BGHตั้งเป้าปี48ฟันรายได้1.3หมื่นล.รุกลงทุนต่างประเทศคาดจีนแห่งแรก


ผู้จัดการรายวัน(1 กรกฎาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

BGH เล็งลงทุนในเมืองจีนก่อนขยายให้ครอบคลุมประเทศในแถบเอเชีย เร่งขยายโรงพยาบาลในเครือให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม ศึกษาการนำโรงพยาบาลในเครือรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ปี48 ตั้งเป้ารายได้ 13,000 ล้านบาท กำไรโต 10%

นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วิทยาการ ประธานผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH) ผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยแผนการขยายธุรกิจภายหลังการควบรวมกิจการว่า หลังจากนี้จะเร่งขยายโรงพยาบาลในเครือให้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย คือ โรงพยาบาลในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ในลักษณะเข้าไปร่วมทุน เหมือนกับที่เคยร่วมทุนด้วยการเข้าถือหุ้นในโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตและกรุงเทพหาดใหญ่มาแล้ว ก่อนที่จะไล่ซื้อกิจการด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมดในเวลาต่อมา

ทำให้ขณะนี้มีโรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพกระจายอยู่เกือบทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออกเหลือเพียงภาคอีสานและภาคเหนือเท่านั้นที่ยังไม่มีซึ่งหลังจากนี้จะขยายเครือข่ายในส่วนที่เหลือเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ก็เตรียมขยายไป สู่ต่างประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เปิดคลินิกที่เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ซึ่งได้รับการตอบรับ ดีมาก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาว ญี่ปุ่น ที่มักจะเข้าไปใช้บริการของคลินิกนี้ ส่วนการรุกเข้าไปจีนตอนใต้นั้น ถือเป็นการไปลงทุนในรูปแบบโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนเข้าไปลงทุน

นายแพทย์พงษ์ศักดิ์กล่าวต่อว่า หลังจากการรวมกิจการครั้งนี้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าดีลนี้จะจบลงได้ในเดือนตุลาคม หลังจากนั้นจะศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำมารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมทั้งการศึกษาที่ขยายการลงทุนไปในต่าง ประเทศด้วย โดยปกติจะขยายโรงพยาบาลปีละ 2 แห่ง และปี 48 บริษัทจะสร้างโรงพยาบาลใหม่อีก 2 แห่ง จะใช้ทุนประมาณ 300 ล้านบาท

ส่วนในต่างประเทศจะขยายปีละ 2 แห่งเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นการสร้างใหม่หรือเข้าไปซื้อกิจการที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยการลงทุน BGH จะถือมากกว่า 50% ส่วนเงินที่จะซื้อกิจการนั้นอาจใช้เงินกู้และเงินทุนหมุนเวียนอย่างละครึ่ง ซึ่งโรงพยาบาลที่สร้างใหม่หรือลงทุนใหม่จะมีขนาด 100 เตียง ปัจจุบันที่บริษัทมีสินทรัพย์ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีกระแสเงินสดประมาณ 2 พันล้านบาท

ขณะที่โรงพยาบาลสมิติเวชจะมีการลงทุนในโรงพยาบาลทางภาคเหนือ นอกจากจะรองรับลูกค้าในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แล้วจะเป็นการกรุยทางเพื่อรองรับลูกค้าทางประเทศจีนตอนใต้ด้วย เนื่องจากการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะสะดวกกว่าเดินทางไปในเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุดของจีน

ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาว่าการเข้าไปลงทุนในจีนนั้น จะใช้แบรนด์ใด อาจเป็นแบรนด์ของโรงพยาบาลกรุงเทพหรือสมิติเวชก็ได้ โดยการไปลงทุนที่จีนนั้น ถือเป็นการบุกเบิก ตลาดต่างประเทศ ก่อนที่จะขยายไป ยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชียให้ครอบคลุม

ภายหลังการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลสมิติเวชเข้าด้วยกันแล้ว จะทำให้โรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพมีถึง 13 แห่ง โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีเป้าหมายแตกต่างกัน จะไม่มีการแย่งลูกค้ากันเอง ซึ่งการรวมกิจการกัน จะทำให้เกิดความแข็งแกร่ง เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาลมีการแข่งขันรุนแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนนี้มาก ขณะเดียวกันก็มีการขยายตัวมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลแต่ละแห่งจะไม่มีการแย่งลูกค้าระหว่างกัน เพราะจุดเด่นของแต่ละโรงพยาบาลแต่ละแบรนด์จะมีลูกค้าคนละกลุ่มเป้าหมาย เจาะตลาดเป้าหมายต่างกัน และโอกาสในการขยายธุรกิจยังมีอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันอัตราของเตียงต่อจำนวนผู้ป่วยยังต่ำ โดยอยู่ที่ 450 คนต่อ 1 เตียง ซึ่งไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับการเติบโตของจีดีพี เพราะต้องโตเป็น 2 เท่าของจีดีพี

เพราะไทยถือว่าเป็นประเทศที่เจริญแล้ว อัตราของเตียงต่อจำนวน ผู้ป่วยควรจะอยู่ที่ระดับ 300 คนต่อ 1 เตียง ดังนั้น โอกาสในการทำธุรกิจยังมีอีกมาก เพราะมูลค่าทางการตลาดของธุรกิจโรงพยาบาลอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันส่วนแบ่งทางธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของโรงพยาบาลกรุงเทพมีประมาณ 15% จากเดิมที่บริษัทมีส่วนแบ่งทาง การตลาดเพียง 6% และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า หลังจากการควบรวมกิจการเสร็จ

สำหรับปีนี้ BGH ตั้งเป้ารายได้ ประมาณ 7 พันล้านบาท เพิ่มจากปี46 ถึง 26% แต่จะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท หลังจากเกิดการควบรวมกิจการ แล้วเสร็จ ซึ่งรายได้ที่นำเข้ามารับรู้จะเข้ามาในงบการเงินไตรมาส 4 ปีนี้ และเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบาทภายใน ระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้

ส่วนปี 48 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 13,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรเพิ่มประมาณ 10% จากปีนี้ที่มีกำไรประมาณ 900 ล้านบาท หรือเพิ่มเป็นกว่า 1 พันล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.