|
"สมคิด" ขีดเส้นบินไทยปรับใหญ่
ผู้จัดการรายวัน(30 กรกฎาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
"สมคิด" สั่งการบินไทยทำตลาด เชิงรุก ดันแข่งขันในตลาดโลก ฟุ้งการเงินแข็งแกร่ง กำไร ยกฐานะเป็นหัวหอกด้านขนส่งของประเทศ หนุนการท่องเที่ยวไทย ดีเดย์ มี.ค. 48 ปรับโฉมครั้ง ใหญ่ก่อนเปิดสุวรรณภูมิ หนุนแผนซื้อฝูงบินใหม่ 14 ลำ ชี้สอดรับตัวเลขรายได้ กำไร สัดส่วนหนี้สินต่อทุน "ทนง" ตั้งเป้าติด 1 ใน 5 สายการบินชั้นนำของโลกเร่งตั้งแอร์คาร์โก้แตกไลน์ธุรกิจเพิ่มรายได้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและฟังบรรยายสรุป เรื่อง "PROACTIVE EXPANSION FOR BETTER PERFORMANCE" ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) วานนี้ (29 ก.ค.) ว่ารัฐต้องการให้การบินไทยเป็นแกนนำในการขนส่ง ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะด้าน Logistic เพื่อลดต้นทุน การขนส่งของประเทศ เพราะมีการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นตัวเชื่อมโยงกับขนส่งในด้านอื่นได้ ซึ่งขณะนี้ การบินไทยได้ผ่านการปรับปรุงระยะแรกทำให้มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากเดิม ซึ่งหากในอนาคตไม่มีการลงทุนใดๆเลยหนี้สินต่อทุนจะอยู่ที่ 0.3-0.4 ต่อ 1 ซึ่งต่ำมาก จึงต้องการให้ก้าวสู่การพัฒนาในระดับต่อไปคือ การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบิน ด้าน Logistic
โดยจากแผนระยะยาว 5 ปี (2548/2549-2551/2552) ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) ได้อนุมัติแผนจัดหาฝูงบินเพิ่มอีก 14 ลำ ซึ่งจะรับมอบครบใน 4-5 ปีข้างหน้า ประกอบกับเครื่องบิน 8 ลำที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้จะรับครบในปีหน้า รวมถึงแผนปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องบินทั้งหมด จะเสริมสมรรถนะของการบินไทยให้มีความพร้อมมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าว่าในเดือนมีนาคม 2548 จะพบกับการปรับโฉมครั้งใหญ่ของการบินไทยตั้งแต่ภายนอกไปถึงภายในทั้ง โลโก้ เครื่องแบบพนักงาน ด้านอาหาร เพื่อผลักดันเข้าสู่การแข่งขันของตลาดโลกให้ได้ใน 3 ปี โดยเน้น ทั้งการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและธุรกิจอื่นๆ เช่น ครัวการบิน การซ่อมบำรุง ซึ่ง 6 เดือนแรกปี 47 นี้การบินไทยมีกำไรแล้ว 13,000 ล้านบาท
"การบินไทยจะเป็นหัวหอกด้านขนส่ง เหมือนปตท.ที่เป็นแกนนำด้านพลังงาน และเป็นส่วนสำคัญหนุนการท่องเที่ยว ซึ่งในปี 2010 จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 4 ล้านคนต่อปี และในวันที่ 21-22 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมเวิร์กชอป 11 รัฐวิสาหกิจ โดยในด้านการขนส่ง Logistic การบินไทยจะต้องคุยกับสายการบินอื่นๆ เพื่อหาจุดร่วมในด้านการบิน เพื่อเพิ่มความจุ ลดค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการเป็นฮับอย่างแท้จริง"
ตั้งแอร์คาร์โก้เพิ่มรายได้
นายทนง พิทยะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทยกล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาการบินไทยพยายาม ทำทุกอย่างโดยเฉพาะการปรับปรุงด้านอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เป็นสายการบินชั้นนำ 1 ใน 5 ของเอเชียและใน 2 ปีข้างหน้าจะพยายามเป็น 1 ใน 5 ของโลก โดยในมีนาคม 2548 ก่อนเปิดสนามบินสุวรรณภูมิจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกันในเดือนสิงหาคมนี้จะเริ่มลงรายละเอียดด้านการขนส่งสินค้า (AIR CARGO) และน่าจะเริ่มให้บริการได้ในมีนาคม 2548 นอกจากนี้จะศึกษาธุรกิจเพิ่มเติมอื่นๆ ที่สามารถ ทำรายได้เพิ่ม
