ศึกหนักการ์ดแอร์ เซอร์วิสเซส ผลกระทบรับปีอเมซิ่ง ไทยแลนด์


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2541)



กลับสู่หน้าหลัก

บริษัทการ์ดแอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้รับดำเนินการจัดเก็บภาษีสนามบิน (TAX AIRPORT) ให้กับการท่าอากาศยาน แห่งประเทศไทย (ทอท.) ทั้งที่ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ภูเก็ต หาดใหญ่ และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติ โดยมีอัศวิน อิงคะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทมาสเตอร์ มายด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ชักนำมา

เมื่อเริ่มล่วงเข้าสู่ปี "อเมซิ่ง ไทยแลนด์" อันเป็นปีท่องเที่ยวไทย และท่าอากาศยานสากลที่กรุงเทพฯ จะต้องตอบรับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล อันเป็นผลให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีสนามบินเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เอกชนผู้รับจัดเก็บภาษีสนามบิน ทอท. เกือบต้องถูกบอกเลิกสัญญา

เป็นนโยบายของประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมือใหม่ ผู้มองเห็นปัญหาของความยุ่งยากของผู้โดยสาร ในเรื่องการจ่ายภาษีสนามบินอย่างชัดเจน และกล้าฟันธงที่จะสั่งการให้ ทอท.บอกเลิกสัญญากับเอกชน

ปัญหาการจัดเก็บภาษีสนามบินของทอท.ก็เลยยังไม่ยุติความยุ่งยากซับซ้อน

เริ่มต้นของนโยบายการให้บริษัทเอกชนเข้ามาเป็นผู้จัดเก็บภาษีสนามบิน เนื่องจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เจอปัญหาหนักที่สุดในฐานะที่เป็นผู้จัดเก็บภาษีสนามบินจ่ายให้กับ ทอท.

ตั้งแต่การไม่สามารถควบคุมพนักงานจัดเก็บเงินให้ส่งเงินที่เก็บได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ขณะที่การส่งเงินให้ ทอท.หากล่าช้าพ้นกำหนด 7 วัน ก็จะต้องถูกปรับเป็นเงินตัวเลขถึง 3 เท่าตัวเป็นไปตามพระราชบัญญัติฯ ของ ทอท.ซึ่งกำหนดไว้ โดยที่สายการบินทั้งไทยและเทศไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ แม้แต่บาทเดียว

พระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว มีความพยายามแก้เงื่อนไขเรื่องการส่งมอบเงินภาษีล่าช้า แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ

ที่ผ่านมาการบินไทยใช้สายสัมพันธ์ในฐานะที่มีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คือ ธรรมนูญ หวั่งหลี นั่งอยู่ในคณะกรรมการของ ทอท. ทำเรื่องเสนอขอผ่อนผันการปรับเงินค่าปรับดังกล่าว ทำให้การบินไทยได้รับการผ่อนปรนมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหารั่วไหลในฝ่ายจัดเก็บได้

วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้ ทอท.เป็นผู้จัดเก็บเอง ข้อเสนอนี้ได้รับการสนองในเวลาต่อมา กระทรวงคมนาคม ซึ่งสั่งการโดยตรงจาก มหิดล จันทรางกูร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนั่งเป็นกรรมการอยู่ทั้งในการบินไทยและ ทอท.ก็เห็นชอบกับนโยบายนี้

ขณะที่ผู้บริหารบริษัทการบินไทยหลายคนเห็นด้วยกับวิธีการให้ ทอท.รับผิดชอบ เพราะไม่ต้องรับภาระทางการเงิน แม้แต่กรมการบินพาณิชย์ ซึ่งดูแลสนามบินภูมิภาค ก็เห็นด้วยที่จะให้ ทอท.ดำเนินการในส่วนสนามบินที่ ทอท.ดูแล

ผลของการสั่งการจากกระทรวงคมนาคม ทำให้ ทอท.ต้องใช้เวลาศึกษาในเรื่องการจัดเก็บประมาณ 1 ปีกว่า ว่าจะดำเนินการอย่างไรจึงเหมาะสม วิธีที่ดีที่สุดก็คือการจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ ซึ่งผู้เสนอตัวคือ บริษัทการ์ดแอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์อยู่ในสนามไคตั๊ก ที่ฮ่องกง โดยผ่านทาง อัศวิน อิงคะกุลเป็นผู้ประสานงานให้

