อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ตลาดของแพงคุณภาพสูงยังสดใส


นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2541)



กลับสู่หน้าหลัก

อาทิตย์ไม่อัสดงง่ายๆ ในแวดวงอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซ้ำยังเจิดจรัสนักในวงการของอิตาลี ผู้บริโภคยังพึงใจจะควักสตุ้งสตางค์ซื้อ หาของประณีต ของงดงามสกุลอิตา เลียนมาห่อหุ้มเรือนกาย ตลาดเครื่องนุ่งห่มของโลกแม้ดูว่าจะอิ่มตัวและมีการแข่งขันรุนแรง แต่ผู้ประกอบการในอิตาลียังมีกำลังใจเข้มแข็งที่จะผลิตของดีมีคุณภาพสูงบนสนนราคาที่คุ้มค่าเหนื่อย ซ้ำยังต้องการซื้อกิจการอนาคตไกลมาเติมมูลค่าแก่วัตถุดิบของตน

ในท่ามกลางภูมิทัศน์อันงดงามแห่งฝีมือรังสรรค์ของพระเจ้า และศิลปะอันวิจิตรแห่งความคิดความประณีตของบรรพบุรุษ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของคนอิตาเลียนถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเนิ่นนานกว่า 2 ศตวรรษ อุตสาหกรรมสาขานี้ฝังตัวกระจัดกระจายอยู่ในสารพัดหลืบมุมของประเทศ ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในกระบวนการปั่นด้าย ย้อมสี ทอผ้า ตัดผ้า และเย็บปักถักร้อย กำลังโลดแล่นอย่างมีชีวิตชีวาอยู่ในโรงจักรโรงหัตถกรรมซึ่งบริหารแบบอุตสาหกรรมในครอบครัว และเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายใกล้ชิดเหนียวแน่น


ณ พื้นที่ต้นทางของอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการทุ่มเทความคิดสร้างสรรค์ เนื้อผ้าชนิดใหม่ๆ ส่วน ณ พื้นที่ปลาย ทาง ดีไซเนอร์ใช้วิญญาณแห่งสุนทรียภาพเนรมิตแฟชั่นออกมาประเทืองอารมณ์ผู้บริโภค

ชั่วโมงนี้ของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของอิตาลี ความใหญ่โตของขนาดการผลิต ความโอฬาร ของทิวแถวหุ่นยนต์ยาวเหยียดคอยป้อนชิ้นผ้าไปๆ มาๆ ผ่านเครื่องตัดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่จุดเด่นที่สุดของอุตสาหกรรมอีกต่อไปแล้ว โนว์-ฮาวอันสะสมอยู่ในชีพจรและลมหายใจของผู้ประกอบการในทุกขั้นตอนนั่นแหละ ที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มแห่งอิตาลี

เมื่อปลายทศวรรษ 80 อิตาลีหวั่นวิตกว่า อนาคตของประเทศจะสั่นคลอน เพราะต้องพึ่งพิงการส่งออก ผลิตภัณฑ์ของบรรดาอุตสาหกรรมที่พัฒนาสู่ภาวะอิ่มตัว อาทิ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และรองเท้า แต่การณ์ กลับเป็นว่าอิตาลียังขยายตัวก้าวหน้าได้ตลอดช่วงทศวรรษ 90 โดยมียอดส่งออกสิ่งทอและเสื้อผ้าเพิ่มสูงขึ้นในระดับเกินกว่า 70% นั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่า ภาวะอิ่มตัวสามารถหนุนนำให้เกิดความแข็งแรงได้เปรียบในการแข่งขันบนเวทีโลก

ฐานะอันแข็งแกร่งของอิตาลีในตลาดโลกได้หยั่งรากระบัดใบถึงขนาดว่าในบางภาคส่วนของอุตสาหกรรมนี้ แทบจะถูกผูกขาดด้วยโนว์-ฮาวอิตาเลียนแต่เพียงผู้เดียว ตัวอย่างเช่น คาสเทล กอฟเฟรโด ซึ่งเป็นเขตเล็กๆ เขตหนึ่งของอิตาลี เป็นผู้ผลิตถุงน่องเกือบ 2 ใน 3 ที่ผู้หญิงยุโรปใช้กันอยู่ โรงงานของเออร์เมเนกิลโด เซงญา เป็น ผู้ผลิตผ้าผืนราว 30% ของที่นำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าบุรุษระดับเลิศหรูในโลกปัจจุบัน ประดาแฟชั่นเฮาส์นามอุโฆษของสายสกุลต่างๆ รวมทั้งของสำนักอเมริกัน อาทิ ราล์ฟ ลอเรน กับ แคลวิน ไคลน์ แม้จะสั่งผลิตเสื้อผ้าไลน์ราคาถูกในประเทศซึ่งค่าจ้างแรงงานต่ำ แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับท็อป แล้ว เป็นต้องว่าจ้างให้ผลิตในอิตาลี

