| |
TF ขายหุ้นบ.ค้าข้าวทิ้งลดเสี่ยง-อภิชาติซื้อคืน
ผู้จัดการรายวัน(20 กันยายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
"พิพัฒ" ตัดใจขายหุ้น 61% ในบริษัทค้าข้าว "เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง" ทิ้ง อ้างลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะต้นทุนการประมูลที่สูงส่อแววขาดทุน ล่าสุดกลุ่มนายอภิชาติ จันทรสกุลพร เตรียมกว้านซื้อหุ้นคืนทั้งหมด
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) (TF) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา มาม่า หรือประธานกรรมการบริษัทเพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่จำนวน 61% ในบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้งทั้งหมดทิ้ง โดยเป็นการขายในส่วนที่บริษัทไทย เพรซิเดนท์ ไรซ์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเส้นหมี่ถือหุ้นอยู่ 51% และบริษัทไทย เพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่าถือหุ้น 10% โดยจะขายในราคาหุ้นละ 14 บาท ให้กับกลุ่มนักลงทุนคนไทย รวมเม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้นประมาณ 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่นายพิพัฒตัดสินใจขายหุ้นทิ้งทั้งหมดนั้น เป็นเพราะต้องการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ เพราะบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง นั้นเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับส่งออกข้าว ทำให้ต้องมีเรื่องประมูลเข้ามาเกี่ยวข้อง และการประมูลข้าวในแต่ละครั้งจะต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก ซึ่งหากไม่สามารถประมูลได้ บริษัทไทยเพรซิเดนท์ ไรซ์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ 51% ในบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ จะต้องขาดทุนมาก
นอกจากนี้ยังมองว่า ธุรกิจส่งออกข้าวเป็น ธุรกิจขนาดใหญ่ โดยพบว่ารายได้จากบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกมีถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ในขณะที่บริษัทแม่หรือบริษัทไทยเพรซิเดนท์ ไรซ์ ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับมีรายได้เพียง 600-700 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งการทำธุรกิจส่งออกข้าวก็ไม่ได้เอื้อให้กับธุรกิจบริษัทแม่เท่าไรนัก นอกเสียจากนำข้าว มาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นหมี่ขาวเท่านั้น
"ที่ผ่านมาบริษัทฯไม่เคยเข้าไปบริหารงานในบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง มีแต่นายอภิชาติ จันทรสกุลพร ซึ่งถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งนั้นเป็นผู้บริหารงานบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง เองทั้งหมด นอกจากนี้ก่อนหน้านั้นบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริยังมีปัญหาในเรื่องของการจำนำข้าวของผู้ประกอบการรายย่อยที่หายไป ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่เพิ่ม มาจากการต้องจ้างคนเพื่อไปตรวจดูสต๊อกข้าว เพื่อแสดงให้ผู้ตรวจบัญชีเห็นว่าเรามีข้าวอยู่ในสต๊อกจริง ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนมากในการจ้างคนไปดูสต๊อกข้าวเพื่อให้ผู้ตรวจสอบบัญชีรับรองงบบัญชี"
นายพิพัฒ กล่าวว่า ปัจจุบันไทย เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท และกำลังเตรียมจะเพิ่มทุนเป็น 400 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัท เพรซิเดนท์ ไรซ์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นในบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จากเดิม 51% ลดลงเหลือเป็น 10% ทันที แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้ตัดสินใจที่จะขายหุ้นทิ้งก่อนหน้าที่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ จะเพิ่มทุนจดทะเบียนแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาตัดสินใจหลังจากที่บริษัทจะเพิ่มทุน
อีกทั้ง บริษัทเพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้งยังได้มีมติว่าการเพิ่มทุนจดทะเบียนโดยขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมด้วย แต่ทางบริษัทมีมติ ที่จะไม่ใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนที่บริษัทถืออยู่และให้ขายเงินลงทุนออกไปทั้งหมดให้กับนักลงทุนรายอื่น
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่จะเข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 61% นั้น แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คือ กลุ่มนายอภิชาติ จันทรสกุลพร จะเป็นผู้ซื้อหุ้นกลับคืนมาเองทั้งหมด ซึ่งจะทำให้นายอภิชาติเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ภายใต้บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้งแทนที่นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ อย่างเต็มตัว
สายสัมพันธ์พิพัฒน์กับบริษัทค้าข้าว
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มว่า บริษัทไทย เพรซิเดนท์ ไรซ์ โปรดักส์ อยากดำเนินธุรกิจแบบค่อยๆ เติบโตไปเรื่อยๆ อยากนอนสบายๆ ไม่อยากนอนก่ายหน้าผาก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทยังคงมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทไทย เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง โดยยังคงสั่งซื้อข้าวมาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นหมี่ขาวต่อไป
ส่วนความเป็นมาของการเข้าไปร่วมถือหุ้นในบริษัทไทย เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้งว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเริ่มอิ่มตัวยอดขายก็ไม่ดีมากนัก บริษัทจึงได้ขยายธุรกิจใหม่เพื่อหารายได้จากธุรกิจอื่นมาทดแทน จึงได้จัดตั้งบริษัทไทย เพรซิเดนท์ ไรซ์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อผลิตเส้นหมี่ขาวออกจำหน่าย โดยกระบวนการผลิตเส้นหมี่ขาวจำเป็นจะต้องใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต
ดังนั้น บริษัทจึงได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทไทย เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ต่อมาบริษัทดังกล่าวขยายธุรกิจไปสู่การส่งออกข้าวโดยมียอดขายสูงถึง 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดของประเทศ เพราะเมื่อ เทียบกับมูลค่าการส่งออกข้าวไทยรวมทั้งหมด 9 ล้านตัน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|