นุสรา ลูกสาวผู้สานฝันให้กฤษณ์ อัสสกุล


นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2542)



กลับสู่หน้าหลัก

"ผู้ชายคนนี้ป็นคนช่างฝัน สำหรับโลกนี้แล้วเป็นสิ่งท้าทายสำหรับเขา" "ผู้จัดการรายเดือน" ขอยกคำพูดของท่านผู้หญิงนิรมล สุริยสัตย์ นักธุรกิจหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของกฤษณ์ อัสสกุล เคยกล่าวไว้

กฤษณ์ เป็นนักสู้ผู้บุกเบิกและก่อตั้งอาณาจักรของกลุ่มไทยสมุทร ให้ยืนหยัดอย่างมั่นคงจนครบ 50 ปี ในปีนี้ นอกจากจะประสบความสำเร็จในเรื่องธุรกิจประกัน เขายังเป็นนักพัฒนาที่ดินซึ่งเอาระบบไทม์แชริ่งมาใช้เป็นรายแรกๆ ในโครงการซิกม่ารีสอร์ทบนหาดจอมเทียน เป็นเจ้าของอาคารตึกสูงออฟฟิศคอนโดมิเนียมใจกลางกรุง ในยุคที่ขายความฝันกันในแผ่นกระดาษ และเป็นผู้สร้างฝันให้เป็นจริงให้กับเศรษฐีชาวไทยที่มีจิตใจชื่นชอบกีฬาทางเรือ โดยสร้างโครงการโอเชี่ยนมารีน่า ยอช์ทคลับ โครงการมารีน่าที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของเมืองไทย

ปัจจุบันธุรกิจหลักของกลุ่มไทยสมุทรประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลักคือ 1. กลุ่มทางด้านการเงิน เช่นบริษัท ไทยสมุทรพาณิชย์ประกันภัย บง.มหาสมุทร สยามโบรก เกอร์ สยามประกันชีวิต 2. กลุ่มอินดัสตรี้ เช่นบริษัทโอเชี่ยนกลาส จำกัด(มหาชน) และ 3. กลุ่มเรียลเอสเตท เช่น บริษัทโอเชี่ยนทาวเวอร์ บริษัทโอเชี่ยนมารีน่า บริษัทเรียล เตอร์ และบริษัทธนภูมิ

กฤษณ์วางบทบาทให้ กีรติ และวีรวุฒิ ลูกชายคนโตและคนรองดูแลธุรกิจ 2 กลุ่มแรก ส่วนนุสราลูกสาวคนสุดท้องดูแลทางด้านเรียลเอสเตทและโครงการโรงเรียนนานาชาติทั้ง 2 แห่ง บทบาทของนุสราในวันที่กำลัง สร้างฝันให้ผู้เป็นพ่อในยุคเศรษฐกิจไม่เป็นใจจึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองยิ่งนัก

ต้องยอมรับว่านุสรา เป็นลูกสาวเถ้าแก่อีกคนหนึ่งที่ทำงานหนักมากๆ ตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ แม้แต่วันที่แจกการ์ดแต่งงานให้กับ อนันต์ อัศวโภคิน สมัยที่บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ยังอยู่ในโรงแรมแมนดาริน เธอยังสามารถเล่าเรื่องงานแต่งงานไปได้พร้อมๆ กับการเจรจาขายพื้นที่ตึกได้ด้วยตั้งหลายยูนิต

กฤษณ์ ไม่ได้สอนลูกให้เป็นนาย เขาพูดเสมอๆ ว่าให้ลูกๆ ทุกคนทำตัวเหมือนพนักงานทั่วไปคนหนึ่ง ซึ่งหากเป็นคนเก่งจริงก็จะได้รับการยอมรับเอง ไม่ใช่ให้คนยอมรับเพราะความเป็นลูกของเจ้าของบริษัท

ดังนั้นพอนุสราเรียนจบปริญญาโทสาขา Finance จาก University of California, Los Angeles ก็เลยไม่มีความคิดในหัวว่าจะต้องมานั่งเก้าอี้ตัวใหญ่ตัวใดตัวหนึ่งของบริษัทในเครือไทยสมุทร เธอจึงไปสมัครงานเพื่อหวังจะหาประสบการณ์ในบริษัทการเงินบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา ด้วยความหวังว่าอยากเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เพราะมั่นใจว่าเรื่องตัวเลขสำหรับ เธอนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ เป็นเรื่องถนัดที่ตนอยากทำ

