"วิโรจน์" รีเทิร์นกรุงไทยเซ็นสัญญาใหม่ 2 ปีครึ่ง


ผู้จัดการรายวัน(3 กันยายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

"วิโรจน์ นวลแข" นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการแบงก์กรุงไทยแน่นอนแล้ว เซ็นสัญญาสมัยที่ 2 รวม 2 ปี 6 เดือน "สมคิด" เห็นชอบ ด้านสหภาพฯและชมรมผู้จัดการสาขาฯหนุนเต็มที่ ระบุยิ่งช้าแบงก์ยิ่งเสียหาย ประกาศไม่เป็นเครื่องมือผู้ไม่หวังดีทำลายแบงก์ "ศุภรัตน์" เผยตั้ง "วิโรจน์" ไม่ต้องรอสอบหนี้เน่าเสร็จ "หม่อมอุ๋ย" ทวงผลสอบหนี้เน่าจากคณะกรรมการ ตรวจสอบ ลั่นฟันผู้เกี่ยวข้องทุกคน

นายชัยอนันต์ สมุทวณิช กรรมการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารกรุงไทย จะมีการประชุมเพื่ออนุมัติการแต่งตั้ง นายวิโรจน์ นวลแข เป็นกรรมการผู้จัดการ คนใหม่ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ คาดว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากผ่านขั้นตอนของคณะกรรมการสรรหา การต่อรองเงินเดือน และผลตอบแทนเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นชอบแล้ว โดยนายวิโรจน์จะทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง หรือตั้งแต่เดือนกันยายน 2547 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งนายวิโรจน์จะมีอายุ 60 ปี

แหล่งข่าวธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า นายสมคิดต้องการให้แต่งตั้งนายวิโรจน์โดยเร็วที่สุด เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาธนาคารกรุงไทยได้รับความเสียหายจากปัจจัยจากผลการดำเนินงานที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ลูกค้าธนาคารและประชาชนทั่วไป เนื่องจากไม่ได้รับการอธิบายที่ชัดเจนจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน มีการปล่อยข่าวโจมตีธนาคารจากผู้ไม่หวังดีเพื่อหวังผลไม่ให้นายวิโรจน์กลับมา และทำกำไรจากราคาหุ้นที่มีความผันผวน

"มีการให้ข่าวร้ายที่บิดเบือนความจริงอย่างต่อเนื่อง เช่นข่าวกองทุนฟื้นฟูฯจะขายหุ้นออก ดังนั้นช่วงที่กรุงไทยไม่มีเอ็มดี ความเสียหายไม่ได้เกิดกับแบงก์กรุงไทยแห่งเดียว แบงก์รัฐอย่างนครหลวงไทยก็ได้รับผลกระทบไปด้วย นอกจากนี้ระบบสถาบันการเงินและตลาดหุ้นยังเสียหายไปด้วย"

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการที่มีพล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ เป็นประธาน ไม่ได้กระตือรือร้นในการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งนายวิโรจน์ จึงไม่มีการเรียกประชุมคณะกรรมการในวาระพิเศษซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที

"แม้รัฐมนตรีคลังอยากให้รีบดำเนินการโดยด่วน แต่บอร์ดยังคงยืนยันการประชุตามวาระปกติคือวันที่ 9 ก.ย. เพราะมีผู้มีอำนาจบางคนในบอร์ดพยายามยื้อจนนาทีสุดท้าย ดังนั้นกว่าคุณวิโรจน์จะเริ่มงานอาจจะต้องรอถึงปลายสัปดาห์หน้าหรือกลางเดือน"

ตั้งแต่นายวิโรจน์พ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2547 ธนาคารกรุงไทยประสบปัญหารอบด้าน ที่สำคัญๆ ได้แก่ การถูกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สั่งกันสำรองหนี้ด้อยคุณภาพจากการปล่อยสินเชื่อหละหลวม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน มีการปล่อยข่าวและให้ข้อมูลโจมตีนายวิโรจน์เพื่อหวังผลไม่ให้กลับมาเป็นกรรมการ ผู้จัดการเป็นสมัยที่ 2

ปัจจัยข้างต้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่น สังเกตจากราคาหุ้น KTB ลดลงจาก 11.40 บาท เมื่อ (9 ก.ค.) ปัจจุบันเหลือเพียง 8.05 บาท (2 ก.ย.) ที่สำคัญ KTB ได้ฉุดดัชนีตลาดหุ้นอีกด้วย เนื่องจากเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ มีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ติด 1 ใน 10 อันดับแรก

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล รองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพหนี้ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การแต่งตั้งนายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณภาพหนี้ โดยได้มีการตกลงในร่างสัญญาว่าจ้างนายวิโรจน์เรียบร้อยแล้ว หากคณะกรรมการธนาคารฯเห็นชอบจะเสนอกระทรวงการคลัง

ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินงานตรวจสอบคุณภาพหนี้ นายศุภรัตน์กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยพิจารณาจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง สามารถบ่งบอกถึงคุณภาพหนี้ทั้งหมด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการหารือกับธปท.ว่า หนี้ที่ธปท. เคยจัดชั้นสงสัยจะสูญมีคุณภาพดีขึ้นหรือไม่ หากดีขึ้นก็ควรจะมีการปรับเป็นชั้นหนี้ที่ดีเพื่อประสิทธิภาพในการบริหารหนี้ของธนาคารต่อไป

