TCP ประกาศเพิ่มทุน 1 พันล้านบ. ซื้อเครื่องจักร-ลดต้นทุนการผลิต


ผู้จัดการรายวัน(17 กันยายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

บอร์ด TCP ไฟเขียวเพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นใหม่จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท เพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ในโครงการ Co-Generation Plant ที่โรงงานผลิตกระดาษคราฟท์ของบริษัทฯ และทำให้ประหยัดต้นทุนด้านพลังงานปีละถึง 300 ล้านบาท และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน คาดสั่งซื้อหม้อไอน้ำได้เดือนนี้ ส่วนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และอุปกรณ์ประกอบซื้อได้เดือนตุลาคม

นายยรรยง พุทธาพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (TCP) แจ้งว่าบริษัทได้ดำเนินการพิ่มทุนตามแผนที่บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 2,584,158,410 บาท เป็น 3,584,158,410 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท

โดยบริษัทจะทำการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จะจัดสรรหุ้นสามัญ จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ต้องจดทะเบียนการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 เพื่อเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ต่อกระทรวงพาณิชย์ ดังนี้คือ จดทะเบียนลดทุนจาก 2,700,000,000 บาท เป็น 2,584,158,410 บาท โดยวิธีการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายและมิได้ถูกจัดสรรไว้เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 11,584,159 หุ้น หลังจากนั้น บริษัทก็ต้องจดทะเบียนเพิ่มทุนจาก 2,584,158,410 บาท เป็น 3,584,158,410 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 100,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนส่วนที่เพิ่มในครั้งนี้ คือ บริษัทจะนำเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ในโครงการ Co-Generation Plant สำหรับโรงงานผลิตกระดาษคราฟท์ของบริษัทฯ ที่จังหวัดปราจีนบุรี มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท

ซึ่งภายหลังจากการเพิ่มทุนดังกล่าว จะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิตด้านพลังงานประมาณปีละ 300 ล้านบาท อันจะส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ด้านนโยบายเงินปันผล บริษัทฯ ยังคงนโยบายที่จะจ่ายเงิน ปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิในแต่ละปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องทางการเงินภายในบริษัทฯ และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(ดีอี เรโช)

สำหรับผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีสิทธิรับเงินปันผล หลังจากบริษัทจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว หากเมื่อใดที่บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีสิทธิได้รับเงินปันผลเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นสามัญรายอื่นของบริษัทฯ

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการดำเนินการในกรณีที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ประกอบด้วย คณะกรรมการบริษัทมีมติ วันที่ 15 กันยายน 2547, ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 1 ตุลาคม 2547, ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 21 ตุลาคม 2547 ส่วนการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและชำระค่าหุ้นจะกำหนดภายหลัง

สำหรับ มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 15 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมบอร์ดได้ยกเลิกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวน 1,746,278 หน่วย ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมไว้ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จำกัด (NFS) ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ แต่เนื่อง จากบริษัทฯ ได้ชำระหนี้ให้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวนดังกล่าวให้แก่ NFS พร้อมกับการลดทุนจดทะเบียน จาก 2,700,000,000 บาท เป็น 2,584,158,410 บาท โดยวิธีการตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังมิได้ออกจำหน่าย และมิได้ถูกจัดสรรไว้เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวน 11,584,159 หุ้น คงเหลือหุ้นสามัญจำนวน 258,415,841 หุ้น ก่อนที่จะให้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนดังกล่าว

สำหรับการเจรจาจัดซื้ออุปกรณ์ ในโครงการ Co-Generation Plant สำหรับโรงงานผลิตกระดาษคราฟท์ของบริษัทฯ นั้น คาดว่าจะสั่งซื้อได้หม้อไอน้ำได้ในเดือนกันยาน 47 นี้ ส่วนชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ ประกอบ (Turbine Generator and Equipment) ซึ่งคาดว่าจะสามารถสั่งซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า(Turbine Generator) ได้ภายในเดือนตุลาคม 2547

ทั้งนี้ คู่สัญญากับบริษัทฯ ในการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์หม้อไอน้ำ (Boiler) คือ บริษัท Foster Wheeler Energia OY (ประเทศฟินแลนด์) และบริษัทฟอสเตอร์ วิลเลอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและติดตั้งอุปกรณ์หม้อไอน้ำชั้นนำ และมีความน่าเชื่อถือโดยดูจาก Re-ference List ของผู้ใช้งาน Boiler ในอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษทั้งในประเทศ และในระดับภูมิภาค

รวมทั้งคู่สัญญาดังกล่าวยังมีศูนย์บริการ (Workshop & Engineering) ในประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ผู้จัดหาอุปกรณ์ทั้งสองรายนี้เป็นคู่สัญญาที่ไม่มีความเกี่ยวโยงและไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้จัดหาอุปกรณ์ชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ (Turbine Generator and Equipment) ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดและเงื่อนไขได้ภายในเดือนตุลาคม 2547


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.