ใครจะรู้ว่ามุมหนึ่งของชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะภูเก็ต ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับของโลก
เจ้าของฉายาไข่มุกอันดามันกำลังจะถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งศูนย์รวมธุรกิจอินเฟอร์เมชั่น
เทคโนโลยี (ไอที)
หากไม่เป็นเพราะวิลลี่ เฮบเลอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไซเบอร์ วิลเลจ
ชาวอเมริกัน อดีตนักธุรกิจขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งมาใช้ชีวิตในจังหวัดภูเก็ตของเมืองไทยกว่าสิบปี
จะเล็งเห็นคุณค่าความงามของชายหาดผืนนี้ ผสมผสานกับศักยภาพของธุรกิจไอที
และข่าวสารที่เขาได้รับมาเมื่อสมัยที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธเป็นนายกรัฐมนตรี
เคยมีแนวคิดที่จะสร้างให้เกาะแห่งนี้เป็นเกาะไอที หรือไอทีไอซ์แลนด์
บังกะโลเล็กๆ บนเนื้อที่เกือบ 5 ไร่ ริมชายหาดมิตรภาพ จังหวัดภูเก็ตที่เฮบเลอร์เช่ามาเพื่อทำธุรกิจให้เช่าแก่ลูกค้าที่นักท่องเที่ยว
ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นแหล่งศูนย์รวมผู้ประกอบธุรกิจไอที และเขาให้ชื่อว่าไซเบอร์วิลเลจ
เฮบเลอร์วาดหวังไว้ว่า ด้วยสภาวะแวดล้อมที่ดีของภูเก็ตจะเอื้ออำนวยให้เกิดความคิดใหม่ๆ
ด้วยไอที ทั้งการวิจัยและพัฒนาหรือแม้แต่สวนอุตสาหกรรม การออกแบบฮาร์ดแวร์
และซอฟต์แวร์ขึ้นบนชายหาดแห่งนี้
"คนไทยมีความแข็งแกร่ง เป็นศูนย์รวมทางด้านไอที เป็นแท็งก์น้ำทางความคิด
(Think Tank) คล้ายกับซิลิกอนวัลเล่ย์"
วิถีชีวิตของนักธุรกิจที่นั่งทำงานสำนักงาน ตามอาคารสำนักงานมีเพียงฝาผนังของห้องเป็นวิว
ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบฟันผ่าการจราจรจากบ้านมาทำงานไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง
จะถูกเปลี่ยนมาเป็นการนั่งทำงานอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของชายหาดสีขาว
ที่มีสายลม แสงแดด และเสียงคลื่นลมอันเงียบสงบ นับเป็นมิติใหม่ของการทำงานที่เหมาะสำหรับงานประเภทที่ต้องใช้ความคิดหรือการวิจัย
เช่น ธุรกิจไอทีไม่น้อย
ปัจจุบันไซเบอร์วิลเลจของเฮบเลอร์มีชาวต่างประเทศและชาวไทยมาเช่าบังกะโล
เพื่อเปิดบริษัททำธุรกิจไอทีแล้ว 7-8 ราย อันประกอบไปด้วย บริษัทเฟรนด์ชิพ
คอมพิวเตอร์ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ทำธุรกิจประกอบตามสั่งของลูกค้า (Made
to Order) บริษัทตะวันราไวย์ ทำธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัทเฟรนด์ชิพ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่
บริษัทไซเบอร์กราฟฟิก เฟรนด์ชิพ เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์ รับสอนคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษ
อันที่จริงแล้วธุรกิจแรกของไซเบอร์วิลเลจ เริ่มต้นมาจากร้านอาหารภายในบังกะโล
ที่เฮบเลอร์ดัดแปลงส่วนหนึ่งของร้านอาหารเพื่อให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
การเปิดให้บรการรับส่งอีเมล ในสักษณะของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ จนกลายมาเป็นไอเดียในการเปิดเป็นไซเบอร์วิลเลจขึ้น
