|
สยามเฮอริเทจทุ่มงบ 250 ล้าน ผุดบูติกโฮเต็ล
ผู้จัดการรายวัน(30 สิงหาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
ผู้ประกอบการไทย โดดร่วมวงธุรกิจโรงแรม เปิดบูติก โฮเต็ล "เดอะสยาม เฮอ-ริเทจ" แห่งแรกในถนนสุรวงศ์ พร้อมดึงมือตลาดจากค่ายโรงแรม ดัง ฮอลิเดย์อินน์ เข้าบริหาร ชูจุด ขายด้านการตกแต่งและบริการ ด้วยศิลปวัฒนธรรมไทย ขณะที่ปีหน้าเตรียมแผนขยายธุรกิจ จับที่ดินบางพระ ชลบุรี 40 ไร่ ศึกษาเปิดรีสอร์ตสไตล์ไทย มองอนาคตธุรกิจท่องเที่ยวสดใสจากยุทธศาสตร์ของททท.
นายกฤช บัณฑิตยานนท์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรม เดอะสยามเฮอริเทจ ซึ่งเป็นโรงแรม บูติก (BOUTIQUE HOTEL) แห่งเดียวในย่านถนนสุรวงศ์ จำนวนห้องพัก 69 ห้อง เปิดเผยว่า การกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวของรัฐบาลในช่วงที่ผานมาและในอนาคต ประกอบกับการที่กลุ่มบริษัทมีที่ดินส่วนตัวริมถนนสุรวงศ์ จึงเห็นโอกาสของการทำธุรกิจประเภทโรงแรมที่จะมีตลาดรองรับ ทั้งนี้ การลงทุนทำธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัท วางแผนที่จะฉีกแนวจากโรงแรมทั่วไปที่มีอยู่ในย่านนี้ ด้วยการเปิดเป็นบูติก โรงแรม สไตล์ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ยุคกลาง ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 250 ล้านบาท โดยต้องการนำเสนอความเป็นไทยให้กับต่างชาติที่เข้ามาพักให้รับรู้ถึงศิลปวัฒนธรรม ความรู้สึกเป็นไทยอย่างแท้จริง
"โรงแรมที่มีอยู่ย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นการตกแต่งสไตล์ตะวันตก แขกต่างชาติที่เข้าพักไม่เห็นความแตกต่างว่าได้เข้ามาอยู่เมืองไทยจริงๆ แต่โรงแรมของเราจุดเด่นอยู่ที่การตกแต่ง การต้อนรับ และบริการที่พนักงานจะให้แก่แขกที่เข้าพักเสมือนญาติ ตรงนี้คือจุดขายที่สำคัญของเรา จึงไม่รู้สึกกลัวที่จะแข่งขันกับเชนโรงแรมต่างชาติ"
ทางด้านแผนการตลาด ได้ตั้งทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี จากการบริหารโรงแรม ในเชนใหญ่ๆ เช่น ฮอลิเดย์อินน์ เป็นต้น เข้า มาบริหารงาน ซึ่งทำให้มีความมั่นใจในการทำ ตลาดเจาะกลุ่มชาวต่างประเทศมากขึ้นโดยช่องทางการขายห้องพัก ทางโรงแรมจะเน้นจับมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัททัวร์ การเปิดเว็บไซต์ www. thesiamheritage.com บริการจองห้องพักระบบออนไลน์ รวมถึงการทำตลาดแบบไดเรกต์เซล ในกลุ่มประชุมสัมมนา เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี เพราะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบความงามเอกลักษณ์แบบไทยและมีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูง
ทางโรงแรมได้แบ่งกลุ่มลูกค้าไว้ 4 กลุ่มหลักในปีนี้ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าองค์กร 40% กลุ่มทัวร์ 30% กลุ่มลูกค้าเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 20% และ 4.กลุ่มเจ้าหน้าที่จากสถานทูตต่างประเทศที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอีก 10% ส่วนราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 4,500-12,000 บาทต่อคืน หรือหาก พักเป็นเดือน จะคิดอัตราเริ่มต้นที่ 4-9 หมื่นบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ปีหน้าจะขยายกลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มเจ้าหน้าที่สถานทูตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนได้เป็น 60% และ 20% ตามลำดับ โดยตลาดลูกค้าองค์กรที่สำคัญจะมาจากย่านเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งทางโรงแรมมีห้องประชุมสัมมนาที่จุคนได้ราว 30 คน ไว้รองรับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี ปัจจุบันมีการจองล่วงหน้าจำนวน มาก โดย 5 เดือนจากนี้ไป คาดว่าอัตราการเข้าพักจะถึง 90% และสร้างรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเตรียมศึกษาแนวทางการเปิดโรงแรมที่จังหวัดชลบุรี อำเภอบางพระ บนที่ดิน 40 ไร่ เชิงเขา ย่านสนามกอล์ฟแนเชอรัลพาร์ค โดยเป็นที่ดินผืนเดียวที่อยู่ห่างสนามกอล์ฟ 3 แห่ง ในรัศมีไม่ถึง 1 กิโลเมตร เบื้องต้นคิดว่าจะทำเป็น รีสอร์ตภายใต้แนวคิดเดิม คือ นำเสนอความเป็นไทย โดยตั้งเป้าภายในต้นปี 2548 จะเริ่มศึกษาเรื่องแบบการก่อสร้าง
"ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีโอกาสเติบโตตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ ที่ ททท.ได้วางไว้อย่างแน่นอน ซึ่งตลาดท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้กรุงเทพฯเดินทางสะดวก มีสนามกอล์ฟล้อมรอบเป็นจุดดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี" นายกฤชกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|