บนความพยายามที่จะอธิบายความลับอันเป็นนามธรรมเบื้องหลังความรุ่งโรจน์ วิตโตริโอ กุยลินี ประธานของ โมดา อินดัสเตรีย หรือ สมาคมอุตสาหกรรมผ้าผืนและผ้าถักแห่งอิตาลี ชี้ว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของอิตาลีมั่นคงอยู่บนเสาหลัก 4 ประการ

ประการแรกคือ เทคโนโลยีอันละเอียดซับซ้อน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงทุกขั้นตอนของระบบการผลิตให้สื่อสารถึงกันและกันได้ นับเนื่องตั้งแต่เครื่องปั่นด้ายมาจนถึงแคตวอล์กเดินแบบ ประการที่สองคือ การสั่งสมทางประวัติศาสตร์ที่ระบบการผลิตเฉพาะแบบของอิตาลีบ่มเพาะสร้างตัวตนขึ้นมา

เสาหลักต้นที่สามที่กุยลินีสัมผัส ได้คือ การดูดซับวัฒนธรรมอันงดงาม ด้วยสุนทรียศิลป์เข้าไปในวิญญาณแห่ง แฟชั่น วัฒนธรรมที่ชนชาวอิตาเลียนดื่มกินสูดหายใจในท่ามกลางมรดกความ งามแห่งบรรพชน การดูดซับเช่นนี้เองที่เอื้อให้เกิดทั้งดีไซเนอร์ผู้หลักแหลมเฉียบคม และผู้บริโภคที่รู้จักแยกแยะ ว่าอะไรเป็นของดีของงาม รู้จักที่จะบริโภคความงามที่ซับซ้อน ผู้คนเหล่านี้แหละที่ย่างเยื้องเลือกสรรซื้อหาสิ่ง ของชวนใหลหลงในห้างร้านย่าน วีอา มองเตนาโปลีโอเน ของนครมิลาน

เสาหลักต้นสุดท้ายในความเห็น ของกุยลินีได้แก่ ร้านค้าปลีกระดับครัวเรือนรายเล็กที่เติบโตอย่างอิสระดาษดาในซอกหลืบต่างๆ ของประเทศ มันคือหลักประกันว่า บรรดาเจ้าของรสนิยมหรูวิไลทุกรายแม้จะอยู่ตามเมือง เล็กเมืองน้อย ล้วนสามารถเสาะหาเส้นใยผืนผ้าชั้นเยี่ยมที่สุดมาสวมใส่ได้

พัฒนาการขั้นต่อไปสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของอิตาลีได้เริ่มก่อตัวแล้ว นั่นคือการ ผนึกเอาทุกส่วนเสี้ยวของสายพานอุตสาหกรรมแขนงนี้เข้าไว้ในเครือข่ายธุรกิจเจ้าเดียวกัน หรือที่เรียกว่า การผนวกเข้าด้วยกันในแนวตั้ง เป้าหมายของกลยุทธ์นี้ย่อมไม่ใช่อื่นใดนอกจากการสร้าง มูลค่าเพิ่มในแต่ละส่วนเสี้ยวของอุตสาหกรรมให้ได้ตลอด ทั้งกระบวน ตัวอย่างโดดเด่น ที่สุดในแนวโน้มนี้ ได้แก่กรณีของ มาร์ซอตโต้ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วัลดังโญ

