แสนสิริขายหมดจริง แต่..เงินไม่มีเหลือ


นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2541)



กลับสู่หน้าหลัก

"ขาดทุน 20-30% ทุกโครงการไม่ใช่ขาดทุนกำไรนะ ขาดทุนเนื้อๆ เลย แคชโฟล์เกือบไม่มีเลย แบงก์เอาไปหมดแต่ลดหนี้ได้เยอะ กล้าพูดอย่างเต็มปากว่าไม่มีกำไร และไม่อายด้วยที่จะบอก"

เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการบริษัทแสนสิริ จำกัด มหาชน กล่าวยืนยันกับ "ผู้จัดการรายเดือน" ถึงการที่ตัดสินใจเอาโครงการที่อยู่อาศัยมาลดราคาถึง 50-62% ในขณะที่อีกหลายรายยังรีรอไม่กล้าตัดสินใจ เพราะเมื่อคำนวณดูแล้วถ้ายอมขายในราคาลด 50% จริงๆ ไม่ใช่เป็นการดันราคาขึ้นไปให้สูงก่อนแล้วมาลดราคาละก็ แน่นอนมันย่อมขาดทุนจำนวนมากทีเดียว

และจากการที่กล้าตัดสินใจในเรื่องยอมขาดทุนดังกล่าว เป็นรายแรกๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์นี่เอง ทำให้เศรษฐาสามารถขายยูนิตที่เหลือในโครงการบ้านพฤกษาศิริ 1 บนถนนเพชรบุรี, บ้านพฤกษาศิริ 2 ในซอยสวนสวนพลู และโครงการบ้านแสนสราญที่หัวหินไปได้เกือบหมด ชนิดที่ว่ายกเลิกโฆษณาตามสื่อต่างๆ ไม่ทันเลยเชียว

"สมมติขายได้พันล้านบาท ผมก็ลดหนี้ไปได้พันล้าน ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้าปีนี้ผมขายไม่ได้พันล้าน ผมต้องเสียดอกเบี้ยประมาณ 200 ล้านบาท ก็เท่ากับต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 20%" เศรษฐาอธิบายเพิ่มถึงเหตุผลที่ทำไป

ทั้ง 3 โครงการของแสนสิริดังกล่าวนั้นสร้างเสร็จทั้งหมดแล้ว และได้เปิดขายมานานประมาณ 2-3 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตทางด้านการเงินของประเทศค่อยๆ ทวีความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง นโยบายการขายลดราคาของบริษัทเองจึงได้เริ่มทำมาตั้งแต่กลางปี 2540 ซึ่งก็มีทุกรูปแบบไม่ว่าจะลดแลกแจกแถม แต่ไม่ได้ผล ยอดขายไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย

จนกระทั่งเดือนมกราคมที่ผ่านมาทางบริษัทได้ตัดสินใจลดราคาลงไปถึง 50% โดยเน้นไปที่โครงการพฤกษาศิริ 1 และ 2 ซึ่งมียูนิตว่างประมาณ 50 ยูนิต ซึ่งผลปรากกฏว่า บริษัทก็สามารถปิดการขาย 2 โครงการดังกล่าวไปได้เรียบร้อย

จากความสำเร็จครั้งนั้น ทำให้เศรษฐาได้จัดแคมเปญพิเศษขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อรับลมร้อนเดือนเมษายนที่ผ่านมาในรายการ "ช็อค ออน เดอะ บีช" สำหรับโครงการบ้านแสนสราญ หัวหิน โดยลดราคาถึง 50-62% มีประมาณ 60 ยูนิต พื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร โดยยูนิตที่ไม่ได้อยู่ติดทะเล หรือเป็นห้องที่ทำเลไม่ดีนัก ได้ลดลงต่ำถึง 62% ซึ่งทำให้ราคาที่ตั้งไว้เดิมประมาณ 5.2 ล้านบาทเหลือเพียง 1.98 ล้าน บาทเท่านั้น

