"ไชยวัฒน์" ถอดใจสวนสยาม


ผู้จัดการรายวัน(16 กรกฎาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

"ไชยวัฒน์" ลั่น เตรียมปิดฉากสวนสยามถ้าแผนเข้าตลาดหุ้นไม่สำเร็จ ทนขาดทุนไม่ไหว ย้ำเลิกบัตรฟรีทำรายได้หดหาย เร่งล้างตัวแดง ปรับใหญ่สวนสยามโละเครื่องเล่นเก่า 22 เครื่องทิ้ง ดันลูกชายนั่งแท่นเอ็มดีแทน วางแผนแตกบริษัทลูกคุมธุรกิจทั้งหมด

"ปีนี้สวนสยามก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 แล้ว หากแผน การเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่เป็นตามที่คาดหมายคงต้องปิดฉากสวนสยาม ขายเครื่องเล่น ขายที่ดิน ทำบ้านจัดสรรแทน เพราะถ้าขาดทุนอยู่แบบนี้ก็ไม่ไหวแล้ว ช่วง 2 ปีมาพยายามปรับปรุงสวนสยามใหม่ ใช้งบประมาณมาแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท" เป็นคำกล่าวของนายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานกรรม การ บริษัท อมรพันธุ์นคร สวนสยาม จำกัด ผู้บริหาร "สวนสยาม"

เขากล่าวด้วยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ และเตรียมโครง การปรับภาพลักษณ์ให้กับสวนสยาม ก่อนนำสวนสยามเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2551 ให้ได้ เดิมเคยมีแผนเข้าตลาดหุ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่มีข้อจำกัดด้านโครงสร้างการบริหารการจัดการ

การที่สวนสยามจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้นั้น จะต้องปรับโครงสร้างหนี้การเงิน สร้างกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ รวมถึงต้องทำกำไรให้ได้ติดต่อกันเป็น เวลา 3 ปี เพราะบริษัทอยู่ในภาวะการขาดทุนสะสมกว่า 1,000 ล้านบาท มานานแล้ว เนื่องจากการทำโปรโมชันแจกบัตรฟรี จัดงานกุศลต่างๆ และค่าใช้จ่าย ที่สูงถึง 200 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมให้เหลือ 300 ล้านบาทได้ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไร 20 ล้านบาทเมื่อปี 2546 ปีนี้ตั้งเป้าทำกำไรเพิ่มขึ้น 50% หรือ 40 ล้านบาท และต้องเพิ่มขึ้น จนภายในปี 2549 สวนสยามต้องมีกำไร 100 ล้านบาท

ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท ปีหน้าจะระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมอีก 300 ล้านบาท และจะ ชักชวนพันธมิตรใหม่ให้มาเข้าร่วม แต่บริษัทจะต้องมีแผนขยายงานที่ชัดเจน ซึ่งหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์อาจต้องระดมทุนเพิ่มเป็น 1,500-2,000 ล้านบาท

โครงสร้างการถือหุ้นของสวนสยามปัจจุบันเกือบ 100% เป็นของตระกูลเหลืองอมรเลิศ ซึ่งหากเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว ต้องการให้ 49% เป็นของตระกูลเหลืองอมรเลิศ แต่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน มองว่าตระกูลเหลืองอมรเลิศควรจะถือเพียง 30%

ส่วนโครงสร้างการบริหารจะแต่งตั้งนายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ บุตรชายขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทนนายวีระยุทธ์ จึงสุระ ซึ่งจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นประธานกรรมการแทนนายไชยวัฒน์ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาให้กับบริษัท

แนวทางการดำเนินงานจะแตกบริษัทลูกเพื่อควบคุมธุรกิจทั้งหมด บริษัททัวร์, บริษัทดูแลค้าปลีก ภายในสวนสนุก, บริษัทผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ "Si-am" โดยตั้งงบตลาดปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านบาท ซึ่งส่วนอื่นมาจากการสนับสนุนของพันธมิตร อาทิ เป๊ปซี่, ฟิล์มฟูจิ เป็นต้น และมีแผนปรับปรุงให้มีรูปแบบคล้ายยูนิเวอร์แซล ของสหรัฐอเมริกา เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มจาก 10% เป็น 50% ปรับภาพลักษณ์เป็น "สวนสยามแห่งเอเชีย" แทน "สวนสยามทะเลกรุงเทพฯ" หวังจับจ่ายต่อหัวเป็น 800 บาทต่อคนจากเดิมที่ค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อคน 100 บาท เพราะปัจจุบันลูกค้า 90% เป็นคนไทย

ส่วนแผนสร้างซิตี้ วอล์ก (City Walk) บนเนื้อที่ 70 ไร่ งบลงทุน 1,000 ล้านบาท ภายใต้แนวคิดศูนย์ความบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ขณะนี้ออกแบบซิตี้ วอล์กเสร็จแล้ว และจะเปลี่ยนเครื่องเล่นที่มีอยู่ 22 เครื่องให้เป็นเครื่องใหม่ ทั้งหมดอยู่ระหว่างติดต่อกับกลุ่มเมโช ประเทศญี่ปุ่น กลุ่มไอโม และกลุ่มฮูส จากประเทศเยอรมนี

การทำตลาดตั้งแต่ปีนี้จะปรับลดสัดส่วนการแจกบัตรฟรี แต่ละปียอดแจกบัตรฟรีสูงกว่า 10 ล้านใบ ในปีนี้ลดเหลือเพียง 10 ล้านใบ และสามารถใช้ ได้เฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น และตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2548 จะยกเลิกการแจกบัตรฟรีทั้งหมด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.