ชายนิด โง้วศิริมณี อยากใหญ่ แต่ใหญ่ยาก


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2542)



กลับสู่หน้าหลัก

"ผมก็ยังสบายดี เมื่อกี้ก่อนมา ยังหัวเราะกับคุณอุไรวรรณ และพาณีพรรณ อยู่เลย" ชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการบริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) เอ่ยกับ "ผู้จัดการรายเดือน" หลังจากเจอหน้ากันอย่างจังที่ตึกสิริภิญโญ ชั้นที่ 18 ซึ่งเป็นออฟฟิศของ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ให้กระจ่างอีกนิดคือหน้าห้องคุณเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ หลังงานแถลงข่าวเรื่องกลุ่มสตาร์วูดเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัทแสนสิริ เพียง 1 วัน

อุไรวรรณ ภัทรกานต์ และ พาณีพรรณ ทิสาพงส์ คือทีมงานเก่า แก่ที่ยังยืนหยัดอยู่เป็นกำลังสำคัญในวันนี้

"คุณชายนิดมาคุยกับผม ก็เหมือนกับนักลงทุนคนอื่นๆ ที่มีโครงการเข้ามาปรึกษากันดูว่ามีโครงการอะไรบ้างที่เราน่าจะช่วยเหลือกันได้" เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัด การบริษัทแสนสิริกล่าว และยอมรับ ว่าโครงการบ้านเดี่ยวของพร็อพเพอร์ ตี้เพอร์เฟคหลายโครงการน่าสนใจ

"ในเร็วๆ นี้ ผมจะเอาพร็อพ เพอร์ตี้เพอร์เฟค เข้ามาเป็นเสือตัวที่ 5 ในธุรกิจเรียลเอสเตทให้ได้" ชายนิดเคยกล่าวไว้เมื่อเข้ามาเป็นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2536 และหลังจากลั่นวาจาในครั้งนั้น ชายนิดก็สามารถนำบริษัทผงาดขึ้นในวงการบ้านจัดสรรอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ทันจะตัดสินว่าจะเป็นท็อปไฟว์ได้หรือไม่ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ทั้งหมดก็ต่างพากันซวนเซ และล้มระเนระนาดมาตั้งแต่ปี 2539

พร็อพเพอร์ตี้เฟอร์เฟคก็เช่นเดียวกัน จากเป้าหมายที่ได้ตั้งความหวังไว้ดังกล่าวทำให้ชายนิดเปิดฉากรบด้วยการ ทำโครงการบ้านจัดสรรขายพร้อมๆ กันอย่างหนักหลายทำเล ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แล้วก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเพราะโครงการเน้นในเรื่องความสวยงามของตัวบ้าน และสิ่งแวดล้อมภายในหมู่บ้านโดยมีกลุ่มของคนชั้นกลางเป็นกลุ่ม เป้าหมายหลัก เทียบเท่าโครงการยักษ์ใหญ่แลนด์แอนด์เฮ้าส์ โดยมีแหล่งเงินที่สำคัญคือบริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์เอกธนกิจของ ปิ่น จักกะพาก ในสมัยนั้นเป็นผู้สนับสนุน ตัวปิ่นมีสายสัมพันธ์อันดีมานานกับชายนิด เคยเข้ามาเป็นผู้ร่วมถือหุ้น และเป็นที่ปรึกษาให้โครงการด้วย

เมื่อปิ่นมีปัญหา เม็ดเงินที่เคยสูบฉีดโครงการก็มีปัญหาตามไปด้วย และที่สำคัญตลาดของที่อยู่อาศัยซบเซาอย่างหนักซึ่งมีผลมาจากภาวะวิกฤติทางด้านการเงินของประเทศ คลื่นมรสุมหลายลูกจึงโหมกระหน่ำชายนิดอย่างหนัก