พร้อมๆ กับการกระหน่ำลดราคาของบริษัทแสนสิริ การขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ในตลาดโดยทั่วๆ ไปนั้นได้ทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกปีที่ผ่านมา เป็นที่ยอมรับกันว่า กลยุทธ์ของการลดราคาเพียง 20-30% นั้นไม่ได้ผลในการกระตุ้นยอดขายแต่อย่างใด หลายโครงการจึงท้าลดกันเต็มที่ถึง 50% เช่นในโครงการบางกอกแลนด์, ไทยวา, ธนายง, เอ็มไทยเอสเตท, และกฤษดามหานคร ซึ่งทุกโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าเห็นของจริงและสามารถเข้าอยู่ได้ทันที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโครงการเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จในการขายทั้งหมด

จุดเด่นของแสนสิรินั้น นอกจากโครงการที่นำมาลดราคานั้นสร้างเสร็จแล้ว ยังเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และเป็นโครงการที่อยู่อาศัยขนาดกลางที่ไม่แออัดมากนัก เช่นโครงการพฤกษ์ศิริ 1 ราชเทวี ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1.4 ไร่ มีห้องชุดเพียง 64 ห้อง, พฤกษ์ศิริสวนพลูมีเพียง 58 ห้องบนพื้นที่ 1.3 ไร่ ส่วนโครงการบ้านแสนสราญที่หัวหิน เป็นอาคารชุดพักอาศัยแบบแนวราบจำนวน 310 ห้องบนพื้นที่ 16.7 ไร่ ซึ่งจำนวนยูนิตที่ไม่มากอย่างนี้ ทำให้การบริหารอาคารชุดหลังการเข้าอยู่อาศัย การเก็บค่าบริหารส่วนกลาง รวมทั้งการดูแลทำความสะอาดก็ไม่น่าจะเป็นปัญหามากนัก

มหกรรมลดราคาทั้ง 3 โครงการนี้ ทำให้กลุ่มแสนสิริมั่นใจว่าจะทำให้มีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะทำเรื่องทยอยโอนทุกยูนิตได้ภายในปี 2540 นี้แน่นอน โดยสถาบันการเงินที่ลูกค้าจะผ่อนต่อก็คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กสิกรไทย และ ไทยทนุ

"แค่นี้ผมก็แฮปปี้แล้วที่ขายหมด ถึงแม้เงินจะไม่เหลือเพราะต้องใช้หนี้ ส่วนลูกค้าเองก็สบายใจที่ได้เห็นห้องที่เรียบร้อย ยกกระเป๋าเข้าไปได้เลย แบงก์เองก็ได้เงินคืน" เศรษฐากล่าว

ส่วนแผนงานของบริษัทแสนสิริต่อไปนั้นในระยะเวลา 1-2 ปีนี้ โอกาสที่จะซื้อที่ดินมาเพื่อพัฒนาโครงการเองคงเป็นไปไม่ได้ รวมทั้งโครงการอื่นๆ ที่วางแผนไว้ แต่ยังไม่เริ่มงานก็คงต้องชะลอไปก่อน แต่อาจจะมีความเป็นไปได้ในเรื่องของการร่วมทุน เพื่อพัฒนาโครงการอื่นๆ ที่ประกาศขาย ซึ่งก็ต้องรอดูเงื่อนไขรายละเอียดในการประมูลจากทาง ปรส.ก่อน

"ผมก็ไม่รู้ว่าตัดสินใจผิดหรือถูก เกิดในเร็วๆ นี้ตลาดดีขึ้นเท่ากับว่าผมตัดสินใจผิด แต่ถ้าตลาดแย่ไปอีก 2-3 ปี ผมว่าผมตัดสินใจถูกแน่นอน อาจจะมีผู้ประกอบการบางรายมาโทษว่าผมทำเสียราคาผม ก็ไม่รู้ล่ะ ในความรับผิดชอบของผม ผมจำเป็นต้องทำ" เศรษฐาสรุป



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.