|
นกแอร์เปิด 2 เส้นทางใหม่
ผู้จัดการรายวัน(15 กันยายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
นกแอร์เมินเล่นสงครามราคา คุยตลาดตอบรับดี 2 เดือนแรกโกยยอดขายโตถึงจุดคุ้มทุนในด้านค่าบริหาร และลุยเปิดเพิ่มอีก 2 เส้นทางภูเก็ต,พิษณุโลก มั่นใจผู้โดยสารแต่ละเที่ยวไม่น้อยกว่า 70% เดือนหน้าจับมือธนาคารกรุงเทพและกรุงไทย เพิ่มบริการจ่ายค่าตั๋วผ่านเอทีเอ็ม ด้านแผนงานในปีหน้าลุยเพิ่มเส้นทางอีก 3 จังหวัด เชียงราย ขอนแก่น และกระบี่ ส่วนเส้นทางต่างประเทศ ไตรมาสแรกปี 2548 เปิดอีก 2 เส้นทางเน้นบินเมืองเศรษฐกิจในอาเซียน ระยะทางไม่เกิน 2 ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เพิ่มเที่ยวบินอีก 2 เส้นทางในประเทศ คือ ภูเก็ตและพิษณุโลก ทั้ง 2 เส้นทางจะบินวันละ 2 เที่ยว โดยภูเก็ตมีที่นั่ง 2 ราคา คือ 1,150 บาท และ 2,350 บาทต่อที่นั่ง ส่วนพิษณุโลกมีราคาเดียวคือ 1,400 บาทต่อที่นั่ง จะเริ่มบินตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยผู้โดยสารสามารถจองที่นั่งได้ ตั้งแต่วันนี้ และจากการเพิ่มเส้นทางบินครั้งนี้จะทำให้นกแอร์มีเส้นทางบินในประเทศทั้งหมด 5 เส้นทาง จากเดิมที่มีเพียง 3 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และอุดรธานี
การเพิ่มเส้นทางภูเก็ต และพิษณุโลก เพราะเราเล็งเห็นศักยภาพของทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว คือ ภูเก็ต เป็นเมืองศูนย์กลางท่องเที่ยวของภาคใต้ ประกอบกับปัจจุบันเที่ยวบินทุกสายที่บินไปภูเก็ตเต็ม ทุกไฟลต์ ดังนั้น เราจึงเข้าไปเพิ่มซัปพลายรองรับตลาดได้อีกทางหนึ่ง ขณะที่จ.พิษณุโลกถือเป็นศูนย์กลางทางด้านขนส่งและโทรคมนาคม หรือเป็นฮับของทิศเหนือตอนล่าง ดูได้จากการออกแบบสนามบินที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ประกอบกับพิษณุโลก จะสามารถรองรับผู้โดยสารจากจังหวัดโดยรอบ เช่น สุโขทัย แม่สอด และตาก ทั้ง 2 เส้นทาง บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการไม่น้อยกว่า 70-80% ของจำนวนที่นั่งในแต่ละเที่ยวบิน
"นโยบายของนกแอร์จะบินในเส้นทาง หรือเมืองที่เป็นทั้งศูนย์กลางธุรกิจและท่องเที่ยว เราจึงศึกษาตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งจุดแข็งของนกแอร์จะอยู่ด้านการบริการ ความแม่นยำเรื่องเวลาบิน และระบบความปลอดภัย เราจะไม่แข่งเรื่องราคา ขณะเดียวกันเราจะนำเสนอราคาสุทธิกับลูกค้า คือบวกค่าสนามบิน และ VAT แล้ว เนื่องจากพฤติกรรมคนไทยต้องการราคาที่จ่ายจริง อีกทั้งยังไม่มีปัญหาที่จะต้องชี้แจงกับสคบ.ด้วย"
ทั้งนี้ จากการเปิดบริการสายการบินนกแอร์ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผู้โดยสารเข้าใช้บริการเฉลี่ย 70-80% ของจำนวนที่นั่งต่อครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางหาดใหญ่ที่มีผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 80% ของจำนวนที่นั่ง ทำให้ปัจจุบันนกแอร์มีรายได้ถึงจุดคุ้มทุนในค่าบริหารจัดการต่อเที่ยวแล้ว ถือเป็นความสำเร็จที่เร็วมากในธุรกิจการบิน
ด้านแผนการตลาดในปีหน้า ช่วงไตรมาสแรก จะเปิดเที่ยวบินในเส้นทางต่างประเทศ โดยมีเงื่อนไข คือจะต้องเป็นเส้นทางที่สามารถทำเงินให้กับนกแอร์ได้แน่นอน และต้องใช้เวลาบินไม่เกิน 2 ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ ปัจจุบันศึกษาไว้ทั้งหมด 12 เมืองเศรษฐกิจ แต่จะเลือกมาแค่ 2 เมืองก่อน เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าจะเปิดเส้นทางสู่อินเดียตอนใต้-ตะวันออก และประเทศจีนตอนใต้
ส่วนเส้นทางในประเทศ เตรียมเปิดเพิ่มเส้นทาง เชียงราย ขอนแก่น และกระบี่ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา จะต้องรอในเรื่องของเครื่องบินที่จะได้รับมาเพิ่มจากการบินไทย ในปีหน้าคาดว่าจะได้อีก 2-3 ลำ โดยจะเป็นเครื่องโบอิ้ง 737-400 ขนาด 149 ที่นั่งเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของบริการนกแอร์ยังเน้นเรื่องที่เป็นจุดแข็ง เช่น การจ่ายเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ปัจจุบันให้บริการที่เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์เพียงแห่งเดียว และในเดือนหน้าจะเพิ่ม อีก 2 ธนาคาร คือ เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพและธนาคารกรุงไทย
นายพาที กล่าวว่า ความสำเร็จของนกแอร์ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า สายการบินโลว์คอสต์ ไม่ใช่ต้องมาแข่งขันกันเรื่องราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะทุกอย่างคือต้นทุนโดยเชื้อเพลิงหรือน้ำมันจะคิดเป็น 30% ของต้นทุนในแต่ละเที่ยวบิน และที่ผ่านมานกแอร์ก็ไม่เคยเล่นสงครามราคาหรือใช้ราคาค่าตั๋ว มาดึงดูดผู้โดยสาร แต่เราขายเรื่องของภาพลักษณ์และการบริการเสมือนหนึ่งใช้บริการของการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินที่มีจุดแข็งเรื่องบริการเช่นกัน ลูกค้าจึงให้การตอบรับที่ดีเกินคาด
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าปัจจุบันสายการบินโลว์คอสต์ที่นำราคามาเป็นจุดดึงลูกค้าคือ แอร์เอเชียที่มีโปรโมชันตั๋วเครื่องบินราคาถูก เป็นแคมเปญ ทุกเดือนหมุนเวียนไปในแต่ละจังหวัด ล่าสุดเปิดแคมเปญราคาตั๋ว กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ในราคา 11 บาท จากก่อนหน้านี้ สายการบินไทเกอร์แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินโลว์คอสต์ของประเทศสิงคโปร์ ได้เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยใช้แคมเปญราคาตั๋วจากกรุงเทพฯไปสิงคโปร์ในราคา 1 ดอลลาร์ สิงคโปร์ หรือประมาณ 25 บาท โดยไทเกอร์แอร์จะบินเที่ยวแรกจากสิงคโปร์มากรุงเทพฯในวันนี้ (15 ก.ย.)
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|