โครงการศิลปสัญจร เป็นกระบวนการปลูกฝังเด็กๆ ให้รักงานศิลปะ ที่ "ครูเป้"
อรรณพ สีสัจจา ทำต่อเนื่องมานานกว่า 10 ปี ก่อนที่จะมาเปิด 1109 สตูดิโอ
โรงเรียนสอนวาดสีน้ำให้กับผู้คนต่างวัยหลากหลายอาชีพที่ต้องการมีความสุขอย่างง่ายๆ
แต่ละครั้ง ครูเป้จะหอบเอาอุปกรณ์วาดรูปใส่ท้ายรถแล้วขับไปตามต่างจังหวัด
เลยลึกเข้าไปในชนบทต่างๆ โดยมีพี่เลี้ยงอาสาสมัครอีกกลุ่มหนึ่งจากกรุงเทพฯ
ตามไปช่วยงาน ค่ำลงก็ไปพักกันตามโรงเรียน หรือบ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เขาสอนให้เด็กๆ
วาดรูปพร้อมๆ กับสอนให้เด็กรักธรรมชาติในบ้านเกิดของตนเอง
โครงการนี้มีต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี ก่อนที่จะทิ้งช่วงขาดหายไปบ้างเพราะไม่มีผู้สนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ
ที่ต้องใช้ในการเรียนการสอน
อรรณพ สีสัจจา เป็นเด็กหนุ่มจากอำเภอบ้านบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เข้ากรุงมาเพื่อเรียนศิลปะอย่างที่ใฝ่ฝัน
เขาได้สร้างผลงานทั้งทางด้านงานศิลปะ ดนตรี และบทกวี ไว้หลายชิ้น งานชุด
"เสม็ด" เป็นผลงานชิ้นแรกที่เริ่มสร้างชื่อเสียงให้เขา พร้อมๆ กับงานเขียนที่ชื่อ
"บันทึกคนลืมตัว" และหลังจากนั้น งานชุด "กลับบ้าน", "กล้วยและใบตอง" ชุด
"ป่าต้นน้ำ" และชุดอื่นๆ ก็ทยอยตามมา
ด้วยความที่มีใจรักในเรื่องงานสอนเขาก็ได้เปิด 1109 สตูดิโอ ขึ้นบนชั้น
11 ห้อง 1109 อาคารสหกรณ์เคหะสถานสามเสน เมื่อประมาณ 8 ปีก่อน โดยบอกทุกคนว่า
ที่นี่เป็นการสอนวาดรูปด้วยวิธีธรรมชาติซึ่งเป็นหลักสูตรที่เขาคิดค้นขึ้นมา
เพื่อสอนให้กับผู้ที่ไม่เคยเรียนวาดภาพมาก่อนเลย
"ผมเป็นเด็กอกหักจากการสอบเข้าคณะจิตรกรรมที่เพาะช่าง ผมเลยวาดรูปทุกอย่างจากการเรียนรู้ของ
ตัวเอง ซึ่งทำให้ผมมองผ่านหลักการอะไรบางอย่าง ซึ่งใช่บ้างไม่ใช่บ้าง มีผลกับคนหัดบ้างไม่มีบ้าง
แล้วก็เอามาจัดเรียงอันดับใหม่เชื่อว่า คนที่อยากเรียนวาดรูปจะต้องรู้ในเรื่องที่ผมจัดวางไว้ก่อน
เป็นทฤษฎีที่ผมคิดกันขึ้นมา"
ในหลักสูตรธรรมดานักเรียนใช้เวลาเรียนประมาณ 6 ครั้ง และหลักสูตรพิเศษใช้เวลา
4 ครั้ง แต่ละหลักสูตรกำหนดโปรแกรมเรียนไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว เช่น เดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม
ปี 2544 นี้ จะมีกิจกรรมพิเศษ ล่องเรือวาดภาพ ล่องเรือดูนกในลำน้ำ แม่กลอง
ในโปรแกรมปกติเรียนกันทั้งในสตูดิโอ และออกนอกสถานที่ เช่น ไปเรียนวาดรูปกันที่สวนลุมพินี
ไปวาดรูปที่อยุธยา ราชบุรี เป็นต้น และยังมีแคมป์สีน้ำประจำภาค ตอนนอนเกาะ
ที่เกาะช้าง จังหวัดตราด อีกด้วย
ปัจจุบัน ลูกศิษย์ของเขาจะมีอายุตั้งแต่ 18 ปี - 50 ปี มีทั้งอาชีพนักบิน
ทันตแพทย์ นักบัญชี ศัลยแพทย์ มัณฑนากร นักแปล นักเขียน
และวันนี้ ครูเป้กำลังมีโครงการใหม่ คือ "เรือศิลปะสัญจร" เขาเล่าให้
"ผู้จัดการ" ฟังว่า
