หุ้นTRUEดิ่งหลังเพิ่มทุนซื้อหนี้PCT


ผู้จัดการรายวัน(6 สิงหาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

นักลงทุนเทขายหุ้น TRUE กระหน่ำ ฉุดราคาทรุด 18.80% หลังประกาศเพิ่มทุนกว่า 2.75 พันล้านบาท เพื่อนำเงินไปซื้อคืน PCT และเตรียมไว้สำหรับขยายการดำเนินธุรกิจ ของทีเอ ออเร้นจ์ หวั่นได้รับผลกระทบ dilution ฉุดราคาหุ้นลดลงกว่า 0.94 บาท ขณะที่ผู้บริหารแจงผลดีการเพิ่มทุนช่วยลดสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ต่ำกว่า 4 เท่า

วานนี้ (5 ส.ค.) ราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) รูดลงทันทีตั้งแต่เปิดตลาด ก่อนจะปิดลดลงที่ 18.80% โดยปิดตลาดที่ระดับราคา 4.06 บาท ปรับลดลง 94 สตางค์ มูลค่าการซื้อขาย 203.15 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการ ประกาศเพิ่มทุนของบริษัท

นายอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการ และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้อนุมัติเพิ่มทุนจำนวน 2.75 พันล้านบาท โดยการเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อนำเงินไปใช้ในการดำเนินธุรกิจของทีเอ ออเร้นจ์ และซื้อคืนหนี้จากเจ้าหนี้ของบริษัท เอเซีย ไวเลส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (AWC) ผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานพกพา พีซีที

ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยปรับปรุงฐานะทางการเงินของ AWC แล้ว ทรูยังสามารถรับรู้กำไรจำนวน 1.6 พันล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้รับรู้กำไร (Haircut) จากการลดหนี้ของเจ้าหนี้ PCT จำนวน 2.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของมูลหนี้เดิม ซึ่งช่วยลดสัดส่วนหนี้สินต่อ EBITDA ลงสู่ระดับต่ำกว่า 4 เท่า (ไม่รวมทีเอ ออเร้นจ์) ทำให้ฐานะการเงินของทรูมีความมั่นคงมากขึ้น

สำหรับการเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำโดยการ Book Building ให้แก่นักลงทุนที่สนใจ รวมทั้ง เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ Kreditalt Fuer Wiederaufbau (KfW) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ทั้งนี้ TRUE จะต้องทำการลดทุนจดทะเบียน โดยการยกเลิกหุ้นที่จดทะเบียนไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายจำนวน 498.7 ล้านหุ้น (ยกเว้นหุ้นที่สำรองไว้เพื่อการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่บริษัท ได้ออกและเสนอขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) ซึ่งทำให้ทุนจดทะเบียนลดลงจาก 43,096.4 ล้านบาท เป็น 38,096.4 ล้านบาท แล้วจึงเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 46,583.4 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ 848.7 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนในวงจำกัด จำนวน 800 ล้านหุ้น และเพื่อการจัดสรรใหม่ และกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญที่ต่ำกว่าราคาพาร์ จะต้องไม่ต่ำกว่า 3 บาทต่อหุ้น

สำหรับหุ้นที่ได้ยกเลิกไป จำนวน 48.7 ล้านหุ้น ได้แก่ International Finance Corporation (IFC) เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามโครงการ ESOP 2004 ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2547 มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.