|
2ยักษ์ลุยรถไฮบริดวอนลดภาษีนำเข้า
ผู้จัดการรายวัน(23 สิงหาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
บิ๊กโตโยต้าเสนอรัฐบาลไทยลดภาษีนำเข้ารถไฮบริด สานฝันไทยเป็นฐานการผลิต รถในภูมิภาค เผยนำเข้า "โตโยต้า พริอุส" ปีหน้า หากอนาคตสดใสจะนำชิ้นส่วนมาประกอบในไทย ส่วนกรณีที่ผู้นำเข้าอิสระชิงตัดหน้านำเข้าโตโยต้า พริอุสจำหน่ายก่อนไม่เป็นผลดีต่อลูกค้า โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย ด้านฮอนด้าเตรียมรุกตลาด เต็มตัว เห็นพ้องโตโยต้าขอรัฐลดภาษีนำเข้า
นายเรียวอิจิ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯสนับสนุนนโยบายรัฐบาลไทยในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถปิกอัพ รถยนต์นั่ง เพื่อขายในประเทศและส่งออกไป ยังต่างประเทศ แต่รัฐบาลควรทบทวนภาษีรถนำเข้า ใหม่ เนื่องจากกำแพงภาษีรถนำเข้าค่อนข้างสูง
ที่ผ่านมารัฐบาลลดภาษีรถพลังงานทดแทนเหลืออัตราเดียว 10% จากเดิมที่เสียภาษีตามขนาดเครื่องยนต์ 35-48% เพื่อให้ประชาชนหันมาใช้รถพลังงานทดแทนและสนับสนุนให้รถประเภทนี้สามารถ ทำตลาดและผลิตในประเทศไทยได้ แต่รถประเภทดังกล่าวประกอบในต่างประเทศ ทำให้ผู้นำเข้าต้องเสียภาษีนำเข้าของกรมศุลกากรในอัตราสูงถึง 80%
"เราพร้อมที่นำรถประเภทนี้เข้ามาจำหน่ายเพื่อสนองนโยบายของรัฐที่ลดภาษีสรรพสามิตเหลือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็อยากจะขอให้รัฐบาลพิจารณาภาษีนำเข้าด้วย เพราะหากมาคำนวณภาษีราคาก็ยังสูงอยู่ดี ผู้บริโภคคนไทยอาจจะไม่สนใจซื้อที่สำคัญประเทศอื่นๆ รัฐบาลให้ภาษีพิเศษสำหรับประเภทนี้อย่างเช่นจีน หรือเกาหลี เหลือแค่ 20-40 เปอร์เซ็นต์"
นายซาซากิ กล่าวว่า โตโยต้าก็มีแผนที่จะนำเข้ารถไฮบริดมาจำหน่ายในปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นรถแบบใด เนื่องจากรถไฮบริด ของโตโยต้ามีหลายรุ่น หลายแบบ อาทิ ซีดาน มินิแวน เอ็มพีวี เป็นต้น โดยจะต้องมีการสำรวจความต้องการของลูกค้าก่อนว่าชอบแบบไหน ถ้าหากในอนาคตมีผู้บริโภคสนใจมากขึ้น บริษัทฯอาจจะมีการนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบในไทยก็เป็นได้
"แน่นอนเมื่อตัดสินใจจะนำรถเข้ามาจำหน่ายแล้ว ทางบริษัทฯก็เตรียมความพร้อมในเรื่องของการบริการหลังการขายให้พร้อม เพราะรถประเภทนี้ไม่เหมือนรถทั่วไปเนื่องจากใช้เทคโนโลยีสูง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริการ การซ่อม การสต๊อกอะไหล่ จะต้องมีการอบรมพนักงานเป็นพิเศษเพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์"
นายซาซากิ กล่าวว่า ถ้าโตโยต้านำเข้ามาจำหน่ายเชื่อว่ามีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่สนใจและอยากจะเป็นเจ้าของ แต่ลูกค้าก็ต้องทำใจเพราะราคาจะยังคงสูงอยู่
ส่วนกรณีของผู้นำเข้าอิสระได้นำเข้ารถพริอุส มาขายตัดหน้านั้น นายซาซากิ กล่าวว่า "เรามองว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าแต่อย่างใด ลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับภาระ เพราะรถพวกนี้จะมีอุปกรณ์พิเศษและใช้เทคโนโลยีสูง ฉะนั้น บุคลากรจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในรถประเภทนี้ ที่สำคัญรถที่ผลิตขายในต่างประเทศถ้ามาขายในไทยอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับสภาพถนน อากาศ ในบ้านเรา ไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหาภายหลังได้"
ขณะที่ทางฮอนด้าเองก็อยากจะให้รัฐบาลช่วยพิจารณาในเรื่องลดภาษีนำเข้าเช่นกัน โดยอัตราที่เหมาะสมน่าจะที่ 50% ซึ่งจะทำให้สัดส่วนระหว่างรถไฮบริดกับรถธรรมดาไม่ห่างเกินไปมากนัก แต่ถ้า หากไม่ลดภาษีนำเข้าลงมาอาจจะทำให้รถประเภทนี้ไม่ได้เกิดเพราะต้องควักเงินจ่ายแพงเกินเหตุ
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ ผู้จัดการฝ่าย ผลิตภัณฑ์การตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ฮอนด้ากำลังปรึกษาทีมงาน การตลาดอยู่ว่าจะกลับมาทำอย่างจริงจังหลังจากภาครัฐลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 10% เนื่องจากฮอนด้าเป็นเจ้าแรกที่เปิดตลาดรถประเภทนี้ แต่อยาก จะให้ภาครัฐช่วยลดภาษีนำเข้าลงมา เพราะทุกวันนี้ภาษีนำเข้าค่อนข้างสูงแม้จะมีการลดภาษีสรรพสามิต แล้วก็ตาม แต่เมื่อมาคำนวณราคาก็ไม่แตกต่างจากราคาจำหน่ายเดิมมากนัก
สำหรับราคารถไฮบริดของฮอนด้า รุ่นซีวิค ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันราคาสูงถึง 1.7 ล้านบาท ส่วนโตโยต้า พริอุส ที่ผู้นำเข้าอิสระ คือบริษัท ออโต้ อิมเมจ จำกัด ของนายเกรียงไกร ลิ้มนันทรักษ์ อดีตนักแข่งรถทางเรียบได้นำเข้ามาจำหน่ายในราคาประมาณ 2.2-2.3 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|