทีพีไอโพลีนบรรลุข้อตกลงร่วมชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายเป็นเงินสด

สำหรับความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการของ บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL นั้น วานนี้ นายกมล ธีรเวชพลกุล ผู้พิพากษา ศาลล้มละลายกลาง เปิดเผยว่า ศาลได้นัดพิจารณาคดีของ ทีพีไอโพลีน ที่ได้ยื่นขอชำระหนี้ดอกเบี้ยค้างจ่ายจำนวน 5.4 พันล้านบาท โดยคู่ความเห็นร่วมกันที่จะให้มีการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอโพลีน ในประเด็นการรับชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายเป็นเงินสด จากเดิมที่ระบุจ่ายเป็นหุ้นใหม่ โดยล่าสุดไว้นำเงินไปวางไว้ศาลเพื่อชำระดอกเบี้ยค้างจ่าย 5.4 พันล้านบาท และเงินต้นของหนี้ที่เป็นส่วนเกินของหนี้ที่ซื้อคืนโดยมีส่วนลดจำนวน 18 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยวางเป็นดราฟต์สำหรับเจ้าหนี้ต่างประเทศและเงินสดสำหรับเจ้าหนี้ไทย

สำหรับคำร้องเพื่อขยายระยะเวลาการบริหารแผนฟื้นฟูฯทีพีไอโพลีน ออกไปอีก 1 ปี จากที่สิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็น 31 ธันวาคม 2548 นั้น ศาลจะนัดพิจารณาและมีคำสั่ง 29 กันยายนนี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.