|
"เจมาร์ท" ยื่นเข้าตลาดฯส.ค. มั่นใจโครงสร้างธุรกิจลงตัว
ผู้จัดการรายวัน(19 กรกฎาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
เจมาร์ทเตรียมยื่นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในเดือน ส.ค.นี้ ด้วยการกระจาย 10 ล้านหุ้น ในไตรมาส 3 พร้อมแผนนำบริษัท ลูก JMT เข้าตลาดในปี 2005 พร้อมความหวังว่าจะเป็นบริษัทที่ทำกำไรให้มากถึง 30-40% ของกำไร รวมทั้งกลุ่มในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เจมาร์ท กล่าวว่าเจมาร์ทเตรียมยื่น เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (filing) ในเดือนส.ค.ที่จะถึงนี้เพื่อเตรียมขาย 10 ล้านหุ้นภายในไตรมาส 3 โดย เป็นการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท หลังจาก ที่บริษัทเคยมีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปี 2003 นอกจากนี้ยังได้วางแผนนำ บริษัท JMT Network and Services บริษัทลูกเข้าจดทะเบียนตามในปี 2005 โดยบริษัทนี้จะเป็นตัวทำกำไร 30-40% ของกำไรรวมในอีก 3 ปีข้างหน้า
เจมาร์ท บริษัทนำเข้าและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ให้ กับทุกโอเปอเรเตอร์ในตลาดและมีบริษัทลูกรับติดตามหนี้สินที่ครองส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุด ซึ่งการยืดระยะเวลาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกไปกว่า 1 ปี เป็นเพราะภาพรวมตลาดทุนยังไม่นิ่งและการปรับโครงสร้างกิจการภายในยังไม่พร้อมนักอย่างไรก็ตามปัจจุบันปัจจัยแวดล้อม ทุกอย่างเอื้อมากขึ้นแล้วและที่ปรึกษาทางการเงินคือ Asia Plus Securities ก็สนับสนุนให้ระดมทุนในช่วงนี้
เจมาร์ท ดำเนินธุรกิจมา 16 ปีโดยเริ่มต้นจากเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกยี่ห้อ ใน ระบบเงินผ่อน ก่อนขยายช่องทางจำหน่ายเข้าไปในตลาดขายส่ง โดย มีสินค้าหลักคือ โทรทัศน์ เครื่องเล่นวิดีโอ และเครื่องปรับอากาศ ต่อ มาปี 1992 เริ่มดำเนินธุรกิจจัด จำหน่ายสินค้าโทรศัพท์มือถือ ผ่าน ระบบเงินสด ผ่อนชำระ และขายส่ง
เจมาร์ท มีบริษัทลูกที่สำคัญคือ JMT Network and Services บริษัทรับติดตามหนี้ซึ่งดำเนินธุรกิจ มา 9 ปี โดยปัจจุบันมีลูกค้าคือผู้ให้ บริการโทรศัพท์มือถือทุกระบบ ผู้ให้บริการสินเชื่อบุคคลอย่างอิออน อีซี่บายและจีอีแคปปิตอล นอกจาก นี้ เจมาร์ทยังถือหุ้น 45%ใน Global Wireless บริษัทที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ไม่ถึง 1 ปี ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการ พัฒนาคอนเทนต์ ซึ่งหวังไว้ว่าในอนาคตจะสามารถทำแอปพลิเคชั่น หรือคอนเทนต์เพื่อใช้เฉพาะโทรศัพท์ มือถือที่จำหน่ายโดยเจมาร์ท เหมือน อย่างที่กลุ่มสามารถมีไอ-โมบาย
สำหรับรายได้รวมของเจมาร์ท ในปัจจุบันแบ่งเป็น 95% มาจาก เจมาร์ทและ 5% มาจาก JMT ส่วน Global Wireless ยังเพิ่งเริ่มต้นซึ่งในอนาคตจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทโดยรวม ซึ่งในราว 3 ปี คาดว่า JMT จะสร้างผลกำไรให้มากกว่า 30% จากกำไรรวมของกลุ่ม จากที่ทำได้ประมาณ 10% ตอนนี้และหลังจากที่เจมาร์ท กระจาย หุ้นในราวไตรมาสที่สามปีนี้ JMT ก็มีคิวที่จะระดมทุนเป็นตัวต่อไปใน ปี 2005 ด้วย
นายอดิศักดิ์กล่าวว่าเจมาร์ทมีรายได้รวมในปีที่ผ่านมาประมาณ 3,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ประมาณ 6,000 ล้านบาทถึงแม้คนอาจมองว่ายอดคนซื้อ มือถือจะขยายตัวน้อยลง แต่จุดขายของเจมาร์ทคือมีการดำเนินธุรกิจที่ไม่เหมือนคนอื่น คือเจมาร์ท มีสาขา ไม่ใช่แฟรนไชส์ทำให้ควบคุม คุณภาพได้ดีกว่า และเจมาร์ทมีบริษัทลูกที่มีอนาคตทั้งสองบริษัท
ปัจจุบันเจมาร์ทมี 196 สาขาและมีแผนขยายให้ได้ครบ 210 สาขา ในปีนี้ มียอดขายโทรศัพท์มือถือ 50,000-60,000 เครื่องต่อเดือน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|