มาร์ซอตโต้นั้นพื้นฐานดั้งเดิมเป็นกิจการทอผ้าขนาด มหึมา โดยเป็นลูกค้ารายใหญ่ของอุตสาหกรรมขนแกะของออสเตรเลีย ด้วยสัดส่วนการรับซื้อขนแกะส่งออกของออสเตรเลียที่สูงถึง 5% ณ ปัจจุบันนี้บริษัทกำลังซื้อหาดีไซเนอร์และแบรนด์ เนมแฟชั่นเอาไว้ในพอร์ตของตัวเอง ไม่ขาดสาย กลยุทธ์เช่นนี้ได้เอื้อให้บริษัทสามารถแปรเปลี่ยนตัวเองจากธุรกิจผลิตสิ่งทอซึ่งให้ผลกำไรต่ำ มาเป็นกลุ่มธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่มีผลประกอบการรวมสูงขึ้น กำไรของบริษัทในปี 1997 เพิ่มขึ้นจาก 9% เป็น 11.2% ในขณะที่ในด้านของรายได้ รวมนั้นเป็นรายรับจากหมวดเสื้อผ้าสำเร็จรูปถึง 2 ใน 3

เท่าที่ผ่านมา บริษัทกว้านซื้อธุรกิจปลายน้ำที่เข้มแข็งอนาคตไกลไว้อย่างกว้างขวาง อย่างเช่น ฮูโก บอสส์ ซึ่งดั้งเดิมเลยเป็นบริษัทเสื้อผ้าบุรุษสัญชาติเยอรมัน นอกจากนั้น บริษัทยังสามารถลงนามทำดีลกับดีไซเนอร์อิตาเลียนระดับบลูชิปอย่าง เกียนฟรังโก เฟอร์เร

มาร์ซอตโต้ผลิตเสื้อผ้าป้อนแฟชั่นเฮาส์ขาใหญ่คับโลกหลายยี่ห้อ บางแบรนด์เป็นสกุลอิตาเลียน บางแบรนด์ไม่ใช่ สำรวจไปตามชั้นราวในโกดังของบริษัท พบทั้งเสื้อสูทติดโลโกเกียนฟรังโก เฟอร์รา แขวนไว้ใกล้ๆ กับเสื้อสูทเบลเซอร์แปะฉลากของ มาร์กส์ แอนด์ สเปนเซอร์ ที่ดูเท่พอกันทว่าไม่โฉบเฉี่ยวเท่า เพราะห้างเครือ นี้จับลูกค้าระดับกลางของอังกฤษ

ในเวลาเดียวกัน ศักยภาพการ ทำเงินของอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นที่เย้ายวนให้เครือข่ายบริษัทยักษ์ ดูดเอากิจการคุณภาพดีเข้าร่วมวงไพบูลย์แห่งเครือข่ายตนบนกลยุทธ์แห่งการขยายธุรกิจแนวขวาง

สองกรณีฮอตของปรากฏการณ์ ด้านนี้คือ กรณีเฟอร์รากาโม ผู้ผลิตรองเท้าและเครื่องประดับชั้นนำ เข้าซื้อแฟชั่น เฮาส์เอมานูเอล อุงกาโร เมื่อปี 1996 พร้อมกับผนวกเอาน้ำหอม อุงกาโร มาจากชาแนล ในเวลาเดียว กันด้วย และการซื้อแฟชั่นเฮาส์ วาเลน ติโน เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มโฮลดิ้ง ดิ ปาร์เตซิปาซิโอนี อินดัสเตรียลิ (เอชดีพี) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีกิจการหลายหลากสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครมิลาน รวมทั้งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในโรงงานผลิตกระดาษชั้นนำของอิตาลี กับเป็นเจ้าของ อาร์ซีเอส เอดิตอรี สำนักพิมพ์อันดับหนึ่งของประเทศ

งานนี้วาเลนติโน การาวานี กับ เกียนคาร์โล เกียมเมติ ได้เงินเข้ากระเป๋าไปประมาณ 260 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับส่งสัญญาณให้เพื่อนๆ ในวงการเห็นว่า แฟชั่นอิตาเลียนกับโลกธุรกิจและการเงินภายนอก กำลังประสานเข้าหากันอย่างสนิทแนบแน่นกันอย่างไร

การเข้าซื้อวาเลนติโน หมายถึง เขี้ยวเล็บที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับเอชดีพีภายในวงการอุตสาหกรรมเสื้อผ้า มันคือการเข้าควบคุมแบรนด์เนมใหญ่อีกแบรนด์หนึ่งได้อย่างเด็ดขาด เป็น ก้าวกระโดดจากเดิมที่เคยเป็นเพียงสายสัมพันธ์ในรูปไลเซนส์ นอกจากนี้ เอชดีพี ยังมี จิออร์จิโอ อาร์มานี, ปิแอร์ การ์แดง และ นีโน เซอร์รูตี อยู่ในพอร์ตของบริษัทลูกนาม จีเอฟที ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเสื้อผ้า

