The Leadership Pipeline


นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2544)



กลับสู่หน้าหลัก

The Leadership Pipeline เป็นหนังสือว่าด้วยกรอบการวาง แผนเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจดึงเอาความสามารถของผู้บริหารทุกระดับออกมาสร้างความสำเร็จให้บริษัท ทั้งนี้มีเนื้อหาที่ว่าด้วยภาวะผู้นำ 6 เรื่องด้วยกัน เหมาะสำหรับผู้บริหารตั้งแต่ระดับที่มีลูกน้องเพียงลำดับชั้นเดียวไปจนถึงผู้บริหารที่มีความรับผิดชอบในระดับสูง ผู้เขียนได้เสนอให้ผู้บริหารทุกระดับชั้นพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อใช้ในการบริหารงานในหน้าที่รับผิดชอบของตน จัดสรรเวลาให้สอดคล้องกับหน้าที่รับผิดชอบและนำเอาค่านิยมใหม่ๆ เกี่ยวกับการทำงานมาปรับใช้เพื่อหาทิศทางใหม่ต่อไป

แนวทางการเป็นผู้นำ

แนวทางในการเป็นผู้นำที่ผู้เขียนเสนอไว้ทั้ง 6 เรื่องมีดังนี้

1. จากการบริหารตนเองสู่การบริหารผู้อื่น เป็นเรื่องที่
พนักงานต้องเรียนรู้ไม่เพียงแค่การรับผิดชอบต่องานในหน้าที่ แต่จะต้องรู้ถึงการวางแผนเกี่ยวกับงาน การทำงาน การมอบหมายงาน และสร้างแรงจูงใจ ฝึกฝนและประเมินผลงานของผู้อื่นได้

2. จากการบริหารผู้อื่นสู่การบริหารแบบผู้จัดการ เป็นเรื่องที่ผู้บริหารระดับผู้จัดการต้องเลือกพนักงานจากหัวข้อ 1 กล่าวคือ มองหาผู้นำรุ่นใหม่ที่จะก้าวเดินตามมา

3. จากการบริหารแบบผู้จัดการสู่การเป็นผู้จัดการสายงาน ในบทนี้มีประเด็นที่ท้าทายผู้บริหารมากขึ้น ข้อแรก ผู้จัดการต้องเรียนรู้ที่จะสื่อสารด้วยวิธีการใหม่ๆ กับพนักงานเป็นรายบุคคล
เนื่องจากผู้จัดการสายงานมักมีลำดับชั้นการบังคับบัญชาที่ห่างจากพนักงานส่วนหน้า ผู้จัดการในระดับนี้จึงต้องเผชิญหน้ากับการบริหารพนักงานที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดในการทำงานร่วมกันโดยตรง อีกทั้งยังต้องให้ความร่วมมือและอาจต้องแข่งขันเพื่อชิงงบประมาณกับผู้จัดการในสายงานอื่นด้วย การมีมุมมองระยะยาวเป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จในระดับนี้ ดังนั้น ผู้จัดการระดับนี้ต้องมีความสามารถด้านทักษะการสื่อสารและทักษะในเชิงกลยุทธ์

4. จากผู้จัดการสายงานสู่ผู้จัดการธุรกิจ ความยากในขั้นนี้ก็คือ ในขณะที่ผู้จัดการสายงานเรียนรู้ที่จะร่วมมือกับสายงานอื่น ผู้จัดการธุรกิจต้องเรียนรู้ที่จะผนวกประสานสายงานเหล่านี้เข้าด้วยกัน จึงต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนมุมมองจากการมองแบบสายงาน (เช่น เราจะทำงานได้สำเร็จลุล่วงหรือไม่?) ไปสู่มุมมองในเรื่องกำไร (เราจำเป็นต้องทำงานนี้หรือเปล่า? มันทำให้บริษัทมีกำไรหรือเปล่า?)

5. จากผู้จัดการธุรกิจสู่ผู้จัดการกลุ่ม การเปลี่ยนผ่านในขั้นนี้อยู่ที่การเปลี่ยนจากความรับผิดชอบต่อธุรกิจเดียวไปสู่ธุรกิจหลายอย่างมากขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก็คือ การจัดสรรเงินลงทุนไปจนถึงการวางยุทธศาสตร์องค์กร อีกทั้งยังต้องสร้างผู้จัดการธุรกิจรุ่นใหม่ขึ้นมา และมุ่งเน้นที่ยุทธศาสตร์ของธุรกิจโดยรวม กล่าวคือต้องรู้จักกำหนดส่วนผสมของการประกอบธุรกิจให้ลงตัวและทำให้ประสบผลสำเร็จ ในขั้นนี้ ผู้บริหารจึงมีลักษณะการทำงานที่เป็นองค์รวม โดย ต้องเข้าใจถึงความสลับซับซ้อนของการบริหารธุรกิจหลากหลาย รู้จักคิดในแง่ของชุมชน อุตสาหกรรม รัฐบาล และกิจกรรมพิธีการต่างๆ

6. จากผู้จัดการกลุ่มสู่ผู้จัดการกิจการ ผู้บริหารระดับนี้ก็คือประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือ CEO ที่ต้องมีวิสัยทัศน์ยาวไกลเกี่ยวกับองค์กร ขณะเดียวกันต้องรู้จักสร้างกลไกที่จะสานผลประกอบการรายไตรมาสให้เข้ากับยุทธศาสตร์ระยะยาวขององค์กรด้วย

แนวทางของบริษัทเล็ก

กรอบแนวคิดทั้ง 6 ข้อข้างต้นเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ แต่สามารถประยุกต์ให้เข้ากับองค์กรธุรกิจทุกขนาด เช่น ธุรกิจขนาดเล็กอาจตัดขั้นตอนผู้จัดการกลุ่มออกไปแล้วรวมเอาหน้าที่ของผู้บริหารกิจการเข้าไว้กับผู้จัดการธุรกิจ ขั้นตอนก็จะเหลือเพียงจากผู้จัดการตนเอง ผู้จัดการผู้อื่น ผู้จัดการสายงาน และผู้จัดการธุรกิจ

นอกจากนั้นในหนังสือยังมีแบบทดสอบทักษะที่จำเป็นของ
ผู้บริหารแต่ละระดับที่จะช่วยในการพัฒนาภาวะผู้นำด้วย และยังช่วยให้บริษัทไม่พลาดที่จะสร้างมือบริหารรุ่นใหม่ขึ้นมาจากระดับล่าง และจุดนี้บริษัทหลายแห่งมักละเลยไปเนื่องจากมัวสนใจอยู่แต่เรื่องการหาผู้บริหารระดับสูง



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.