"อสมท" แยก 2 ทีมตลาดดีเดย์ผังใหม่ก.ย.นี้เฟส 5


ผู้จัดการรายวัน(26 สิงหาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

อสมท เดินหน้าปรับโครงสร้าง แต่งตั้งซีเอฟโอ แยกทีมตลาด 2 ทีม เตรียมปรับผังรายการขึ้นสู่เฟส 5 กันยายนนี้ ให้น้ำหนักข่าว และสาระบันเทิง ย้ำไม่ขอทำงานเพียงหวังเรตติ้ง แต่จะขอเป็นทีวีเพื่อคนของอนาคต เผยผลประกอบการ 9 เดือน โต 83% ยันไม่มีแผนปรับขึ้นค่าโฆษณาในช่วงนี้

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัท มหาชน จำกัด เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงได้ปรับโครงสร้างการทำงานให้เข้ากับความเป็นองค์กรมหาชน โดยเปิดฝ่ายการเงินเข้ามาดูแลอย่างเป็นระบบ ล่าสุดได้แต่งตั้งตำแหน่ง CFO ให้กับนายธีรวิทย์ จารุวัฒน์

พร้อมเปิดรับสมัครทีมงานซึ่งจะเข้ามาร่วมบริหารอีก 12 คน เน้นผู้มีประสบการณ์ เพื่อเข้ามาดูแลด้านงานข่าวและรายการทีวี โดยลำดับต่อไป อสมทจะต้องออกโรดโชว์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะเรามีระบบโทรทัศน์ดาวเทียม ดังนั้นจึงต้องจัดการตลาดออกเป็น 2 กลุ่ม คือ อินเตอร์เนชั่นแนลมาร์เกต และโดเมสติกส์มาร์เกตติ้ง ซึ่งเป้าหมายการทำงานคือแข่งกับตัวเอง และโลกในยุคโลกาภิวัตน์

เขากล่าวด้วยว่า ในต้นเดือนกันยายนเตรียมปรับผังรายการใหม่ซึ่งถือเป็นเฟสที่ 5 นับจากที่เข้ามาบริหารงานใน อสมท โดยยังคงให้ความสำคัญแก่รายการข่าว และสาระบันเทิง พร้อมเพิ่มรายการใหม่ที่เน้นเรื่องการให้ความรู้ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามกระแสผู้ชมรายการโทรทัศน์ทั่วโลก โดยแผนงานของอสมทยืนยันที่จะมีการปรับผังในทุก 6 เดือน

สำหรับรายการเก่าที่เป็นที่นิยม เช่น ถึงลูก ถึงคน คนค้นคน บันทึกโลก เมืองไทยรายสัปดาห์ บางรักซอย9 ชัยบดินทร์โชว์ เป็นต้น ก็จะมีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนรายการใหม่ๆ ที่จะเกิดในผังของเฟส 5 จะถือเป็นผลงานที่ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้นหนึ่งนำเสนอเรื่องราวในสิ่งที่คนอยากรู้ โดยการบริหารผังรายการ จะให้ความสำคัญในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะรายงานข่าวเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม พร้อมเสริมรายการที่ได้สาระความรู้สอดแทรกความบันเทิง เป็นตัวดึงดูดให้ผู้ชมเกิดความนิยม

"นโยบายการทำงานของอสมท คือต้องตั้งตัวเองเป็นกระแสสังคม โดยทำงานโทรทัศน์เพื่ออนาคต ไม่ได้ทำรายการเพื่อหวังเรตติ้งเท่านั้น ซึ่งหากรายการของเราดี เรตติ้งและโฆษณาก็จะตามมา ส่วนวิธีการดำเนินธุรกิจ ต้องรู้ความต้องการของผู้ชม เพื่อนำเสนอรายการอย่างมีสาระ ลบภาพความเป็นช่อง 9 แบบเดิมๆ แต่จะต้องเป็นผู้นำในการคิดค้นรายการรูปแบบใหม่ๆ"

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจฟรีทีวี ยังต้องมีการแข่งขัน เพราะโลกใบนี้มีความเคลื่อนไหว ข้อมูลข่าวสาร จึงเป็นสิ่งสำคัญ แม้รัฐบาลเองก็มีภารกิจในการดำเนินงานมากมาย ที่ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนทั้งประเทศได้รับทราบ และเข้าใจ ซึ่งบทสรุปของการแข่งขันจะตกเป็นผลดีของประชาชน ส่วนเรื่องการตลาดถือเป็นองค์ประกอบในการแข่งขันที่จะต้องดำเนินไปควบคู่กันอย่างเสรี

สำหรับอัตราค่าโฆษณา ยังไม่มีนโยบายที่จะปรับขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังคงอัตราเดิม คือในช่วงไพรม์ไทม์อยู่ที่นาทีละ 2.2 แสนบาท ส่วนช่วงอื่นก็ลดหลั่นลงไป ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมและถูกที่สุดในธุรกิจนี้ แต่การเติบโตของอสมทช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะการปรับปรุงและเพิ่มรายการที่น่าสนใจเข้าไป ทำให้เวลาโฆษณาของสถานีเริ่มที่จะเต็มเกือบทุกช่วง เห็นได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นโดย 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้ 1,970 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 1,010 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของ ปีก่อน 83% จากที่เมื่อ 2-3 ปีก่อน อสมท มีรายได้ จากการขายโฆษณาเพียง 350 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม ความพยายามผลักดันให้ไทยเป็นฮับของด้านข่าวในภูมิภาคเอเชีย จากการเริ่มต้น ด้วยการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อแสดงศักยภาพด้านงานข่าวและรายการโทรทัศน์ บนแนวคิดสาระและความบันเทิง พร้อมเชิญชวนให้สำนักข่าวต่างประเทศเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทย ล่าสุดได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการแล้ว 4 ราย ประกอบด้วยสำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่น สำนักข่าว CCTV ของจีนสำนักข่าว TV5 ของประเทศในกลุ่มยุโรป นำโดยฝรั่งเศส และสำนักข่าว KBS ของเกาหลีใต้ และอยู่ระหว่างเจราจากับสำนักข่าว CNN ของอังกฤษ

นอกจากนั้น ยังได้ซื้อที่ดินจำนวนกว่า 50 ไร่ บริเวณศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยจากกองทุน เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เพื่อนำไปสร้างศูนย์ข่าวนานาชาติแห่งใหม่ และที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ของโลก mcot Television ซึ่งจะเป็นสถานีที่กระจายภาพและเสียงไปทั่วโลกตลอด 24 ชม. โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนหนึ่งจะมาจากการขายหุ้นของ อสมทในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี หลังกระจายหุ้นเข้าสู่ตลาด โดยจำนวนหุ้นที่จะกระจายในครั้งนี้อยู่ที่ 600 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.