สวีเดนมอเตอร์ส ส่ง "วอลโว่ แคร์" เสริมทัพบริการหลังการขาย


นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2541)



กลับสู่หน้าหลัก

วอลโว่แคร์" เป็นโครงการที่สวีเดนมอเตอร์สจับมือกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เพื่อเป็นหนึ่งในช่องทางสนับสนุนการบริการหลังการขาย และให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่นทุกคัน มีโอกาสได้รับเอกสิทธิ์และสิทธิประโยชน์ครอบคลุมทุกด้านของชีวิต นับตั้งแต่ บัตรเครดิต VOLVO-STANDARD CHARTERED-VISA โดยสมาชิกที่ถือบัตรนี้จะได้รับส่วนลดค่าอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่ง 7.5% ส่วนลด 30% สำหรับการใช้บริการอู่ซ่อมสีและตัวถัง ส่วนลด 20% สำหรับสินค้าที่ระลึกของวอลโว่ และ 30% สำหรับทุกหลักสูตรของ "VOLVO GOLF ACADEMY" และบัตรนี้สามารถใช้ได้ทันทีกรณีฉุกเฉินตลอด 24 ชม. โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และส่วนลด 50% สำหรับการบริการในต่างจังหวัด รวมทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกบัตรนี้ยังสามารถผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ และค่าชุดบำรุงรักษารถยนต์ได้อีกด้วย

นอกจากสิทธิพิเศษต่างๆ ด้านรถยนต์แล้ว ลูกค้าของสวีเดนมอเตอร์สที่เป็นสมาชิกบัตรนี้ ยังจะได้รับส่วนลดและบริการพิเศษจากพันธมิตรของธุรกิจของบริษัทฯ ที่เข้าร่วมในโครงการนี้ ได้แก่ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือดุสิตธานี เครืออมารี เครือเซ็นทรัล และเครือโนโวเทล ส่วนบริการด้านสุขภาพจะได้รับส่วนลดพิเศษที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สมิติเวช บางกอกเนอร์สซิ่งโฮม และพญาไท 2 ตลอดจนสินค้าและบริการด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ สิทธิพิเศษจากสายการบินฟินแอร์ ปั๊มน้ำมัน Q8 เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกของ "วอลโว่แคร์" ยังมีส่วนในการร่วมทำบุญกับบริษัทฯ ด้วยคือ ทุกๆ 100 บาทที่ได้จากการสมัครสมาชิก ทางบริษัทฯ จะนำเข้าสมทบทุน "กองทุน วอลโว่แคร์เพื่อสังคม" สำหรับใช้ในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป

โครงการวอลโว่แคร์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการและให้บริการได้เต็มรูปแบบในเดือนมกราคม 2542 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ใช้รถยนต์วอลโว่ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นปีใดก็ตามสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมปีละ 2,000 บาท ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้เตรียมแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์วอลโว่ใหม่ทุกคันตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 42 เป็นต้นไป จะได้รับสิทธิในการยกเว้นค่าธรรมเนียม "วอลโว่แคร์" ในปีแรก

"ผมมั่นใจว่าเราจะได้สมาชิกไม่ต่ำกว่า 6,000 รายในปีแรก และผมไม่ได้หวังรายได้จากตรงนี้มากมายนัก แต่สิ่งที่ผมต้องการคือ การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากกว่า โดยเฉพาะลูกค้าเก่าของเรา ซึ่งหากเราเสียลูกค้ากลุ่มนี้ไป เราจะแย่ เพราะลูกค้าใหม่ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ" เป็นคำกล่าวของ เจฟฟรีย์ โรว์ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโสและ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทสวีเดนมอเตอร์ส จำกัด (มหาชน)

สำหรับยอดจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ในปีนี้ เจฟฟรีย์คาดว่าจะขายได้ประมาณ 850 คัน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนกันยายนสามารถขายได้ประมาณ 700 คันแล้ว โดยเฉพาะยอดขายในเดือนกันยายนสูงถึง 132 คัน ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากในเดือนตุลาคมจะมีการปรับราคาใหม่ ลูกค้าจึงรีบซื้อก่อนที่จะมีการปรับราคา