รายได้ที่เฮบเลอร์ได้รับจะอยู่ในรูปของค่าเช่าที่เก้บจากบริษัทที่เข้าไปเช่าพื้นที่เพื่อเปิดบริษัท
และการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทบางแห่งมากกว่า 50% เช่น การถือหุ้นร่วมในบริษัทเฟรนด์ชิพ
คอมพิวเตอร์ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์
ไพศาล เขียวหวาน อดีตวิศวกรชาวไทยที่เคยไปใช้ชีวิตทำงานอยู่สหรัฐอเมริกาถึง
20 ปี ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทย และตั้งรกรากที่จังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัทเฟรนด์ชิพ
คอมพิวเตอร์ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ลงทุนร่วมกับเฮบเลอร์
"เราเจอกัน เพราะที่พักของผมอยู่ใกล้กับของวิลลี่ก็เลยคุยกัน เขาก็มีไอเดียเรื่องที่จะทำเป็นไซเบอร์วิลเลจ
ส่วนผมก็มีความรู้ในเรื่องไอที เพราะเคยทำงานกับบริษัทผู้ผลิตโมเด็มเฮย์เอทีแอนด์ที
เราก็เลยมาร่วมหุ้นกันเปิดเป็นบริษัทเฟรนด์ชิพ คอมพิวเตอร์"
อย่างไรก็ตาม บริษัทเฟรนด์ชิพ คอมพิวเตอร์ฯ และไซเบอร์วิลเลจ ก็ยังเป็นแค่ธุรกิจเล็กๆ
ให้บริการกับลูกค้าไม่กี่ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างประเทศที่แวะเวียนมาทำธุรกิจในภูเก็ต
หรือลูกค้าที่ทานอาหารในร้านอินเตอร์เน็ต ยังไม่ได้ให้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจอื่นบนเกาะภูเก็ต
"เวลานี้เรายังเป็นแค่ธุรกิจเล็กๆ ยังไม่มีการลงทุนอะไรมาก และไซเบอร์วิลเลจยังเป็นแค่บังกะโลให้เช่าเพื่อทำสำนักงาน
เวลานี้คุณวิลลี่เขากำลังไปชวนเพื่อที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นนักพัฒนาที่ดินให้มาร่วมลงทุน"
นอกเหนือจากการระดมนักลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อมาพลิกพื้นที่ดินแห่งนี้ให้เป็นศูนย์รวมไอที
เฮบเลอร์ยังได้เจรจาชักชวนให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
(เนคเทค) ให้เข้ามาร่วมในโครงการ เพื่อทำให้ภูเก็ตเป็นเกาะไอที (IT Island)
อย่างเต็มรูปแบบ
ทางด้านผู้บริหารของเนคเทคก็กล่าวว่า เป็นโครงการที่น่าสนใจ เพราะจะเป็นเรื่องที่ดี
หากการคิดค้นหรือพัฒนาทางด้านไอทีจะอยู่ท่ามกลางบรรยากาศการทำงาน ที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี
เช่น บนชายหาดภูเก็ต
อย่างโครงการ ซอฟต์แวร์ปาร์ค หรือ สวนอุตสาหกรรมพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เนคเทคกำลังดำเนินการอยู่นั้น
ส่วนหนึ่งน่าจะสามารถตั้งขึ้นที่ภูเก็ตได้ แต่ตรงนี้เราคงต้องมาพิจารณากันอีกทีว่า
จะมีโอกาสทำได้หรือไม่
แม้ว่า 5 เดือนเต็มของไซเบอร์วิลเลจยังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้น ที่ต้องอาศัยเม็ดเงินลงทุน
และความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐ เพื่อทำให้ความฝันในการพัฒนาให้เกาะภูเก็ตแห่งนี้เป็นเกาะไอทีอย่างเต็มรูปแบบ
แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อย หากวิถีชีวิตการทำงานของชาวไอทีทั้งหลายจะเปลี่ยนจากห้องสี่ยเหลี่ยมมาเป็นหาดทราย
สายลม และแสงแดด เพราะไม่แน่ว่าไอเดียใหม่ๆ ที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมไอทีจะเกิดขึ้นบนผืนดินแห่งนี้