|
"จาติกวนิช" ในเอสโซ่
นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่บริษัทน้ำมันข้ามชาติขนาดใหญ่อย่าง ExxonMobil ได้ออกหมายเชิญสื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ ให้เข้าร่วมฟังการบรรยายสรุปในหัวข้อ "Outlook for Energy : 2020 View" ที่ได้จัดขึ้น ณ โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมกับเป็นการแนะนำธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่ ExxonMobil ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2510
หัวใจหลักของการบรรยายเป็นผลงานการวิจัยร่วมกันระหว่าง ExxonMobil, Global Climate & Energy Project ศูนย์วิจัยด้านพลังงานจาก Standford University, GE, Schlumberger และ Toyota แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์พลังงานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2020 ซึ่งคาดว่าน้ำมันและแก๊ส ยังคงเป็นแหล่งพลังงานหลักที่สำคัญ ในขณะที่พลังงานทดแทน (renewable energy) จะเพิ่มบทบาทความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้จะต้องอาศัยการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรมจากภาครัฐบาล รวมทั้งมีการพูดถึงผลกระทบของพลังงานแต่ละชนิดที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีการกล่าวกันมามากก่อนหน้านี้
เป็นการบรรยายให้เห็นภาพกว้างๆ ของสถานการณ์พลังงานในอีกประมาณ 15 ปีข้างหน้า ซึ่งสามารถชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มและความสำคัญของการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับพลังงานบ้างไม่มากก็น้อย ก่อนที่จะมีการแนะนำธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา
โรงกลั่นน้ำมันเป็นธุรกิจที่ ExxonMobil เข้ามาลงทุนในประเทศไทยในนามบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นโรงกลั่นน้ำมันขนาดกลาง ที่ได้เริ่มกลั่นน้ำมันดิบในปี 2510 มีกำลังผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน และได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันสามารถกลั่นน้ำมันดิบได้ประมาณวันละ 27 ล้านลิตร โดยรับน้ำมันดิบมาจากตะวันออกกลาง และประเทศ ในแถบเอเชีย เช่น บรูไน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสอันดีในการเปิดตัวปรุต จาติกวนิช ผู้จัดการโรงกลั่นคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกต่อสื่อมวลชน
ปรุตจบจากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมีเทคนิค จากจุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปศึกษาต่อด้านวิศวกรรมเคมีจาก New Brunswick University ประเทศแคนาดา
หลังเรียนจบในปี 2529 เขาเริ่มทำงานที่เอสโซ่ฯ โดยเข้าเป็นวิศวกรการกลั่นประจำโรงกลั่น ก่อนที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนรับตำแหน่งผู้จัดการส่วน ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสำคัญในธุรกิจ การกลั่นน้ำมัน หลังจากปฏิบัติงานอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 12 ปี ในปี 2541 ปรุตได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ โดยเริ่มที่ศูนย์วางแผนระดับภูมิภาคในประเทศสิงคโปร์ เป็นระยะเวลา 2 ปี ก่อนที่จะย้ายไปประจำที่สำนักงาน ใหญ่ของ ExxonMobil ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นในภาคพื้นยุโรป
ปี 2544 ปรุตได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการส่วนสนับสนุนการกลั่น ณ โรงกลั่นน้ำมันทอแรนซ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อน ที่จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการส่วนปฏิบัติการกลั่น ซึ่งถือเป็น ภารกิจสุดท้ายในต่างประเทศก่อนที่จะเดินทางกลับมารับตำแหน่ง ผู้จัดการโรงกลั่นศรีราชา ต่อจากวัฒนา จันทรศร ผู้จัดการโรงกลั่นคนก่อน
ด้วยวัยเพียง 40 ปีต้นๆ ปรุตจัดได้ว่าเป็นผู้จัดการโรงกลั่น ที่อายุยังน้อย ที่มีภารกิจสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของธุรกิจน้ำมันรออยู่ข้างหน้า
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|