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของสวีเดนมอเตอร์ส มาจากการให้บริการหลังการขาย ซึ่งรวมค่าอะไหล่และค่าแรงด้วยคิดเป็น 66% ส่วน 33% มาจากยอดขายรถยนต์ และอีกประมาณ 1% มาจากค่าสปอนเซอร์ชิป ในขณะที่รายได้รวมของปี'40 ที่ผ่านมา 45% มาจากรายได้จากการขายรถยนต์ และ 55% มาจากบริการหลังการขาย จากตัวเลขรายได้รวมทั้ง 2 ปีของสวีเดนมอเตอร์ส เป็นการยืนยันว่า กลุ่มลูกค้าเก่ามีความสำคัญกับบริษัทฯ มากในภาวะปัจจุบัน ฉะนั้นพัฒนาการบริการหลังการขายจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ถูกละเลยไม่ได้

เจฟฟรีย์ ยอมรับว่าการบริหารหลังการขายของบริษัทฯ ที่ผ่านมาไม่ดีเท่าที่ควร จนกระทั่ง INVAR ENBERG ตำแหน่ง VICE PRESIDENT AFTER MARKET ได้เข้ามารับหน้าที่ในการพัฒนาปรับปรุงการบริการหลังการขายของบริษัทฯ ตั้งแต่ต้นปี'40 จึงทำให้ตัวเลขความพึงพอใจที่สำรวจจากลูกค้าเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และสวีเดนมอเตอร์สได้มีการพัฒนาการบริการหลังการขายมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

"ทุกเดือนเราจะมีการสัมภาษณ์ลูกค้าของเราเกี่ยวกับการให้บริการหลังการขายของเรา และเราก็พบว่า เราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในปีนี้ โดยเมื่อเดือน ม.ค.-ก.ย. ความพึงพอใจเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ทำให้ตัวเลขความพึงพอใจรวมใกล้ 80% แล้ว จากที่เราตั้งไว้ประมาณ 82-84% ซึ่งจะเห็นผลในไตรมาสแรกของปี'42" เจฟฟรีย์กล่าว โดยอิงวาร์ได้เสริมว่า

"เราลงทุนมหาศาล เพื่อจะสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้ามากที่สุด นับตั้งแต่การฝึกอบรมพนักงานผู้ให้บริการตั้งแต่หน้าร้าน จนถึงหลังร้าน คือตั้งแต่พนักงานต้อนรับจนถึงช่าง ครบทั้งศูนย์บริการทั้ง 26 แห่งให้เป็นมาตรฐานเดียวกันหมด นอกจากนั้น เรื่องราคาอะไหล่ก็ยังเป็นส่วนสำคัญ ที่เราพยายามออกไปสำรวจตลาดและเปรียบเทียบราคา ซึ่งพบว่า ราคาเราค่อนข้างถูกกว่ารถยุโรปรายอื่น แต่กระนั้น เราก็มีโครงการที่จะขายชิ้นส่วนอะไหล่เป็นแพ็กเกจราคาพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น อีกทั้งในส่วนของพาร์ตเนอร์ชิปที่ร่วมมือกับเรา ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้บริการลูกค้าเราให้ครบวงจรยิ่งขึ้น เช่น ปั๊มน้ำมัน Q8 และโครงการวอลโว่แคร์ที่เราตั้งขึ้น"

และในเดือนธันวาคมนี้ สวีเดนมอเตอร์สจะเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เป็นสินค้าเกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์ โดยจะมีรูปโฉมใหม่ และมีคอนเซ็ปต์เป็น "ร้านค้า" โดยเฉพาะ

สำหรับทิศทางตลาดรถยนต์ในปีหน้านี้ เจฟฟรีย์ ผู้บริหารของสวีเดนมอเตอร์สได้ให้ความเห็นว่า "อัตราการเติบโตจะใกล้เคียงกับปีนี้ จะไม่เติบโตมากนัก และช่วงนี้การที่บริษัทแม่ของบีเอ็มและเบนซ์เข้ามาดำเนินธุรกิจเอง จะทำให้การแข่งขันสนุกยิ่งขึ้น แต่จะเป็นผลดีต่อลูกค้าที่จะทำให้มีทางเลือกมากขึ้น และต่อไปนี้แทบทุกบริษัทจะเน้นไปที่การรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่น้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่ ที่มีกิจกรรมเยอะและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าถึง 5 เท่า ซึ่งเราต้องเหนื่อยมากขึ้นอย่างแน่นอน"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.