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าฯธปท. เปิดเผยว่า เดิมกำหนดเวลาที่คณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพหนี้ธนาคารกรุงไทยจะต้องรายงานธปท. คือวันที่ 31 ส.ค. แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับ แต่เชื่อว่าจะได้รับรายงานเร็วๆ นี้

ส่วนประเด็นที่จะนำมาพิจารณาหาบุคคลที่กระทำความผิดในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวนั้น จะต้องพิจารณากันอีกครั้ง หากเป็นระดับกรรมการบริหารจะเป็นหน้าที่ของศาลที่จะพิจารณาว่ามีเจตนาหรือไม่ การอนุมัติสินเชื่อขณะนั้นมีเอกสารและเหตุผลเพียงพอหรือไม่ หากมีวาระซ่อนเร้น เจตนาปกปิดตั้งแต่ต้น คงจะต้องอยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะดำเนินการอย่างไร ตอนนี้ธปท.ขอ รอดูผลสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบฯก่อน

ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า การดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตในการอนุมัติสินเชื่อที่ไม่ชอบมาพากลในอนาคตนั้น ธปท.จะเข้มงวดและจริงจัง โดยจะเน้นการดำเนินคดีที่สามารถสาวถึงผู้กระทำผิด โดยจะพิจารณาถึงตัวเงินที่ได้มีการอนุมัติว่าตกไปถึงใครเพื่อนำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้

"แบงก์ชาติต้องการที่จะให้มีหลักฐานเพียงพอ เมื่อฟ้องแล้วจะต้องชนะจึงจะดำเนินการยื่นฟ้องร้องกับผู้บริหารสถาบันการเงินได้ และกฎหมายใหม่ที่ออกมาจะเป็นการทำงานร่วมกัน ที่มีความชำนาญมากขึ้น มีการประสานงานตรวจสอบข้อมูลกันได้ ทำให้งานออกมารัดกุม" ผู้ว่าการธปท.กล่าว

"สหภาพฯ-ผจก.สาขา"หนุนวิโรจน์ยันไม่ขอเป็นเครื่องมือความขัดแย้ง

นายปรีชา นวปราการ ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า สนับสนุนให้นายวิโรจน์กลับมาและการกลับมาของนายวิโรจน์เป็น เรื่องที่น่ายินดีสำหรับพนักงาน เนื่องจากนายวิโรจน์เป็นกรรมการผู้จัดการสมัยแรก มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและยังทำกำไรให้ผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกันลดหนี้เสียลงและเพิ่มสวัสดิการพนักงาน

"ขณะนี้เป็นช่วงสุญญากาศ คุณวิโรจน์จึงควรกลับมาทำหน้าที่โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ธนาคารและพนักงานบอบช้ำไปมากกว่านี้"

นายปรีชาเปิดเผยว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานที่มีการลงทุนใหุ้น KTB ได้รับความเสียหายจากราคาหุ้นที่ลดลงทั้งๆ ที่ผลประกอบการธนาคารยังแข็งแกร่ง

ส่วนกรณีการตรวจสอบหนี้ด้อยคุณภาพนั้น นายปรีชายืนยันว่าจะปกป้องพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีระบบตรวจสอบตามปกติอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่น่าเป็นห่วง

นายชูชาติ วิวัฒน์เดชากุล ประธานชมรม ผู้จัดการสาขาธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การทำหน้าที่ของนายวิโรจน์สมัยแรกทำให้ธนาคารกรุงไทย พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน เพราะนายวิโรจน์จริงจังกับการทำงาน สำหรับข่าวที่อ้างว่า ชมรมผู้จัดการธนาคารกรุงไทยเคลื่อนไหวโดยขอเข้าพบพล.อ.มงคลเพื่อขอคำชี้แจงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบหนี้ระบุว่า ให้ตรวจสอบความผิดเฉพาะระดับรองกรรมการลงไป ส่วนผู้บริหารระดับสูงกว่าไม่ผิดนั้น นายชูชาติกล่าวว่า ไม่เป็นความจริงและพนักงานไม่ได้ขวัญเสีย

"ชมรมฯจะชี้แจงเป็นบันทึกหรือหนังสือเวียนภายในให้พนักงานทราบผ่านเว็บไซต์ โดยยืนยันว่าไม่มีการชุมนุมตามข่าว เพราะการปล่อยสินเชื่อของพนักงานมีระบบตรวจสอบอยู่แล้ว ใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ"

นายชูชาติกล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจและธนาคารกรุงไทยได้รับความบอบช้ำจากการกระทำของผู้ไม่หวังดี โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่เป็นความจริง จึงขอวิงวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยุติการให้ข่าวร้าย และหากมีความขัดแย้งของคนบางกลุ่มหรือผู้มีอำนาจ อย่านำชมรมผู้จัดการสาขาเข้าไปเกี่ยวข้อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.