หลังจากคลื่นเศรษฐกิจลูกใหญ่ ได้ซัดกวาดเอาบรรดาอุตสาห-กรรมน้อยใหญ่ล้มหายตายจากไปจำนวนมาก
"โรงแรม" เป็นอีกอุตสาห-กรรมหนึ่งที่หนีไม่พ้นคลื่นลูกนี้ แม้ว่าในปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันกับธุรกิจโรงแรมจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้วก็ตามเพราะ
โรงแรมก็เป็นส่วนหนึ่งของอสังหาริม ทรัพย์ที่มีสภาพล้นตลาด ในยามที่เศรษฐกิจบูมนักลงทุนก็แห่แหนกันสร้างโรงแรมขึ้นมา
โดยไม่มีการสำรวจความต้องการของตลาดให้ชัดเจนก่อน ดังที่มร.จิออร์จิโอ บูริกานา
ผู้คร่ำหวอดในวงการโรงแรมทั้งในตลาดยุโรป อเมริกา เอเชียและออสเตรเลียมานานนับ
30 ปี ได้กล่าวถึงพัฒนาการของธุรกิจโรงแรมในประเทศว่า เขาเริ่มเข้ามาทำงานในประเทศ
ไทยเมื่อปี 1988 ซึ่งเป็นปีที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยบูมมาก
อัตราการจองห้องพักสูงถึง 95% ซึ่งสูงมากชนิดที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
และจากนั้นก็มีโรงแรมผุดขึ้นเยอะมาก มากจนเกินกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา
แม้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นทุกปีก็ตาม แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
และตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมาธุรกิจโรงแรมก็เริ่มประสบปัญหาแล้ว
และวันนี้ โรงแรมทั้งหลายต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกันหมดคือ ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นทุกวันสวน
ทางกับรายรับที่จะได้มาในแต่ละเดือน โดยเฉพาะโรงแรมใหญ่ระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
เมืองฟ้าอมรแห่งนี้ และสิ่งที่โรงแรมเหล่านี้พยายามทำอยู่ก็คือ การควบคุมค่าใช้จ่ายให้ต่ำมากที่สุด
โดยไม่กระทบต่อคุณภาพระดับ 5 ดาว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ "ยากมาก" ฉะนั้นวันนี้
หาก เราจะเห็นโรงแรมระดับหรูกลางเมืองกรุงกลายเป็นดาวร่วงก็ไม่ต้องแปลกใจ
"สำหรับแนวโน้มในอนาคต ทุกคนก็หวังว่าเศรษฐกิจ จะดีขึ้น แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรในการสร้างตลาดท่องเที่ยวให้บูมขึ้นอีกครั้ง
และผมคิดว่าในระหว่างนี้อาจจะต้องมีบางโรงแรมที่ต้องปิดตัวลง โดยเฉพาะโรงแรมระดับ
5 ดาวขึ้นไป เนื่องจากไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายและผลขาดทุนได้ไหว"
จิออร์จิโอ กล่าว
จิออร์จิโอ มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับ ไอทีที เชอราตัน และไฮแอท อินเตอร์เนชั่นแนล
ซึ่งเป็นเชนโรงแรม หรูระดับสากลมาร่วม 15 ปี และเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาเข้ามา
ในเมืองไทย โดยร่วมงานกับโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก
จากนั้นเขาก็ได้รับการโปรโมตให้ไปประจำที่บังกลาเทศ และก็กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง
จิออร์จิโอเป็นชาวต่างชาติอีกคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานในไทยในยุคที่เศรษฐกิจบูม
และเขาก็ยังคงอยู่จนกระทั่งเห็นเศรษฐกิจล่มสลาย เมื่อ 3 ปีที่แล้วเขาตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับบริษัทในเครือของโซเนวา
พาวิลเลี่ยน โฮลดิ้ง เจ้าของโซเนวา ฟูชิ รีสอร์ท ที่มัลดีฟส์ คือ "โซเนวา
พาวิลเลี่ยน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท (ประเทศไทย)" ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านคำปรึกษา
พัฒนาและบริหารงานโรงแรม, รีสอร์ท และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ด้วยเหตุผลที่ว่า
"รู้สึกถูกใจกับแนวคิด ปรัชญาการทำงานของที่นี่"
