|
บีเอ็นทีปรับผังลดคน-ขายรง.ทิ้ง
ผู้จัดการรายวัน(7 กรกฎาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
บีเอ็นทีเตรียมดึงนักลงทุนกลุ่มเอนเตอร์เทนเมนต์ 4 รายเข้าถือหุ้น 29% แย้ม 1 ใน 4 เกี่ยวข้องกับบล็อคบัสเตอร์ พร้อมปรับโครงสร้างบริหารใหม่ ดึงมือดีจากหลายวงการร่วมนั่งแท่นบริหาร เผยทิศทางหลังปรับ เตรียมขายโรงงาน 2 แห่ง 160 ล้านบาท ลดคน ขยายธุรกิจใหม่ เดือน ส.ค.เล็งเสียบแทน 2 คลื่นวิทยุหมดสัญญา
นายอิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็นที เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุน 4 รายที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงของบีเอ็นทีจำนวน 278 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 29% จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 930 ล้านหุ้น ซึ่ง กลุ่มบุคคลเหล่านี้จะเข้ามาช่วยขยายธุรกิจให้กับบริษัท และเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านเอนเตอร์เทนเมนต์หลายประเภทตามที่บริษัทต้องการ เพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจเดิมที่บริษัทมีอยู่
หนึ่งในนักลงทุนกลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องและสัมพันธภาพที่ดีกับบล็อคบัสเตอร์เป็นอย่างดี ซึ่งบล็อคบัสเตอร์เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายปลีกภาพยนตร์ที่เป็นบริษัทระดับอินเตอร์เนชั่นแนลและมีลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ต่างประเทศ จึงเป็นพันธมิตรที่ บีเอ็นทีสนใจ ก่อนหน้านี้การเข้ามาทำตลาดของบล็อค บัสเตอร์ในไทยยังไม่เติบโตนัก และมีจำนวนสาขาไม่ถึง 10 แห่งทั่วประเทศ แต่บล็อคบัสเตอร์เอง ต้องการที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุม และอยู่ระหว่างหาพันธมิตรทางธุรกิจในไทย หลังจากที่กลุ่ม นักลงทุนกลุ่มนี้เข้ามาถือหุ้นในบีเอ็นทีแล้วเชื่อว่าบล็อคบัสเตอร์เองก็ต้องเร่งขยายตัวเช่นกัน
บริษัทสามารถที่จะสรุปโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหม่ 4 รายนี้ได้ภายในวันที่ 13-14 ก.ค.นี้ แต่ในเบื้อง ต้นได้เริ่มปรับโครงสร้างและผู้บริหารงานใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการเงินและการแข่งขัน ทางธุรกิจ โดยแยกส่วนการบริหารระหว่างฝ่ายการตลาดและฝ่ายการเงินออกจากกันและรายงานตรงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการที่ดูแลโดยม.ร.ว.รุจยารักษ์ อาภากร แทนการรายงานตรงกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารเหมือนเช่นเคย
ขณะที่ฝ่ายการตลาดที่แตกออกมาดูแลโดยนายชนิต สุวรรณพรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการ ตลาด ซึ่งถือเป็นนักการตลาดมืออาชีพที่เคยอยู่กับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี และส่วนของการเงินดูแลโดย นายวิโรจน์ มโนห์โมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ อาภากร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ทิศทางของบีเอ็นทีหลังจากปรับโครงสร้างการบริหาร เพิ่มทุนจดทะเบียนแล้ว บริษัทจะขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หาพันธมิตรและขยายธุรกิจใหม่ โดยเตรียมที่จะขยายที่ดินและโรงงานผลิตเทปคาสเสตที่ระยองและบางนาให้เสร็จภายในสิ้นปี คิดเป็นมูลค่า 160 ล้านบาท พร้อมกับลดจำนวนคนที่อยู่ในโรงงานแห่งนี้ และย้ายเครื่อง จักรผลิตเทปบางส่วนมาไว้ที่โรงงานที่พระราม 3 ซึ่งเดิมเป็นโรงงานผลิตดีวีดีและวีซีดี โดยตลาดเทปคาส เสตส่วนใหญ่บริษัทจะผลิตให้กับตลาดต่างประเทศ
การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่เพื่อให้บีเอ็นทีก้าวสู่ความเป็นบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ ครบวงจรก็เตรียม แผนที่จะโอนย้ายกิจการบริษัท บีเอ็นที เน็ทเวิร์ค จำกัด เคยบริหารอยู่มาไว้ที่บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ โครงสร้างทางธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นใน บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ประกอบด้วย ธุรกิจภาพยนตร์, ธุรกิจเพลง, ธุรกิจผลิตสื่อ อาทิ โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ คอนเสิร์ต และธุรกิจที่เป็นสื่อใหม่
โดยธุรกิจเพลงนั้น บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในค่ายเบเกอรี่ มิวสิคจากปัจจุบันที่มีอยู่ 25% แต่ต้องรอให้กลุ่มบีเอ็มจีกับโซนี่ มิวสิคจบการเจรจากันก่อน
ธุรกิจผลิตสื่อที่บีเอ็นทีมแชนเนล วี ไทยแลนด์ เตรียมแผนขยายการผลิตรายการให้กับฟรี มีเดีย โดยเจรจากับช่อง 5 และไอทีวีไว้แล้ว ส่วนสื่อวิทยุ ขณะนี้มีเพียงคลื่น 98.0 ลูกทุ่งรักไทยเพียงคลื่นเดียว แต่ในวันที่ 1 ส.ค.คาดว่าจะได้คลื่นใหม่ เนื่องจากมี 2 คลื่นที่กำลังหมดสัญญา ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาว่าเลือกเป็นรายการแชนเนล วี เอฟเอ็มหรือเลิฟ เอฟเอ็มที่หลุดจากผังวิทยุไปตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ด้านสื่อสิ่งพิมพ์จะเน้นขยายนิตยสารประเภท ความบันเทิงทั้งหัวไทยและหัวนอก โดยล่าสุดเพิ่งเปิด ตัวนิตยสารหัวนอก "POP" เมื่อต้นเดือน ก.ค.นี้ ส่วน ธุรกิจที่เป็นสื่อใหม่จะเกี่ยวข้องกับพันธมิตรนักลงทุน 4 รายใหม่ที่จะเข้ามาถือหุ้นในบีเอ็นทีเร็วๆ นี้ ปีนี้ธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้กับบีเอ็นทียังคงเป็นธุรกิจภาพยนตร์ แต่แนวโน้มในอนาคตธุรกิจดังกล่าวจะมี สัดส่วนลดเหลือเพียง 50% เท่ากับธุรกิจเพลง ธุรกิจโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ และธุรกิจสื่อใหม่
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|