นอกเหนือจากการย้ายศูนย์วิศวกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของภูมิภาคเอเชียมาไว้ในประเทศไทย และเตรียมเปิดโรงงานแห่งใหม่ในเดือนตุลาคมปีนี้
ความเคลื่อนไหวของ P&G ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือ การเปลี่ยนตัวกรรมการผู้จัดการ
P&G ประเทศไทย
ตั้งแต่ปี 2540 P&G ประเทศไทย อยู่ภายใต้การดูแลของ ระวิ ชาตูเวอดี
โดยก่อนหน้านั้น เขารับผิดชอบผลิตภัณฑ์กลุ่มชำระล้างร่างกาย และกลุ่มซักล้างเป็นหลัก
ก่อน ที่จะย้ายมาประจำประเทศไทยในปี 2538 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
และกรรมการผู้จัดการในที่สุด
การแข่งขันในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในไทย ทำให้ระวิ ชาตูเวอดี เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และเข้าใจสภาพตลาดนี้ไม่น้อย
เพราะหลังพ้นวาระในประเทศไทยแล้ว เขาได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ เพื่อเส้นผมของ
P&G ในอเมริกาเหนือ ซึ่งนอกจากจะมีพื้นที่รับผิดชอบกว้างขวางแล้ว ยังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงแห่งหนึ่งด้วย
สำหรับ เจฟฟรี่ย์ เจ. ฮันส์เบอรี่ กรรมการผู้จัดการคนใหม่ ก็เป็นผู้ที่คุ้นเคยตลาดในประเทศไทยไม่น้อย
เขาเกิดเมื่อปี 2507 สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ และ MBA สาขาการตลาด และการเงิน
จากมหาวิทยาลัยพิตสเบิร์ก
เริ่มทำงานกับ P&G ในปี 2529 โดยได้ผ่านการทำงาน ที่หลากหลาย ทั้งในนิวยอร์ก,
ซีแอตเติล, เดนเวอร์ และออสติน ในปี 2538 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ในเมืองซินซินเนติ
รัฐโอไฮโอ รับผิดชอบการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราซันนี่ ดีไลท์ และพันซ์ ในสหรัฐฯ
ทั้งหมด รวมทั้งดูแลการพัฒนากลยุทธ์กลุ่มผลิตภัณฑ์ และงบสนับสนุนการตลาด และยังมีบทบาทในการนำ
ECR (Efficient Consumer Response) มาใช้กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วย
เดือนกุมภาพันธ์ 2541 เขาได้รับแต่งตั้งเป็น Customer Marketing Manager
ของ P&G ประเทศไทย รับผิดชอบการสร้างสรรค์แผนธุรกิจครบวงจรสำหรับลูกค้า
ก่อนขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการ เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงหัวขบวนของ P&G ประเทศไทยครั้งนี้ จะติดตามมาด้วยแผนธุรกิจหรือกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ
ที่ขยายตัวจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุดกลุ่มหนึ่ง
ไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ หรือไม่ เป็นสิ่งที่น่าสนใจติดตามอย่างยิ่ง