กระแสการตัดสินใจขายแฟชั่นเฮาส์ให้แก่ผู้ประกอบการรายยักษ์ดังที่วาเลนติโนกระทำ ดูว่าจะมาแรงในฐานะ ของยุทธศาสตร์ประการหนึ่งสำหรับพวกสไตลิสต์แฟชั่นที่ประสบความสำเร็จ และต้องการลานบินทองคำไว้รองรับซอฟต์แลนดิ้งของตน ยุทธ-ศาสตร์อีกอย่างหนึ่งที่เย้ายวนไม่น้อยคือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อันเป็นเส้นทางที่คาดกันว่าแฟชั่นเฮาส์สำนักเวอร์ซาเช่จะเลือกเดิน ส่วนสำหรับ แบรนด์เนมอย่าง จิออร์จิโอ อาร์มานี กับ เกียนฟรังโก เฟอร์เร จะไปในเส้นทางสายใดเมื่อเจ้าของชื่อตัดสินใจเกษียณ ออกจากวงการนั้น ยังไม่เป็นที่ชัดเจน

ภาพลักษณ์อันรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของอิตาลีนั้น เป็นเพียงด้านเดียวของเหรียญแห่งชะตากรรม อุตสาหกรรมหมวดนี้มิได้ปลอดจากภัยคุกคามทั้งปวง ตรงกันข้าม มันถูกท้าทายอยู่ตลอดเวลาด้วยปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการที่ชาวฝรั่งเศสสามารถฟื้นคืนฐานะการเป็นผู้กำหนดตัดสินรสนิยม อันดีของโลก แล้วยังกระแสคุกคามจากการผงาดขึ้นลุยเวทีโลกแบบยกแผง ของหมู่ดีไซเนอร์อเมริกัน ไหนจะแนวโน้มที่การบริโภคเสื้อผ้าแฟชั่นลดลง

ต่อปัญหาเหล่านี้ ผู้ประกอบการในแวดวงอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของอิตาลี มิได้เฉื่อยชาที่จะปรับตัว เริ่มมีการพลิกกลยุทธ์กันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นับจากที่ประเทศต่างๆ ในเอเชียประสบวิกฤตการณ์ทางการเงินกันอย่างมโหฬาร ตัว อย่างเช่น เกียนฟรังโก เฟอร์เร ซึ่งเคยทำยอดขายได้มากจากเอเชีย ตอนนี้ตั้งเป้าเล็งมาสู่การเพิ่มส่วนแบ่งจากยุโรป นั่นหมายความว่าเสื้อผ้าในคอล เลกชั่นฤดูหนาวปีหน้าของแบรนด์นี้ จะใช้เนื้อผ้าหนาหนักมากขึ้น และสีสันก็จะทึมซึมลงอันเป็นสิ่งที่ชาวยุโรป นิยมมากกว่า อย่างไรก็ตาม กัสปารี อัสปาโร แห่งสถาบันการค้าต่างประเทศ ของอิตาลีวิเคราะห์ว่า ปัญหาหลักที่สำคัญเหนืออื่นใดคือการพัฒนาวัสดุใหม่ๆ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุด หากเป็นในด้านผ้าขนสัตว์ อิตาลีมั่นอกมั่นใจนักกับฐานะความเป็นเจ้าแห่งการพัฒนาผ้าขนสัตว์ของตน ด้วยว่าบรรดาหัวกะทิในเขตบิเอลลาของอิตาลี ยังกระตือรือร้นทำวิจัยและพัฒนาเส้นใยและเนื้อผ้าจากขนสัตว์แบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ สามารถพัฒนา เทคนิคในการทอเส้นใยที่บางเล็กละเอียดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งสามารถควบคุมคุณภาพเนื้อผ้าของตนได้ละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้นทุกที

