พรีมาเวสท์ดีเลย์ขายหน่วยบอนด์รัฐฮอตกระทบSET


ผู้จัดการรายวัน(3 สิงหาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

บลจ.พรีมาเวสท์ ติดเบรกขายกองทุนกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอมอินคัม 3 เลี่ยงขายพร้อมพันธบัตรออมทรัพย์เตรียมจะเสนอขายกลางเดือนนี้ ขณะที่กองทุน 1 และ 2 เริ่มลงทุนแล้ว ตั้งเป้าผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วย 2% ด้านโบรกฯพัฒนสิน ประเมินพันธบัตรออมทรัพย์กระทบสภาพคล่องตลาดหุ้น

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่าสำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุมัติให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ สามารถจัดตั้งกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอมอินคัม 3 ซึ่งเป็นกองทุน ที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วแลกเงินที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทจดทะเบียนเป็นผู้ออกและมีกำหนด ระยะเวลาไถ่ถอนใกล้เคียงกับวันครบกำหนดอายุของโครงการ

กองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอมอินคัม 3 มีจำนวนเงินทุนของโครงการ 500 ล้านบาท โดยในระหว่างระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก อาจเสนอขาย หน่วยลงทุนของโครงการได้ไม่เกิน 75 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี วันครบกำหนดอายุโครงการ 15 สิงหาคม 2548

ทั้งนี้ ได้กำหนดมูลค่าขั้นต่ำของการซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรกจำนวน 10,000 บาท โดยจะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป ซึ่งกองทุนนี้เป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า เงินฝากประจำระยะสั้นของธนาคาร พาณิชย์จากการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารการเงินระยะสั้นของบริษัทเอกชน

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัดเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันที่จะเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอมอินคัม 3 เนื่องจากจะต้องรอให้พันธบัตรออมทรัพย์ที่รัฐบาลจะออกเสนอขายไปก่อน เพราะคาดว่าพันธบัตรออมทรัพย์จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องรอจังหวะที่เหมาะสมในการเสนอขายกองทุน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าถ้าเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอม อินคัม 3 น่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะช่วงที่ผ่านมากองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอมอินคัม 1 และ 2 นักลงทุนได้เข้ามาซื้อเต็มมูลค่าโครงการและได้เริ่มทยอยลงทุนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยประมาณ 2%

"ช่วงที่ออกกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอมอินคัม 1 นั้นบริษัทมีสินค้าที่เตรียมจะไปลงทุนไว้แล้ว ซึ่งกองทุนก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาก ดังนั้น จึงต้องหาสินค้าใหม่ที่จะเข้าไปลงทุนจึงได้ออกกองทุน ชอร์ทเทอมอินคัม 2 ก็ได้รับความสนใจเหมือนกับกองทุนแรก" นายเพิ่มพลกล่าว

นอกจากนี้ บลจ.พรีมาเวสท์ยังมีแผนที่จะออกกองทุนใหม่อีกซึ่งได้แก่ กองทุนตราสารทุน เพื่อสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และกองทุนตราสารหนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีกองทุนตราสารทุนแล้วหลายกองทุน

นายเพิ่มพลกล่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึง ปัจจุบันบริษัทได้ออกกองทุนใหม่แล้ว 5 กองทุนซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ที่บริหารเกือบ 3 พันล้านบาท แล้ว ซึ่งเมื่อรวมกับกองทุนเดิมที่มีมูลค่าสินทรัพย์ ประมาณ 3 พันล้านบาท ดังนั้นจึงเชื่อว่าภายในปีนี้จะสามารถขยายสินทรัพย์เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 1 เท่าตัวตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

อนึ่งสำหรับพันธบัตรออมทรัพย์นั้นมีมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท โดยได้กำหนดที่จะเปิดขายภายในวันที่ 16-20 สิงหาคมนี้ ซึ่งการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการออมเงินของประชาชน

ด้านนายสาธิต วรรณศิลปิน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยในประเทศ บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน (จำกัด) (มหาชน) (CNS) ให้ความเห็นว่า กรณีที่รัฐบาลออกพันธบัตรระยะยาวมูลค่าประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาทในช่วงนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมีช่องทางใหม่ให้เลือกลงทุนมากขึ้น ในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างผันผวน และชะลอตัวลง ประกอบกับการเล่นเก็งกำไรทำได้ยากกว่าเมื่อก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุน ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากและไม่เสี่ยง มาก ก็จะเลือกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล

ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดหุ้นอาจไม่ให้ผลตอบแทน สูงเท่ากับปีก่อน แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือเป็นโอกาสของนักลงทุนสถาบันหรือผู้ที่ต้องการลงทุน ระยะยาว เนื่องจากเศรษฐกิจยังเป็นขาขึ้น ถึงแม้ว่าในระยะสั้นอาจมีการแกว่งตัวบ้าง แต่ในระยะยาวยังถือว่าเป็นแหล่งลงทุนที่ดี

นายสาธิตกล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถือว่าเม็ดเงินในตลาดเงินและตลาดทุนไม่สมดุลกัน เนื่องจากสภาพคล่องในระบบที่มีมากแต่ไม่สามารถนำไปลงทุนโดยตรงได้ จึงเกิดการลงทุน ทางอ้อมโดยผ่านตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือว่าไม่ได้ ก่อให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ แต่เป็นการเข้ามาเก็ง กำไรและผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเท่านั้น ส่วนในปีนี้สภาพคล่องในระบบปรับตัวลดลง ทำให้การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ยากขึ้น ดังนั้น นักลงทุนต้องพิจารณาคุณภาพและราคาหุ้นของบริษัทที่จะเข้าไปลงทุน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.