สำหรับการจัดหาฝูงบินใหม่ 14 ลำนั้นเรื่องเงิน ทุนไม่มีปัญหา โดยจะใช้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไลบอร์ 8 และมีการกระจายความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนทั้ง ดอลลาร์ เยน และบาท โดยเป้าหมายรายได้จากแผน 5 ปี ที่มีการจัดหาฝูงบินเพิ่มอีก 14 ลำ จะทำให้การ บินไทยมีรายได้เพิ่มจากปัจจุบัน 130,000 ล้านบาทต่อปี เป็น 200,000 ล้านบาทต่อปี และมีกำไรประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี เป็นสายการบินที่มีรายได้ดีที่สุด ส่วนหนี้สินต่อทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1.4-1.5 ต่อ 1 ซึ่งอยู่ในกรอบ 2 ต่อ 1
"รายได้จะค่อยๆ เพิ่ม จนปีที่ 5 น่าจะถึง 200,000 ล้านบาท ส่วนเครื่องบิน 14 ลำนั้น ตอนนี้ชัดเจนแล้วคือ แอร์บัส A380/6 ลำ เพราะขนาด ใหญ่ที่สุดตอนนี้ไม่มีคู่แข่ง และ A340-500/ 1 ลำ A340-600/1 ลำ ส่วนอีก 6 ลำนั้นอยู่ระหว่างเปรียบเทียบอยู่"
เพิ่มเส้นทางบินรับฝูงบินใหม่
ด้านนายกนก อภิรดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดจุดบินเพิ่ม เพื่อรองรับฝูงบินใหม่ ทั้ง 8 ลำที่ซื้อก่อนหน้านี้และ 14 ลำใหม่ เช่น นิวยอร์ก มอสโก โคเปนเฮเกน โจฮันเนสเบิรก์ และอีกหลายเมืองในจีน ซึ่งมีนาคมปีหน้าจะเริ่มทดลองบินตรงไปนิวยอร์กก่อนและคาดว่าจะบินจริงได้ในเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม การลงทุนต่างๆ มีแผนที่ชัดเจนมีความโปร่งใส เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะสัดส่วนหนี้สิน ต่อทุนนั้นจะไม่สูงกว่า 2 เท่าแน่นอน
สุวรรณภูมิสนามบินนานาชาติแห่งเดียว
นายศรีสุข จันทรางศุ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กล่าวถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิว่า ขณะนี้คืบหน้ากว่าร้อยละ 70 เชื่อว่า การก่อสร้างจะเสร็จตามกำหนดในวันที่ 31 มีนาคม 2548 และเปิดใช้ได้ในวันที่ 29 กันยายน 2548 ตามแผน แต่ยอมรับว่างานบางส่วนอาจล่าช้าบ้าง แต่จะไม่กระทบกับภาพรวม และในวันที่ 28 กันยายน 2547 นี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ บริเวณก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะรายงานถึงผลและปัญหาในการก่อสร้างของงานต่อครม.ด้วย
"ตามนโยบายของรัฐบาลต้องการให้ประเทศไทยมีสนามบินนานาชาติเพียงแห่งเดียว ส่วนสนามบินดอนเมืองก็จะดำเนินการปรับปรุงให้เป็นศูนย์ซ่อม เครื่องบิน และอาจจะเป็นศูนย์ฝึกบินของกองทัพอากาศ ซึ่งคาดว่าทุกสายการบิน เช่น สายการบินนานา ชาติ หรือโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ จะมาใช้บริการในสนาม บินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว เนื่องจากการต่อเที่ยวบินเมื่อมาจากประเทศต่างๆ มาลงประเทศไทย และจะเดินทางต่อไปจังหวัดต่างๆ ก็น่าจะเป็นสนามบินที่เดียวกัน ดังนั้น จึงไม่อยากให้สนามบินในประเทศ แยกตัวออกไปให้บริการอยู่ในส่วนของสนามบินดอนเมือง"
ส่วนปัญหาราคาน้ำมันแพงนั้น นายศรีสุข มั่นใจว่าไม่กระทบต่อการก่อสร้าง เนื่องจากในแต่ละส่วนงานมีการลงนามสัญญาไปแล้ว จึงไม่คิดว่าจากปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะทำให้การก่อสร้างหยุดชะงัก หรือภาครัฐจะต้องเสียเงินในการก่อสร้าง สูงขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนปี 2547 (ต.ค. 46-มิ.ย. 47) จำนวนเที่ยวบิน5 สนามบิน มีจำนวน 217,042 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 มีผู้โดยสาร 33,111,009 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.80 จำนวนสินค้า 809,163 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.29
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|