แต่ในแวดวงงานพัฒนาวัสดุสังเคราะห์ใหม่ๆ นั้น มันเป็นพื้นที่เปราะบางของอุตสาหกรรมหมวดนี้ของ อิตาลี ยิ่งกว่านั้น มันเป็นโนว์-ฮาวที่บริษัทอเมริกันก้าวหน้าเหนือชั้นไปหลายช่วงตัวแล้ว ดูปองต์ ยักษ์ใหญ่ด้านเคมีภัณฑ์จากมลรัฐเดลาแวร์ เป็นผู้สร้าง "ไลครา" เส้นใยสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นสูงซึ่งเป็นที่นิยมมากของผู้ชมชอบออกกำลังกาย ดับบลิว. แอล.กอร์ แอนด์ แอสโซซิเอตส์ เป็นผู้พัฒนา กอร์-เท็กซ์ ที่เป็นวัสดุซึ่งนิยมใช้ทำหมวกผู้หญิงระดับเลิศ วัสดุ เหล่านี้ไม่ได้จำกัดวงใช้กันเฉพาะบางเซ็กเมนต์ของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มอีกต่อไปแล้ว วัสดุสังเคราะห์ใหม่ๆ บุกตลาดเข้าไปปรากฏให้เห็นในเสื้อผ้าชุดเท่สง่าสบายในปริมณฑลกว้างขวางแล้ว

ยิ่งกว่านั้น เนื้อผ้าไฮเทคที่มีคุณสมบัติอันมหัศจรรย์มากมายกำลังขยายอิทธิพลเข้าไปในหมู่ดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ (ประเภทที่ทยอยจบมาจากวิทยาลัยเซนต์มาร์ตินในกรุงลอนดอน) ดีไซเนอร์เลือดใหม่ไฟแรงนับแต่จะมีจำนวนมากขึ้นทุกขณะ และกำลังทะยานขึ้นสู่ระดับเพนท์เฮาส์แห่งอาชีพ พวกเขาทยอยขึ้นยึดหัวหาดในแถวหน้าของแฟชั่นเฮาส์ชั้นเลิศเก่าแก่ของฝรั่งเศส แนวโน้มที่พวกเขาจะสามารถช่วงชิงฐานะผู้นำทางความคิดในโลกแฟชั่นนับแต่จะสูงขึ้น ไอเดียของพวกเขาจะถูกดูดซึมเข้าสู่วงการเสื้อผ้ากระแสหลักมากขึ้นเรื่อยๆ

ยังเร็วเกินไปที่ประเมินว่าความ อ่อนด้อยกว่าในพัฒนาการแห่งวัสดุสังเคราะห์จะเป็นเหตุให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของอิตาลีเพลี่ยง พล้ำต่อการรุกคืบจากสำนักแฟชั่นอเม-ริกัน ในแวดวงแห่งการห่อหุ้มเรือนกายของโลกใกล้ยุค 2K มนุษย์ยังคงเป็นมนุษย์ที่เปี่ยมด้วยความฝันและจินตนาการ การห่อหุ้มร่างกายย่อมวน เวียนอยู่กับความรู้สึกนึกคิดแห่งการซื้อความพอใจ ซึ่งเจ้าความพอใจนี้ช่างอิสระจากปริมณฑลแห่งกาละและเทศะ จนยากแก่การจำกัดวิสัยทัศน์ว่าวัสดุสังเคราะห์ใหม่ๆ เท่านั้น จึงเป็น คำตอบแห่งรสนิยมของยุคสมัยได้

จุดแข็งแห่งความริเริ่มสร้างสรรค์ การนำเสนอสุนทรียภาพที่กลั่นกรองอย่างลึกซึ้ง การเป็นสุดยอดช่างฝีมือ และการพัฒนาวัสดุจากธรรมชาติให้ละเอียดอ่อนงดงาม น่าจะเป็นเครื่องรับประกันความยั่งยืนของอุตสาหกรรม สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในอิตาลี ประเทศ แห่งชาติพันธุ์ผู้เชื่อมั่นว่าค่าแรงงานถูกไม่ใช่เงื่อนไขสำคัญที่สุดในเวทีการแข่งขันระดับโลก พวกเขาเป็นชาติพันธุ์ผู้เชื่อมั่นว่า คุณภาพของผลิตภัณฑ์คือหนทางสู่หม้อทองคำ ณ สุดปลายสายรุ้ง แห่งความฝัน จินตนาการ และการพัฒนา สำหรับอิตาลีแล้ว ไม่มีคำว่าอาทิตย์อัสดงในอุตสาหกรรมหมวดนี้ หากจะมีแต่คำว่าอภิมหาอำนาจและทรัพย์ศฤงคารในโลกแห่งการห่อหุ้มเรือนกาย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.