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งนี้เพื่อเป็นโอกาสที่ดีให้เรา
อันประกอบด้วยผู้บริหารที่มีความรู้และประสบการณ์ในสาขาต่างๆ ได้เป็นผู้ให้คำแนะนำแก่เจ้าของโครงการ
และร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาโครงการนั้นๆ ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี" อันเป็นแนวปรัชญาการทำงานที่จิออร์จิโอไม่เคยได้สัมผัสเมื่อครั้งที่ทำงานร่วมกับเชนโรงแรมหรูระดับสากล
ซึ่งจากประสบการณ์ของเขาพบว่า โรงแรมระดับใหญ่เหล่านั้นมักจะมีแนวทางการทำงานที่เป็นระบบมาตรฐาน
สาขาต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม มาตรฐานให้ถูกต้อง ในขณะที่ โซเนวาฯ จะเข้าไปร่วมคิดกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรกเริ่ม
และเสร็จสิ้นโครงการ ดังนั้นเมื่อลูกค้ามีปัญหาตรงไหน ทางบริษัทฯก็สามารถเข้าไปช่วยหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที
และจากแนวทางการทำงานนี้เองที่ทำให้เขาประทับใจ
เขาเริ่มต้นการทำงานกับกลุ่มโซเนวาฯ ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปคนแรกของโรงแรมเดมา
พาวิลเลี่ยน กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวในช่วงระยะก่อนเปิดจนถึงเริ่มแรกเปิดดำเนินการ
จากนั้นก็ได้โปรโมตให้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการโซเนวาฯ (ประเทศไทย)
สำหรับรูปแบบการให้บริการของโซเนวาฯ จิออร์จิโอ เล่าว่า มีทั้งหมด 5 บริการด้วยกัน
เริ่มตั้งแต่การบริการโครงการในระยะแรกเริ่ม โดยทีมงานของบริษัทฯ จะทำการ
ศึกษาและสำรวจขั้นพื้นฐาน รวมถึงการประเมินแหล่งที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้าง
ศักยภาพของการตลาด แนวทางการพัฒนา ตลอดจนการคำนวณความเป็นไปได้ทางด้านการเงิน
รวมทั้งการวางแนวคิดของการออกแบบโครงสร้างทางสถาปัตย กรรมและออกแบบตกแต่งภายในด้วย
ซึ่งบริการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะเริ่มทำโครงการใหม่
ส่วนผู้ที่เริ่มโครงการไปแล้ว แต่ต้องการมืออาชีพมาให้คำปรึกษาด้านเทคนิค
ทางบริษัทฯ ก็มีบริการระหว่างการพัฒนาโครงการ โดยจะเข้าไปตรวจสอบพิจารณาและให้คำแนะนำด้านการออกแบบ
รูปห้องพักแขก พื้นที่สาธารณ ประโยชน์ พื้นที่ที่ให้บริการ สถานที่อำนวยความสะดวก
สถานที่สำหรับสันทนาการ การจัดสวน เครื่องแบบพนักงาน แผ่นป้ายและเครื่องหมาย
ตลอดจนงานด้านกราฟฟิก และงานพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบพิเศษต่างๆ
ที่จำเป็น เช่น ระบบไฟฟ้า โทรศัพท์ เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดที่ผู้ลงทุนวางไว้
การบริการก่อนเปิดให้บริการ เป็นการจัดเตรียมงบประมาณ ประมาณการงบการเงิน
รวมทั้งการวางแผนบริหาร ระบบการเงินและบุคลากร วางนโยบายด้านการปฏิบัติงาน
การตลาด การประชาสัมพันธ์ ตลอดจนเข้าตรวจพื้นที่และรายงานความก้าวหน้าในแต่ละขั้นตอน
ขณะเดียวกันความร่วมมือกับคณะผู้ออกแบบตกแต่งจะคงดำเนินอยู่เรื่อยตลอดระยะเวลาก่อนเปิดบริการ
การบริการหลังการเปิดบริการ เป็นการให้บริการด้านการกำหนดวัตถุประสงค์หลักตลอดทั้งปี
โดยกำหนดให้ผู้จัดการทั่วไปเป็นผู้ดูแลและดำเนินการปฏิบัติการตามขั้นตอน
ต่างๆ โดยจะครอบคลุมด้านบัญชี การบริหารทั่วไป การควบคุมต้นทุน การบำรุงรักษา
การขายและการตลาด
และการบริการด้านการบริหารโครงการ เป็นอีกบริการหนึ่งที่ครบวงจรสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการมืออาชีพเข้าไปบริหารโครงการด้วย
โดยงานจะเริ่มตั้งแต่ การวางแผน การติดตาม และการพัฒนาโครงการทั้งหมดตั้งแต่แรกเริ่มจนเสร็จสิ้น
ทั้งนี้รวมไปถึงการให้คำปรึกษา และแบ่งเบาภาระของเจ้าของโครงการนั้นๆ ด้วย
ลักษณะการให้บริการต่างๆ ข้างต้น หากโครงการไหนมีศักยภาพ มากๆ ทางบริษัทฯ