"ผมเป็นคนรักแม่น้ำ แล้วอยากให้เด็กๆ ที่เกิดมากับชุมชนริมน้ำ รักแม่น้ำอย่างที่ผมรัก
นี่คือปรัชญาของโครงการเลยล่ะ แต่ผมไม่ได้มาในนามของ นักอนุรักษ์ ผมเป็นศิลปิน
หรือครูสอนศิลปะ ที่ใช้ศิลปะมาเป็นสื่อช่วยให้เด็กพวกนี้ได้ใกล้ชิดกับแม่น้ำมากขึ้น"
ชุมชนที่อยู่ชายน้ำในช่วงเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่ปทุมธานี อยุธยา สิงห์บุรี
คือ กลุ่มพื้นที่เป้าหมาย ในปีแรกครูเป้วางแผนที่จะลงเรือสัญจรไปจาก กรุงเทพฯ
เก็บข้อมูลริมน้ำไปตลอด กำหนดขึ้นฝั่งที่จังหวัดไหนก็จะบอกกับเด็กๆ ว่า ชุมชนของเขามีอะไรที่สวยงามบ้าง
โดยจะถ่ายภาพนิ่ง สไลด์ และภาพวาดเก็บไว้ พร้อมๆ กับเสริมข้อมูลทางวัฒนธรรมในชุมชนเด่นๆ
ที่น่าสนใจ ต่อจากนั้นก็ไปจัดบอร์ดนิทรรศการตามโรงเรียน และจัดให้เด็กไปเข้าค่ายกัน
2 วัน 1 คืน ด้วยการลงเรือสัญจรไปตามแม่น้ำ ในระหว่างนั้นก็จะมีการสอนให้
เด็กๆ รู้จักชื่อปลา ชื่อสัตว์น้ำ และวาดภาพสัตว์ต่างๆ ในลำน้ำที่พบเห็นด้วย
"ผมจะบันทึกเป็นสารคดีเก็บไว้ แล้วตัดต่อเป็นวิดีโอที่จะมีโอกาสได้ใช้
ได้เผยแพร่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี แบ่งเป็นหลักๆ 2 เรื่อง คือ เรื่องนิทรรศการและค่ายศิลปะ
อย่างแรกเราก็จะมีการแสดงภาพ เรื่องวิถีชีวิตชุมชน บอร์ดนิทรรศการ เสริมเข้าไป
ค่ายศิลปะก็จะให้เด็กๆ พวกนี้วาดรูปเป็น มีพื้นฐานในเรื่องของจิตรกรรม ภาพพิมพ์
และ ผมก็จะสอนภาษาไทย เขียนเรียงความ เขียนนิทาน อาจจะมีนิทานบางเรื่องที่คนทั่วไปอาจจะไม่ได้ยินมาก่อนแต่ซ่อนอยู่ในชุมชนนั้นๆ
ก็จะทำไปเรื่อยๆ และจะเอาทุกอย่างที่ทำไว้มาจัดแสดงในกรุงเทพฯ เป็นงานใหญ่
ให้คนที่รัก ธรรมชาติได้ชื่นใจได้รู้ว่า มันมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นนะ
คุณอาจจะเคยฝัน เคยคิดเห็นด้วยกับเรา แต่นี่ผมไปทำมาแล้วนะ"
แต่วันนี้เรือศิลปะลำนี้ยังไม่ได้สัญจร แม้ว่าแผนงานต่างๆ ได้กำหนดไว้เรียบร้อย
แล้ว เพราะยังขาดเรื่องของงบประมาณ ซึ่งตอนนี้ครูเป้กำลังพยายามหาหน่วยงานมา
สนับสนุน และคิดหาเงินโดยวิธีต่างๆ
แม้มีงานต้องทำอีกมากมาย แต่อรรณพ สีสัจจา ก็ยังสนุกในการคิดค้นงานใหม่ๆ
วันที่ "ผู้จัดการ" ไปสัมภาษณ์ เขาเล่าว่ากำลังเขียนแบบร้านกาแฟค้างอยู่
เป็นร้านที่มั่นใจว่าทุกคนจะต้องมีความสุขหากได้แวะเวียนเข้ามาเพราะมีหนังสือดีๆ
และมีผลงาน ศิลปะไว้ขายด้วย โดยจะเปิดร้านนี้ในย่านรามอินทรา ใกล้ห้างเซ็นทรัลประมาณเดือน
สิงหาคมนี้
และในช่วงหน้าหนาวราวๆ เดือนธันวาคมของทุกปี ครูเป้จะทิ้งงานทั้งหมดไว้ชั่วคราว
เพื่อเดินทางไปใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขาและแม่น้ำทางเหนือ เป็นเวลา
1 เดือน เพื่อสร้างผลงานชุด "ป่าและแม่น้ำ" ที่ยังค้างคา
การได้ไปล่องเรือวาดภาพท่ามกลางสายน้ำและขุนเขา คือ วิธีการเติมพลังให้กับชีวิต
เพื่อมาสานต่อหลากหลายภารกิจในเมืองกรุงที่เขาฝันไว้ให้ลุล่วง