ภายในโชว์รูมของคิงส์ คอลเลคชั่น นอกเหนือจากชิ้นงานที่เป็นผลผลิตของบริษัทแล้ว
ณรงศักดิ์ ผ้าเจริญ ยังได้นำเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่ยุคบ้านเชียง 2 ใบมาวางประกอบไว้ใกล้กับเก้าอี้ชุด
ซึ่งใช้เป็นที่เจรจาธุรกิจมาแล้วหลายครั้ง
"มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่ต้องการสื่อให้ลูกค้ารู้ว่าในประวัติศาสตร์
คนไทยมีความชำนาญในการทำหม้อไหมาเป็นเวลากว่า 4,000 ปีมาแล้ว" เขาให้เหตุผล
ณรงค์ศักดิ์บอกว่า การจะขายงานหัตถกรรมได้ดี นอกเหนือจากการตลาดที่ต้องทำอย่างมืออาชีพและเป็นระบบแล้วยังต้องขายที่
culture และประวัติศาสตร์
"ถ้าเราจะสู้อิตาลี หรือฝรั่งเศสได้ เราต้องใช้จุดนี้"
เชียงใหม่ เป็นเมืองที่มี culture ประวัติศาสตร์เชียงใหม่ มีอายุยาวนานมากว่า
700 ปี ดังนั้นณรงค์ศักดิ์ จึงคิดที่จะนำประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของเชียงใหม่
มาประยุกต์เพื่อให้เป็นสไตล์เฉพาะของท้องถิ่น
เขามีแผนว่าจะนำสิ่งเหล่านี้ มาประกาศเป็น trend ของตัวเองในอนาคต ที่เรียกว่า
LANNA TREND
"ล้านนาจะแตกต่างจากสุโขทัย หากเทียบกับสุโขทัยมีวัดเพียงอย่างเดียว แต่ของเรามีทั้งภาษาพูด
ภาษาเขียน มีวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่วัดของล้านนามีเครื่องแต่งกาย เช่น ผ้าตีนจก
มีของแต่งบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองต่างหาก" วัฒนธรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของล้านนานี้
ณรงค์ศักดิ์ เปรียบเทียบได้ว่าเป็น lose civilization หรือเป็นความศิวิไลซ์ที่สูญหายไปไม่ค่อยถูกหยิบขึ้นมากล่าวในประวัติ
ศาสตร์ชาติไทย" แต่ถ้าเราเข้าไปดูในแมกกาซีนต่างประเทศ ถ้าเขาบอกว่า แต่งบ้านสไตล์ไทยเมี่อไร
เกือบทั้งหมดเป็นสไตล์ล้านนาทั้งนั้น"
ขณะนี้เขากำลังให้ทีมงานทุกคน ไปเร่งศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
วัฒนธรรมของล้านนาอย่างขะมักเขม้น
ผู้ส่งออกงานหัตถกรรมบางคนมองว่าแม้สิ่งที่ณรงค์ศักดิ์ทำจะเป็นสิ่งที่ดี
แต่อาจจะยากสักหน่อย หากต้องการให้ประสบความสำเร็จ แต่สำหรับณรงค์ศักดิ์แล้ว
เขามีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง
"ผมยกเรื่องล้านนามาเล่น เพราะต้องการขาย culture"