ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกฯนิวยอร์กคนใหม่

โดย รุ่งมณี เมฆโสภณ
นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2544)



กลับสู่หน้าหลัก

เศรษฐีมาเป็นนักการเมืองอีกคนหนึ่งแล้ว

ดิฉันหมายถึงนายกเทศมนตรีนคร นิวยอร์กคนใหม่ ไมเคิล อาร์. บลูมเบิร์ก (Michael R. Bloomberg) หรือที่คนอเมริกันโดยทั่วไปนิยมเรียกชื่อแรกของเขาสั้นๆ ว่า "ไมก์"

การใช้คำว่า "เศรษฐี" กับบลูม เบิร์ก อาจจะผิดไปเสียด้วยซ้ำ ที่ถูกต้องควรจะเรียกเขาว่า "อภิมหาเศรษฐี" เนื่อง เพราะเขามีทรัพย์สินเงินทองมูลค่า ไม่ ต่ำกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1 แสน 7 หมื่นล้านบาท

และชัยชนะที่เขาได้มาครั้งนี้ นัก วิเคราะห์ทุกสำนักระบุตรงกันว่า เงินคือตัวชี้ขาดที่สำคัญที่สุด

รายงานข่าวระบุว่าบลูมเบิร์กใช้งบประมาณในการรณรงค์หาเสียงครั้งนี้สูงถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 2,220 ล้านบาท

เงินจำนวนเท่านี้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของบลูมเบิร์กร่วง!

นอกเหนือจากทุนอันล่ำซำของบลูมเบิร์กแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้บลูมเบิร์กได้รับชัยชนะก็คือ การได้รับเสียงสนับสนุนจากรูดอล์ฟ จูลีอานี (Rudolph Giuliani) นายกเทศมนตรี นครนิวยอร์กซึ่งกำลังจะหมดวาระ เพราะ เป็นที่ทราบกันดีว่าเวลานี้ จูลีอานีเป็น "ขวัญใจ" ของชาวนิวยอร์ก (อ่านเรื่องของ รูดอล์ฟ จูลีอานี ได้ใน "ผู้จัดการรายเดือน" ฉบับเดือนตุลาคม 2544)

ย้อนอดีตของบลูมเบิร์ก...

ไมเคิล บลูมเบิร์ก เกิดในวันวาเลนไทน์ ของปี 2485 ในครอบครัวชนชั้นกลาง โดยบลูมเบิร์กผู้พ่อเป็นพนักงานบัญชีของร้านขายนมและผลิตภัณฑ์นม

บลูมเบิร์กซึ่งโตมาในย่านนอกเมืองบอสตัน สนใจเรื่องราวของข่าวสารและเทค โนโลยีมาตั้งแต่ยังเยาว์ เขาจบปริญญาตรีจาก Johns Hopkins University โดยระหว่างนั้น นอกจากจะต้องกู้เงินเรียนแล้ว เขายังทำงาน รับจ้างจอดรถอีกด้วย หลังจากนั้น เขาก็ไปเรียนต่อด้าน MBA ที่ Harvard University

ปี 2509 เขาเข้าเป็นพนักงานของ Salomon Brothers

ในเวลาเพียง 6 ปี บลูมเบิร์กก็ได้เป็นหุ้นส่วนของ Salomon Brothers โดยดูเรื่องการค้าขายหุ้นและระบบข้อมูล แต่แล้ว เขาก็ถูกให้ออก หลังจากที่ Pilbro Corpo-ration ได้เข้าซื้อกิจการของ Salomon Bro-thers ในปี 2524

บลูมเบิร์กไม่ได้ออกจาก Salomon Brothers แบบตัวเปล่า เขาได้เงินติดตัวมาด้วย 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 444 ล้านบาท ซึ่งเงินก้อนนี้เองที่บลูมเบิร์ก ได้นำไปก่อตั้ง Bloomberg L.P. พร้อมกับนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล จากวันนั้นถึง วันนี้ Bloomberg L.P. มีสมาชิกทั่วโลก 160,000 ราย

สร้างอาณาจักรสื่อบลูมเบิร์ก...

ปี 2533 บลูมเบิร์กได้ก่อตั้ง Bloom- berg News ขึ้น เพื่อให้บริการข่าวสารด้าน การเงินเป็นด้านหลัก Bloomberg News เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีนักข่าวและบรรณาธิการข่าว 1,200 คน ประจำอยู่ตาม สำนักงาน 82 แห่งทั่วโลก

ต่อมา Bloomberg Radio ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2536

ถัดจากนั้นอีก 1 ปี Bloomberg Television ก็เปิดตัว และขยายตัวไปทั่วโลก ในเวลาอันรวดเร็ว ปัจจุบัน Bloomberg Television มีทั้งหมด 10 เครือข่าย และออกอากาศ 7 ภาษา

จากวิทยุ โทรทัศน์ ก็ถึงคราวของ Bloomberg.com ในปี 2538

นอกจากนั้น Bloomberg L.P. ยังพิมพ์หนังสือชุดอีก 2 ชุด และเป็นเจ้าของ นิตยสารอีก 5 เล่ม ซึ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย ไปที่นักลงทุน
ความสำเร็จของ Bloomberg L.P. ได้มาจากการทำงานหนักของบลูมเบิร์ก บ่อยครั้งที่ในช่วงบุกเบิกเขาทำงานถึง วันละ 14 ถึง 16 ชั่วโมง

อภิมหาเศรษฐีใจบุญผู้โลดโผนและหรูเลิศ...

