|
แบรนด์ใหม่ของ สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง
นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
กลางเดือนที่แล้ว บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นที่โรงแรม Four Seasons โดยมีเป้าหมายสำคัญ 2 เรื่อง
เรื่องแรกเพื่อแจ้งให้สื่อมวลชนทราบถึงรายได้รวมในช่วง 6 เดือนแรกของบริษัทเป็นเงิน 1,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วงไตรมาส 2 นี้ บริษัทมีกำไรสุทธิไปแล้ว 188.9 ล้านบาท
เรื่องที่ 2 ความคืบหน้าในการขาย The Park ชิดลม โครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาขาย 9.5 หมื่นบาทถึง 1.1 แสนบาทต่อ ตารางเมตร เป็นราคาขายที่สูงกว่าทุกโครงการ ซึ่งกำลังขายอยู่ในเมืองไทยปัจจุบัน
นอกจากรายได้ของธุรกิจหลักคือการขายและให้เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสากหรรมที่บ่อวิน ระยอง และมาบตาพุดแล้ว HEMRAJ กำลังมองเลยไปถึงการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเมือง ภายใต้ แบรนด์ "The Park"
ปลายปีที่ผ่านมา HEMRAJ ได้พัฒนา "The Park ชิดลม" โครงการแรกไปแล้วในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เศษ ระหว่างซอยสมคิด และชิดลม การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 อาคาร คืออาคารชิดลมสูง 28 ชั้น 117 ยูนิต และอาคารสมคิดสูง 35 ชั้น 102 ยูนิต กำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2549 โดยได้รับเงินสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทยประมาณ 1,800 ล้านบาท
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายโฟกัสชัดเจนไปยังผู้มีรายได้สูงทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมถึงลูกค้าระดับผู้บริหารจากนิคมอุตสาหกรรม โดยมีจุดเด่นของที่ตั้งและความหรูหราของโครงการ เป็นจุดขาย ในราคาห้องขนาดเล็กสุด 140 ตร.ม. ยูนิตละ 13 ล้านบาท ไปจนถึงขนาด 3 ห้องนอนราคาประมาณ 36 ล้านบาท
บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ (ประเทศไทย) ได้ออกแบบ The Park ในแนวสถาปัตยกรรม Art Deco เช่นเดียว กับที่พักอาศัยในย่านเซ็นทรัล พาร์ค นครนิวยอร์ก ภายในตกแต่ง ด้วยบรรยากาศรีสอร์ต ส่วนในห้องพักออกแบบให้อินทีเรียร์นำดีไซน์ที่ทุกอย่างต้องลงตัว เพื่อให้เหมาะกับการอยู่อาศัยจริงมาก ที่สุด
รายได้โครงการจะเริ่มเข้ามาไตรมาส 4 ของปีนี้ ส่งผลทำให้รายได้ทั้งปีของ HEMRAJ สูงถึง 3,100 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ของการขายคอนโดมิเนียมประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมในปีหน้าคาดว่าสูงถึง 5,000 ล้านบาท แน่นอนรายได้ ของการขายคอนโดมิเนียมจะเป็นส่วนสำคัญที่สุด
พร้อมๆ กันนั้น The Park ก็ได้มองหาที่ดินแปลงใหม่ใจกลางเมือง เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดหรู ตอกย้ำแบรนด์นี้ต่อไป
เพราะทุกโครงการของ HEMRAJ กำลังเร่งยอดขายอยู่นั่นเอง สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ในฐานะประธานกรรมการบริหารบริษัท เลยต้องเปรยๆ กับผู้สื่อข่าว ผ่านมายังเจ้าหนี้ส่วนตัวว่าเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับเรื่องการบริหารงาน เรื่องหนี้ของตนเอง 2 หมื่นกว่าล้านบาท เลยไม่มีเวลาไปเคลียร์ และยังฝากบอกเพิ่มเติมว่าประมาณต้นปีหน้าจะติดต่อกลับไปทุกราย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|