จะเข้าไปร่วมลงทุนด้วย โดยเฉลี่ยในสัดส่วนประมาณ 5-10% อาทิ และจะตั้งชื่อแบ่งตามประเภทของโครงการ
ซึ่งมีแบรนด์ตั้งแต่ระดับ 5 ดาวขึ้นไปจนลงถึงระดับ 3 ดาว โดยโรงแรมหรือรีสอร์ทระดับ
5 ดาวขึ้นไปจะใช้ชื่อว่า "โซเนวา" จะ เน้นแนวคิดในการออกแบบที่ผสม ผสานระหว่างความทันสมัยหรูหราผนวกเข้ากับธรรมชาติและวัฒนธรรม
ท้องถิ่นให้ลงตัวที่สุด อาทิ โซเนวา ฟูชิ รีสอร์ท ที่มัลดีฟส์
ส่วนโรงแรมหรือรีสอร์ทระดับ 4-5 ดาว จะใช้ชื่อเป็นกลุ่ม "อีเวชั่น"
เป็นการออกแบบแหวกแนวที่ไม่ซ้ำจำเจ มีลูกเล่นสนุกสนานให้กับลูกค้า ได้แก่ที่
อนา มันดารา รีสอร์ท เมือง นาตรัง ประเทศเวียดนาม และมี "พาวิลเลี่ยน"
เป็นแบรนด์ระดับ 4 ดาว ที่เน้นการให้บริการที่คุ้มค่าเงินของแขกผู้มาพัก
ขณะเดียวกันเจ้าของก็ไม่ต้องลงทุนมาก ในแง่ของการว่าจ้างพนักงาน อย่างเช่น
โรงแรมเดมา พาวิลเลี่ยน กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งจิออร์จิโอได้ชี้แจงว่า "โรงแรมนี้เราจ้างพนักงานจำนวนน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับโรงแรมระดับเดียวกัน
แต่เราจะมีการฝึกอบรมที่มีประสิทธิ ภาพเข้ามาช่วย"
และที่โรงแรมเดมา พาวิลเลี่ยนฯ นี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันระกว่างทางโซเนวาฯ
กับคณะบริหารจัดการการโรงแรม หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยได้รับมอบหมายให้เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคให้แก่
โครงการโรงแรมขนาด 17 ห้องพัก ที่เป็นการจำลองแบบโรงแรมระดับ 4 ดาวในกรุงเทพฯ
ให้เหมือนจริงที่สุด
"โครงการนี้เริ่มต้นจากการที่ทางคณะบริหารการโรงแรมได้ส่งนักศึกษามาดูงานที่โรงแรมเดมา
พาวิลเลี่ยนของเรา และผมได้พบกับดร.มาร์ค ซึ่งเป็นอาจารย์และผู้อำนวยการของคณะนี้
และได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะกัน และจากประสบการณ์ที่เรามี เขาก็เห็นว่าเราเหมาะสมที่จะเป็นที่ปรึกษาในโครงการนี้ของเขา"
จิออร์จิโอเล่า
คณะบริหารการโรงแรม หลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดทำการสอนมานานนับ
10 ปีแล้ว และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพิ่งได้รับอนุมัติงบประมาณในการสร้างอาคารเรียนใหม่
เป็นอาคารสูง 6 ชั้น ซึ่งทางคณะฯ ได้ทำเรื่องเสนอโครงการขอใช้พื้นที่ชั้น
6 ทั้งหมด สร้างและตกแต่งให้เป็นเสมือนหนึ่งโรงแรมระดับ 4 ดาวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง
สำหรับให้นักศึกษาใช้ในการฝึกปฏิบัติงานจริง โดยคาดว่าจะเปิดใช้งานได้เสร็จสมบูรณ์ในเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้
และหลังจากนั้นทางโซเนวาฯ ได้รับการเซ็นสัญญาว่าจ้างให้เป็นผู้บริหารโครงการด้วย
"ที่เราตัดสินใจเข้าไปเป็นที่ปรึกษาในโครงการนี้ เราไม่ได้คำนึงถึงลักษณะการเข้าไปทำในเชิงธุรกิจ
แต่เราคิดว่า เราเข้าไปช่วยให้ความรู้ทางด้านอุตสาหกรรมการโรงแรมการ ท่องเที่ยว
และผมอยากเห็นโครงการนี้มีระดับมาตรฐานอย่าง คอร์แนล หรือโลซาน โฮเต็ล ยูนิเวอร์ซิตี้
ซึ่งในเมืองไทยยังไม่มีที่ไหนทำได้" จิออร์จิโอกล่าว และงานนี้เขาต้องเข้าไปร่วมสอนเป็นอาจารย์พิเศษในบางวิชาด้วย
นอกจากนั้น โซเนวาฯ ยังมีอีกแบรนด์หนึ่งที่เป็นตัวแทนของโรงแรมหรือรีสอร์ทระดับ
3 ดาว โดยใช้ชื่อว่า "โนวุส" สำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ท
ที่เรียบง่าย เน้นความสะอาด บริการดี แต่ประหยัดและคุ้มค่าของเงิน เช่นที่
โนวุส ปุนจัก รีสอร์ท เกาะชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย
โซเนวาฯ (ประเทศไทย) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ต้องการมืออาชีพ
ที่มีประสบการณ์มาช่วยในการบริหารกิจการให้ยืนหยัดต่อ ไปได้