ภาพของบลูมเบิร์กที่ปรากฏออกมาสู่สาธารณชน คือภาพของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวยเข้าขั้นอภิ-มหาเศรษฐีของโลก

เป็นเรื่องปกติที่มีข่าวว่าบลูมเบิร์ก ใช้เงินไปถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 90 ล้านบาท สำหรับจัดงานปาร์ตี้ของบริษัทที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และปกติอีกเช่นกัน กับข่าวที่ว่าบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นแฟนกีฬาม้าแข่งตัวยง ได้ขนเพื่อน สนิทมิตรสหายจำนวนมากขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปร่วมงาน Royal Ascot อันทรงเกียรติของอังกฤษ

เป็นเรื่องปกติสำหรับอภิมหาเศรษฐีอย่างบลูมเบิร์ก ที่จะมีบ้านพักมากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่แมนฮัตตัน ลอนดอน โคโลราโด หรือเบอร์มิวดา โดยเขา จะเดินทางไปมาด้วยเครื่องบินและเฮลิคอป เตอร์ ซึ่งบ่อยครั้งบลูมเบิร์กจะขับเครื่องบินเอง

แม้จะขึ้นชื่อว่าใช้เงินเป็นเบี้ยเพื่อความสำราญอย่างหรูเลิศอลังการ แต่บลูม เบิร์กก็ใช้เงินไม่น้อยไปกับการบริจาคเพื่อการกุศลในหลายรูปแบบด้วยกัน โดยเฉพาะบริจาคให้กับสถาบันการศึกษาที่เขาเคยร่ำเรียนมา ทั้งที่ Johns Hopkins University และ Harvard University

ปี 2540 บลูมเบิร์กได้มอบเงินรายได้จากการขาย "Bloomberg by Bloomberg" หนังสืออัตชีวประวัติของเขาให้กับ Commit-tee to Protect Journalists

ใครอยากรู้จักบลูมเบิร์กจากด้านของ เขา ควรอ่านหนังสือเล่มนี้

ระยะหลังเมื่อภาพความหรูหราฟุ้งเฟ้อ ของบลูมเบิร์กปรากฏต่อสาธารณชนบ่อยขึ้น ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองว่าชีวิตทั้งหมด ของเขาเป็นเช่นนั้น แต่ผู้ที่ใกล้ชิดกับบลูมเบิร์ก กลับมองต่างออกไป พวกเขาย้ำว่าบลูมเบิร์ก ยังคงเห็นงานสำคัญกว่าเรื่องเล่นหรูหราทั้งหลาย และที่สำคัญเขาไม่เคยลืมชีวิตในอดีต ที่ครอบครัวของเขาต้องใช้เงินแบบเดือนชนเดือน...

สำหรับคนใกล้ชิดแล้ว บลูมเบิร์กเป็น คนซีเรียส!

ส่วนเรื่องที่เขาลงสู่สนามการเมืองนั้น ในสายตาของคนทั่วไปแล้วอาจมองว่า ไม่เป็นเรื่องแปลก ที่บลูมเบิร์กซึ่งประสบความสำเร็จทางธุรกิจ จะหันไปข้องแวะกับงานสังคม งานการกุศล และตามด้วยงานการเมือง

แต่ก็มีคนส่วนหนึ่งกลับไม่ชอบใจที่บลูมเบิร์กลงเล่นการเมือง...

โดยเฉพาะไม่ชอบใจแนวความคิดของบลูมเบิร์ก ที่ใช้เงินรณรงค์หาเสียงทาง การเมืองในรูปแบบเดียวกันกับการบริจาค เงินเพื่อการกุศล!

กลุ่มคนที่ไม่ชอบบลูมเบิร์กนี้กลัวว่า การที่บลูมเบิร์กลงทุนเปลี่ยนพรรคจาก เดโมแครตมาเป็นรีพับลิกัน ในการลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อทำให้โลกดีขึ้น แต่เพื่อทำให้ตัวของเขาเองได้อยู่ในที่ที่ดีขึ้นต่างหาก!

เรื่องนี้คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่อง พิสูจน์

พ่อม่ายเนื้อหอมบลูมเบิร์ก...

ไมเคิล บลูมเบิร์ก ครองตัวเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมมาโดยตลอดหลังการหย่าร้าง เขามีลูกสาว 2 คน คนหนึ่งอายุ 22 ปี และอีกคนหนึ่งอายุ 18 ปี แม้บลูมเบิร์กจะชื่อเสียในเรื่องทัศนะเกี่ยวกับ ผู้หญิง แต่ชีวิตของเขาก็มีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ขาดสาย ผู้หญิงคนล่าสุดที่คบ กับบลูมเบิร์กอยู่เวลานี้คือ ไดอานา เทย์ เลอร์ (Diana Taylor) ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของ Long Island Power Authority

ชัยชนะของบลูมเบิร์กเป็นนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กครั้งนี้ เป็นธรรมดา ที่กลุ่มซึ่งสนับสนุนเขายินดีปรีดา ขณะที่ กลุ่มซึ่งไม่เห็นดีเห็นงามกับการลงสนามการเมืองของบลูมเบิร์กกลับมองว่า ชัย ชนะของเขาอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด 2 ประการด้วยกัน ประการแรกคือ ผู้ที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจย่อมประสบ ความสำเร็จทางการเมือง และประการที่สองคือ คนที่มีเงินมากย่อมดีกว่าคนที่ไม่มี

เขียนมาถึงตรงนี้ ดิฉันรู้สึกว่านิวยอร์กกับกรุงเทพฯมีบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน หรือถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง...

รู้สึกเหมือนดิฉันกันไหมคะ!



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.