ผู้บริหารแผนขอหย่าศึกปัญหาผู้ถือหุ้น "ปุ๋ยNFC"


ผู้จัดการรายวัน(26 กรกฎาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ปุ๋ยเอ็นเอฟซีรับประสานรอยร้าวหลังผู้ถือหุ้นใหม่ป่วน หวังยุติความขัดแย้งก่อนที่บริษัทจะออกจากกระบวนการฟื้นฟู แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง 29 ก.ค.นี้ ยันไม่ก้าวก่ายการซื้อขายหุ้นบสท. ด้าน "สมเจตน์" ยันบสท.ถือหุ้นแต่ไม่บริหาร

จากกรณีที่นายณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งซีอีโอ หลังคณะ กรรมการบสท.ลงมติไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ 17.35% ตามที่นายณัฐภพได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) นายชำนิ จันทร์ฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เจ.มอร์แกน จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผน ฟื้นฟูกิจการบริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) (NFC) เปิดเผยว่า จะทำหน้าที่ประสานรอยร้าว และทำความเข้าใจกับนักลงทุนทุกฝ่าย เพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก่อนที่บริษัทฯจะออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการในวันที่ 9 กันยายนนี้

"ในฐานะผู้บริหารแผนฯแล้วรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับความขัดแย้งของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความสับสน และไม่มั่นใจให้กับพนักงานที่มีจำนวน 600 คน ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหารแผนฯก็อยาก ให้มีความชัดเจน และอยากส่งเรือให้ถึงฝั่ง เพราะ NFC ก็มีแผนจะออกจากกระบวนการ ฟื้นฟูกิจการในต้นเดือนกันยายนนี้ ทำให้หน้าที่ของผู้บริหารแผนฯสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ผมจะแถลงข่าวชี้แจงให้ข้อเท็จจริงในวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมนี้"

ส่วนกรณีที่บสท.จะไม่ขายหุ้น NFC จำนวน 17.35% ให้กับกลุ่มนายณัฐภพนั้น ผู้บริหารแผนฯจะไม่เข้าไปก้าวก่าย และเห็น ว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นที่กลุ่มนักลงทุนใหม่ที่นำมาหยิบยกสร้างความขัดแย้ง เพราะไม่ได้ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ

อย่างไรก็ตาม หากความขัดแย้งดังกล่าวไม่มีวี่แววจะสิ้นสุดลง คงต้องรายงาน ให้ศาลล้มละลายกลางได้รับทราบข้อมูล เพราะเจตนารมณ์ของการฟื้นฟูนั้นเพื่อให้บริษัทฯที่ปรับโครงสร้างหนี้ตามกระบวน การแผนฟื้นฟูฯ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

ส่วนกรณีที่นายณัฐภพ จะไม่รับตำแหน่งซีอีโอนั้น นายชำนิ กล่าวว่า คงต้อง ปรึกษาผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้ง นายดิเรก ฉัตร-พิมลกุล และบสท.เพื่อหาทีมบริหารงานเข้ามาโดยเร็ว เพราะขณะนี้ใกล้ช่วงฤดูนาปรัง จำเป็นต้องกำหนดทิศทางการผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้ปุ๋ย อย่างไรก็ตาม ความเห็นส่วนตัวแล้วต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อให้บริษัทกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

นอกจากนี้ ผู้บริหารแผนฯได้ปรึกษากับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับความเสียหายจากการปรับโครงสร้างหนี้และลดทุนจดทะเบียน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

ด้านนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ยืนยันว่าจะไม่เข้าบริหารปุ๋ยเอ็นเอฟซี โดยเป็นเพียงผู้ถือหุ้นและจะไม่ขายหุ้นจนกว่าบริษัทจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน และการปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมาบสท.ต้องการ ให้ผู้ร่วมทุนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหม่รายใหญ่เป็นผู้บริหารอยู่แล้ว

"หากคุณณัฐภพไม่รับบริหาร ผู้บริหาร แผนก็ต้องหาคนอื่นมา ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นใหม่ ส่วนเราไม่มี ปัญหาก็ดูกันไปว่าใครจะใจแข็งกว่ากัน" นายสมเจตน์ กล่าว

แหล่งข่าวจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลที่บสท.ไม่ขายหุ้นว่า การปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมา บสท.ขาดทุนประมาณ 6.8 พันล้านบาท และหนี้ที่แปลงเป็นทุนประมาณ 40 กว่าล้านหุ้น ถ้าขายในราคา 11.50 บาทต่อหุ้น จะทำให้บสท.ได้เงิน เพียง 460 ล้านหุ้น บสท.ก็ขาดทุน แต่ถ้าไม่ขายมูลค่าหุ้นในอนาคตจะเพิ่มขึ้น การขาดทุนอาจจะลดลง

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากนายณัฐภพมีความขัดแย้งกับนายดิเรก ฉัตร-พิมลกุล ทั้งๆ ที่เคยเป็นพันธมิตรร่วมทุนกันมาก่อน สำหรับสัดส่วนผุ้ถือหุ้นก่อนที่จะมีการทำคำเสนอซื้อหุ้น ประกอบด้วยอันดับ 1. นายณัฐภพ 39.73% 2. นายดิเรก 32.36% 3. บสท. 17.35% 4. นายวิชัย ทองแตง 8.04% ที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นราย ย่อย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.