แม้จะเลิกล้มไม่ขายแฟรนไชส์ ร้านขนมไข่อย่างที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่แรก
แต่ปฏิญญาก็เดินหน้าต่อ เปิดร้านขายขนมไข่สาขา 2 ที่สุขุมวิท 39 แทน บอกแล้วงานนี้
เธอไม่ทำเพียงแค่เล่นๆ
เมื่อคราว ที่ "คุณต๊อบ"หรือปฏิญญาลูกสาวคนเล็กของ ปัญญา แห่งกลุ่ม
"ปัญญากรุ๊ป" ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนา ที่ดินเจ้า และของสนามกอล์ฟยักษ์ใหญ่
มาเปิดร้านขายขนมไข่ egg-tarts ที่สยามสแควร์ซอย 3 นั้น ใครๆ ก็มองว่าอาจเป็นเพียงของเล่นคนรวยคงไม่ได้ทำจริงจังอะไรมากมายนัก
แต่ทุกวันนี้ปฏิญญายังใช้เวลาส่วนใหญ่บุกเบิกร้านขายขนมนี้อย่างจริงจัง
จนแทบไม่ได้เข้าออฟฟิศ เพื่อสะสางงานของปัญญากรุ๊ป "งานบริษัทตอนนี้ให้คนหอบไปเซ็น ที่บ้าน
กลางวันอยู่ร้านขนมตลอด" เธอกล่าวกับ "ผู้จัดการ" แล้วย้ำว่าเธอทำอะไรเล่นๆ
ไม่เป็นอยู่แล้ว ถ้าทำก็ต้องลงทำให้สุดๆ ไปเลย ถึงแม้ว่าเป้าหมาย ที่วางไว้ว่าหากจะคืนทุนได้เร็ว
ต้องขายแฟรนไชส์ไปด้วยนั้น ต้องเปลี่ยนไปด้วยเหตุผลสำคัญ ที่ว่า
"กลัวที่สุดว่าขายแฟรนไชส์ไปแล้วจะไม่คุ้มกับเสียชื่อ เพราะกลัวเขาทำไม่อร่อย
หรือควบคุมคุณภาพได้ไม่ดีเท่าเรา" ปฏิญญากล่าวด้วยน้ำเสียง ที่แสดงถึงความหนักใจ
เธอตั้งใจไว้ในตอนแรกว่าจะขายแฟรนไชส์ละ 8 แสน บาท และมีระบบการแบ่งจ่ายประมาณ
3 งวด งวดสุดท้ายผู้ที่ซื้อไปจะต้องทำขนมได้เป็น และรสชาติต้องอร่อยเหมือนต้นตำรับโดยไม่ผิดเพี้ยน
เพราะโดยวิธีนี้นอกจากจะทำให้เธอสามารถคืนทุนได้เร็วแล้ว ยังเห็นกำไรเป็นกอบเป็นกำขึ้นแทน ที่จะมีรายได้จากการขายขนมชิ้นละ
30 บาทอย่างเดียว ซึ่งคงใช้เวลานานเป็นแน่กว่า ที่จะคืนทุนเพราะเธอใช้เงินลงทุนในการซื้อสูตรขนม
ตกแต่งร้าน และซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ในการทำขนมไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อตัดสินใจใหม่ว่าจะไม่ขายแฟรนไชส์ และยอดขายขนมไข่ยังเป็นไปด้วยดี
เธอจึงเริ่มสอดส่ายสายตายอมลงทุนเปิดสาขาใหม่เอง ที่ซอยสุขุมวิท 39 ทำเลทองของคนมีเงินทันทีโดย
"ร้านขนมสาขา 2" จะเปิดใหม่ในเดือนมกราคม 2543 นี้แน่นอน
ส่วนสาขาแรกก็อาศัยช่วงเวลาของเทศกาลปีใหม่ ที่ผ่านมาโฆษณาสินค้าตัวเองสุดฤทธิ์
โดยมีโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ แถมให้เป็นพิเศษ เพื่อให้เป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ที่มาของธุรกิจร้านขายขนมไข่นั้น ปฏิญญาเคยให้สัมภาษณ์กับ "ผู้จัดการ"
ว่าเป็นเพราะเธอชอบทานขนมไข่สูตรนี้ ซึ่งมี ที่มาจากเกาะฮ่องกงนี้มาก 2. เป็นการทำธุรกิจใหม่ในช่วง ที่ธุรกิจหลักคือ โครงการทางด้านพัฒนา ที่ดินซบเซาตามประสาคนที่อยู่เฉยๆ
ไม่เป็น
เมื่อตัดสินใจว่าจะทำร้านขายขนมเธอก็ได้ลงไปคลุกคลีกับมันอย่างจริงจังเริ่มจากการเดินทางไปศึกษาวิธีการทำขนม
และเทคนิคต่างๆ ที่ฮ่องกงใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้น ก็ลงทุนจ้างพ่อครัวจาก ที่โน่นกลับมาสอนต่อ ที่เมืองไทยอีกหลายครั้ง
จนสามารถทำได้เป็น และรสชาติเหมือนต้นตำรับ ซึ่งได้เพิ่มความมั่นใจในการเปิดร้านขายเองยิ่งขึ้น
ปฏิญญาเลือกเอาสยามสแควร์ซอย 3 เป็นที่เปิดร้านขายขนมไข่ชิ้นละ 30 บาทเพราะเป็นย่าน ที่มีวัยรุ่น
และคนที่มีกำลังซื้อพลุกพล่านทั้งวัน รวมทั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่การคมนาคมสะดวกสบาย
โดยเฉพาะมีสถานีของรถไฟฟ้าอยู่ในบริเวณใกล้ๆ ด้วย ซึ่งเธอให้ความสำคัญกับเรื่องทำเลนี้อย่างมากเรียกว่าในตอนนั้น หากไม่ได้ร้านค้าย่านสยามก็อาจจะไม่เปิดร้านเลยทีเดียว
ในระยะช่วงแรกๆ ของการเปิดร้าน ยอดจำหน่ายของขนมไข่ ซึ่งได้แรงโปรโมตจากสื่อมวลชนหลายฉบับสูงจากเป้า ที่วางไว้คือ จาก ที่คาดการณ์ไว้ว่าวันหนึ่งๆ
น่าจะขายได้อย่างน้อยประมาณ 500 ชิ้นปรากฏว่ามันเพิ่มขึ้นสูงถึงเท่าตัว ยอดสั่งจองยาวเหยียด และเป็นอย่างนั้น ติดต่อกันหลายเดือน
และนั่นคือ ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เธอกล้าตัดสินใจ ที่จะขยายร้านสาขา ที่ 2 และหากสามารถทำตลาดได้ดีอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ก่อน ที่ธุรกิจ ที่ดินธุรกิจหลักของปัญญากรุ๊ปจะฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งปฏิญญาอาจจะสนุกกับอาชีพใหม่
จนไม่อยากกลับไปเสี่ยงกับธุรกิจเดิมอีกแล้วก็เป็นได้