ในช่วงเวลาดังกล่าว ชายนิดและทีมงานบริหารทุกคน เคร่งเครียดและหดหู่ใจกันมาก แต่ในที่สุดทุกคนก็ตั้งสติยอมรับกับปัญหาทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น และค่อยๆ ช่วยกันเรียบเรียงปัญหา และช่วยกันหาทางแก้ไข

สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของชายนิด ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2529 เขาเองก็เคยประสบปัญหาในการทำธุรกิจอย่างหนัก เคยวิ่งแลกเช็ค เสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางมาแล้วด้วยซ้ำ ประสบการณ์ครั้งก่อนๆ ทำให้เขาคิดได้ว่าหากมีสติก็จะแก้ไขปัญหาได้ไม่ยากนัก

ในปี 2540 ชายนิดจึงต้อง ลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ ปรับลดเงินเดือนผู้บริหาร หาทางขายแลนด์แบงก์บางแปลงพร้อมๆ กับหากลยุทธ์ทางการขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการยอมลดราคาลงกว่า 40% ในโครงการบ้านที่ถนนติวานนท์ รัตนาธิเบศร์ และรามคำแหง และในสิ้นปี 2540 นั้น บริษัทมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 14,597 ล้านบาทเป็นหนี้ต่างประเทศ 30% ผลขาดทุนเมื่อสิ้นปี 2540 ประมาณ 5 พันกว่าล้านบาท

พร้อมๆ กับคิดค้นกลยุทธ์การขายใหม่ๆ และเร่งโอนบ้านที่สร้างเสร็จแล้วรวมทั้งพยายามทุกวิถีทาง ที่จะส่งลูกค้าต่อไปยังสถาบันการเงินซึ่งกำลังสกรีนลูกค้าอย่างหนักเหมือนกัน ชายนิดก็ยังพยายามหาผู้ร่วมทุนใหม่ ซึ่งเขาบอกว่า วิธีการช่วยตนเองของนักพัฒนาที่ดินทุกวันนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่คือ

1. ช่วยตัวเอง โดยการพยายามขายของที่ตัวเองมีออกไปให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งขายที่ดิน ขายทรัพย์สินส่วนตัวมาใช้หนี้แบงก์หรือใช้เงินคืนผู้รับเหมาเพื่อจะได้ส่งมอบบ้านให้ลูกค้า

2. ติดต่อหาผู้ร่วมทุนต่างชาติ และ 3. ให้ทางสถาบัน การเงินช่วยโดยทางพร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟคนั้นกำลังใช้วิธีช่วยตัวเอง แต่ไม่ปฏิเสธว่า ก่อนหน้านี้ติดต่อผู้ร่วมทุนต่างชาติมาแล้วหลายราย ทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย และกลุ่มทุนจากยุโรป

รวมทั้งกลุ่มของมร.เลียแค็ท สุลต่านแดนจี้ ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนใหม่ของคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์นั้นก็เคยคุยกับชายนิดมาก่อน

สำหรับผลการดำเนินงาน ณ สิ้นเดือน ธ.ค.2541 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 3,710.65 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 57.05 บาท ซึ่งทำให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และได้ถูกแขวนป้าย SP ถึงวันที่ 12 เมษายน 2542 และให้ย้ายหลักทรัพย์ไปอยู่ภายใต้หมวด REHABCO ก่อนที่จะห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2542 เป็นต้นไปจนพ้น การเพิกถอน โดยให้ตั้งที่ปรึกษาทาง การเงินอิสระร่วมจัดทำแผนดำเนิน การ เพื่อแก้เหตุแห่งการเพิกถอน เสนอต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทภายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2542

อย่างไรก็ตาม เขาก็มั่นใจว่าทุกอย่างต้องมีทางออกถ้าไม่ท้อถอยและยอมทิ้งปัญหา แต่แน่นอนว่าเขาต้องเหนื่อยกว่าครั้งก่อนเพราะปัญหาคราวนี้มันใหญ่และซับซ้อนกว่าทุกคราว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.