อัศวินนั้น รู้จักผู้ใหญ่ในกองทัพอากาศและ ทอท.หลายคน นับตั้งแต่เข้าไปบริหารโรงแรมรามาการ์เดนส์ และเปิดบริษัทมาสเตอร์ มายด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริหารงานโรงแรมหลุยส์ ทาร์เวินส์ ในเวลาต่อมาบริษัทการ์ดแอร์ก็มีอุปกรณ์คือเครื่องเก็บเงินอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้จัดจำหน่ายเอง การติดต่อกับ ทอท.จึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพราะจะหาบริษัทที่ไวในการเข้าถึง ทอท.คงยาก

ที่สำคัญก็คือ ทอท.ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อตู้จัดเก็บเงินเองให้เกิดปัญหาเรื่องการจัดซื้อ สิ่งที่ทำคือรับทำสัญญากับเอกชน เมื่อเก็บเงินได้ก็จ่ายผลตอบแทนให้เอกชนไปตามเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ตัวบริษัทมาสเตอร์ มายด์ฯ ได้บริหารงานหลายอย่างภายในท่าอากาศยาน ยกตัวอย่าง เดย์ รูม หรือห้องผู้โดยสารชั่วคราวระหว่างการรอเปลี่ยนเครื่อง ที่สนามบินซีไอพี เลานจ์ ห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสารขาออกและให้บริการซักรีดเสื้อผ้า

ผลงานที่ผ่านมาทำให้อัศวินติดต่อขอทำเรื่องจัดเก็บภาษีสนามบินได้โดยไม่ยาก

ระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ให้บริการมานั้น แม้บริษัทการ์ดแอร์ฯ จะประสบปัญหาเรื่องเก็บเงินไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากมีผู้โดยสาร "พิเศษ" หลุดไปขึ้นเครื่อง โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการเสียภาษี

แต่ก็เป็นข้อสัญญาของบริษัทกับทาง ทอท.เองที่การ์ดแอร์ฯ จะรับผิดชอบจ่ายเงินให้ตรงตามจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางออกนอกประเทศ ก่อนที่จะได้รับเงินส่วนแบ่ง 3% จากทาง ทอท.หรือมากกว่านั้น

สัญญาที่ทำไว้มีกำหนด 5 ปี แต่ตอนนี้ต้องถูกกระทรวงคมนาคมสั่งให้บอกเลิกสัญญา และให้การบินไทยกับสายการบินอื่นๆ เป็นผู้จัดเก็บแทน เพียงแต่งวดนี้สายการบินได้รับเงินส่วนแบ่ง 3% จากเงินที่เก็บให้ ทอท. จากที่เมื่อก่อนไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว

สิ่งที่ประดิษฐ์คิดว่าจะสามารถบอกเลิกสัญญากับเอกชนได้ มีเหตุผล 3 ประการคือ การให้บริการที่เป็นปัญหายุ่งยากกับผู้โดยสาร ขาดความชัดเจนเรื่องระบบจัดซื้อกับการติดตั้งอุปกรณ์ และ ทอท.จ่ายผลตอบแทนให้กับเอกชนมากกว่า 3% คือถึง 12%

เป้าหมายที่ประดิษฐ์ประกาศก็คือ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ไม่ต้องวุ่นวายในเรื่องการจ่ายภาษีสนามบิน เมื่อเข้าสู่ปีอเมซิ่ง ไทยแลนด์ หลังจากเรื่องการขอขึ้นภาษีสนามบินของ ทอท.อีกเท่าตัว คือระหว่างประเทศ 250 บาทที่จะปรับเป็น 500 บาท กับภายในประเทศ 30 บาท ปรับเป็น 50 บาทไปแล้ว

"คงเป็นนโยบายที่จะให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยวในช่วงระยะ 2-3 ปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงของปีท่องเที่ยวไทย เรื่องภาษีสนามบินจึงเป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการและเป็นนโยบายหลัก เมื่อคุณประดิษฐ์เข้ามารับตำแหน่ง" แหล่งข่าวจาก ทอท.ผู้หนึ่งกล่าวแสดงความเห็นไว้

เพียงแต่นโยบายของกระทรวงคมนาคมงวดนี้ คงทำให้อัศวินเองต้องประสบปัญหาหนักอีกครั้งในการทำธุรกิจกับ ทอท.

และเป็นเรื่องที่เอกชนต้องไปเจรจาต่อรองกันใหม่กับ ทอท.เองว่า จะปรับตามเงื่อนไขสัญญาได้หรือไม่อย่างไร หรือว่าต้องยอมความปล่อยให้ฝ่ายรัฐบอกเลิกสัญญา โดยไร้ข้อโต้แย้ง

ปีอเมซิ่ง ไทยแลนด์ จึงไม่สดใสนักสำหรับคนชื่อ "อัศวิน อิงคะกุล"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.