"วรธา" บริษัทน้องใหม่ ผู้ส่งออก และนำเข้าผลไม้ไทย-ออสเตรเลีย


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2541)



กลับสู่หน้าหลัก

แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ แต่ "วรธา" ได้ทำการตลาดด้วยการส่งการ์ดอวยพรปีใหม่ เพื่อแนะนำตัวและฝากเนื้อฝากตัวกับบรรดา ลูกค้าและสื่อมวลชนให้คุ้นเคยกับชื่อของ "วรธา" ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปีนี้

"วรธา" เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างกลุ่มนักธุรกิจไทยกับออสเตรเลีย เพื่อประกอบธุรกิจนำเข้าผลไม้และถั่วแมคคาดิเมียจากประเทศออสเตรเลีย โดยมีพ.ต.ท.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ รองผู้บังคับการนโยบายและแผนด้านการปราบปรามยาเสพย์ติดของกรมตำรวจ  ผู้ใช้เวลาว่างจากงานราชการมารับหน้าที่เป็นกรรมการบริหารของบริษัท นอกจากนั้นยังมี  COLIN & CHERYL ROWLEY สองนักธุรกิจชาวออสเตรเลียมาร่วมเป็นหัวเรือใหญ่ในการประกอบธุรกิจนี้อีกด้วย

"เราคิดที่จะทำโครงการนี้มาตั้งแต่เริ่มมีปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีใครคิดว่า เหตุการณ์จะทรุดเร็วขนาดนี้ และเราก็นั่งทบทวนและคุยกันว่า มีปัญหาอย่างนี้จะยังคงทำอยู่หรือเปล่า ซึ่งเพื่อนชาวต่างชาติของเรา เขาก็ยังอยากที่จะทำอยู่ เราจึงไม่ระงับโครงการ ขณะนี้เรื่องก็อยู่ในระหว่างการขออนุมัตินำเข้าผลไม้จากองค์การอาหารและยา  ซึ่งเราคาดว่าจะเรียบร้อยภายในเดือนนี้  จากนั้นเราก็จะมีการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการต่อไป" ฉัตรชัยกล่าว

เป้าหมายของ "วรธา" ไม่ได้มีเจตนาที่จะสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ต้องการให้คนไทยประหยัด ด้วยการกินของไทยซื้อของไทย แต่การนำเข้าผลไม้และถั่วแมคคาดิเมียจากออสเตรเลีย ถือเป็นการเปิดช่องทางที่จะส่งออกผลไม้ไทย ไปยังประเทศออสเตรเลียต่อไปในอนาคต  เนื่องจากออสเตรเลียมีกฎเกณฑ์ในการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศว่า บริษัทผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจะต้องเป็นบริษัท ที่มีการดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าจากออสเตรเลียมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 เดือน

"การซื้อสินค้าของเราอาจจะขัดแย้งกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เนื่องจากไม่ใช่สินค้าไทย แต่เราไม่ได้หยุดธุรกิจไว้เพียงแค่การนำเข้าเท่านั้น เราจะส่งออกสินค้าของไทยไปจำหน่ายยังออสเตรเลียด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง  เนื่องจากเราเป็นบริษัทใหม่ที่อยู่ในระหว่างการเตรียมการดำเนินธุรกิจ  จึงยังไม่สามารถส่งสินค้าของเราเข้าไปในออสเตรเลียได้ในตอนนี้" ผู้บริหารของวรธากล่าว ซึ่งในอนาคตวรธาจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งออกผลไม้ไทย ได้แก่ ลิ้นจี่ สับปะรด ส้มโอ เงาะ และลำไย เป็นต้น ไปจำหน่ายยังออสเตรเลีย และมีการนำเข้าผลไม้ออสเตรเลียมาจำหน่ายในไทย

สินค้าหลักของ  "วรธา" คือถั่วแมคคาดิเมีย และผลไม้ประเภทเชอรี่ องุ่น แอปเปิ้ล เป็นต้น โดยเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าที่มีราคาสูง

อย่างไรก็ดี วรธายังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าผลไม้ที่นำเข้าจากอเมริกาหรือประเทศอื่น  เนื่องจาก COLIN ผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ผลิตที่ออสเตรเลียได้ โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ผลไม้ของวรธามีต้นทุนที่ต่ำกว่าผู้นำเข้ารายอื่น  ซึ่งฉัตรชัยมั่นใจว่า ราคาผลไม้ของวรธาจะถูกกว่าผลไม้นำเข้าที่จำหน่ายกันอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับถั่วแมคคาดิเมีย  ซึ่งเป็นถั่วไร้ไขมันที่มีต้นกำเนิดอยู่ในออสเตรเลีย แต่ส่วนใหญ่ที่นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยจะมาจากอเมริกา ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง "วรธา" เห็นโอกาสที่จะทำตลาดถั่วชนิดนี้ในเมืองไทย  จึงมีการนำเข้าถั่วแมคคาดิเมียจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพและราคาถูกกว่าทั่วไป โดยนำมาอบใส่เกลือ และแพ็กเป็นห่อขนาด  30-50-100 กรัม  และในอนาคตอาจจะมีการแปรรูปนำไปผลิตเป็นคุ้กกี้  เค้ก หรือไอศกรีม เป็นต้น นอกจากนั้น ผู้บริหารของวรธายังมีแผนที่จะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิต และกระจายสินค้าไปยังประเทศในย่านเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่อีกด้วย

"ตอนแรกผมไม่ได้คิดที่จะทำธุรกิจนี้เลย  เพราะภาวะเศรษฐกิจในบ้านเราไม่ค่อยดี แต่ฝรั่งเขามองการณ์ไกล เขามีข้อมูลว่าประเทศเราจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต จริงอยู่ตอนนี้อาจจะทรุด แต่ในอนาคตความเจริญทางธุรกิจน่าจะไปได้ มิฉะนั้นเขาคงไม่กล้ามาลงทุนกับเราหรอก ผมก็มานั่งคิดว่า ธุรกิจนี้น่าจะพอไปได้ และก็ไม่ได้เป็นการลงทุนที่มหาศาล ก็น่าลองเสี่ยงที่จะทำดู"  ฉัตรชัยเล่าถึงที่มาของการตัดสินใจร่วมธุรกิจกับ COLIN เพื่อนตำรวจชาวออสเตรเลียที่มีความคุ้นเคยกับประเทศไทยเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ฉัตรชัยยังเล่าถึงที่มาของชื่อบริษัทนี้ด้วยว่า "WARATAH"  เป็นชื่อของดอกไม้ประจำชาติออสเตรเลีย และเป็นชื่อเดียวกับฟาร์มเลี้ยงแกะของ COLIN ที่ออสเตรเลียด้วย เขาจึงใช้ชื่อ "WARATAH" มาตั้งเป็นชื่อบริษัท โดยใช้ชื่อว่า "วรธา" ตามการออกเสียงของคนไทย เพื่อง่ายต่อการจดจำ



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.