เมื่อเห็นลูกสาวคนเล็กจริงจังที่จะหางานทำเพื่อหาประสบการณ์แน่นอน กฤษณ์กลับบอกว่าให้กลับมาทำงานกับเขารับประกันได้ว่าเพียง 6 เดือนก็จะได้ประสบ การณ์ในการทำงานมากกว่าอยู่เมืองนอกแน่นอน

นุสรากลับจากเมืองนอกก็เริ่มงานในบริษัทไทยสมุทร แผนกพัฒนาที่ดินซึ่งเป็นแผนกเล็กๆ ในบริษัท ตอนนั้นมีการทำโครงการอสังหาริมทรัพย์มาหลายโครงการแล้วอย่างเช่นหมู่บ้านไทยสมุทร อพาร์ตทเมนต์ที่ซอย ศาลาแดง หัวหมากคอนโดมิเนียม ลาดพร้าวคอนโดมิ เนียม และทุกโครงการก็ขายจบไปหมดแล้ว

แต่กฤษณ์ได้หวังไว้ว่าจะให้ลูกสาวคนนี้เข้ามารับผิดชอบพัฒนาที่ดิน จำนวนมากมายที่อยู่ในมือของเขา ให้กลายเป็นทองคำให้ได้ โดยเขาจะเป็นคนให้แนวความคิด ส่วนตัวเธอต้องเป็นคนลงมือทำ

และเธอก็ทำได้จริงๆ งานชิ้นแรกที่รับผิดชอบก็คือการขายพื้นที่ตึกไทยสมุทรซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ และใหม่สำหรับตัวเองมาก เมื่อไม่เคยเรียนไม่เคยทำมาก่อนเธอ จึงลงมือลุยงานเองแทบทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่สำรวจตลาดความต้องการออฟฟิศบิลดิ้งในเมืองไทยขณะนั้น การกำหนดราคา และออกเคาะประตูหาลูกค้าเอง

ลูกค้ารายแรกของนุสรา ก็คือมร.สก็อต มอร์แกน กรรมการผู้จัดการคนแรกของบริษัทริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) บริษัทโบรกเกอร์ข้ามชาติรายแรกของเมืองไทยที่เข้ามาเมื่อปี 2531 และกำลังมองหาพื้นที่อาคาร สำนักงานตั้งออฟฟิศ วันนั้นเสนอขายเสร็จเรียบร้อยก็ยังไม่เป็นที่ตกลง ไม่เป็นไรน่า เธอปลอบใจตัวเอง อีก 2 วันต่อมร.มอร์แกนก็โทรกลับเข้ามาเพื่อชวนเธอทานข้าวเที่ยงด้วย

นุสราเล่าว่าดีใจมาก มั่นใจว่าทางริชาร์ดเอลลิสต้องสนใจพื้นที่เช่าแน่นอน แต่เปล่าหรอกนะ เขาโทรมาเพื่อชวนไปทำงานด้วยต่างหาก ก็เลยกลายเป็นเรื่องโจ๊กในวงการที่มร.มอร์แกนเล่าให้ใครต่อใครฟังว่า เพราะความประทับใจในความเก่งและความคล่องของเธอเลยติดใจชวนมาร่วมทีมด้วย ใครจะไปรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวเจ้าของโครงการคนหนึ่ง

"เป็นช่วงที่ทำงานสนุกมาก ขายดีจนขึ้นราคาเกือบทุกอาทิตย์ 5 อาทิตย์เราขายพื้นที่ไปประมาณ 70% จากพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นตารางเมตร แต่ทำงานหนักมาก เป็นช่วงที่ได้ประสบการณ์มากที่สุด"

นุสราเล่าย้อนให้ฟังถึงยุคเศรษฐกิจบูมจนกระทั่งความฝันบนแผ่นกระดาษก็ขายได้ และผลของการทำงานหนักในครั้งนั้น ทำให้เธอได้ข้อสรุปที่นำมาใช้ในทุกวันนี้ว่า การที่จะใช้คนได้ดี ใช้ให้เป็นนั้น คนใช้ก็ต้องทำงานเป็นมาก่อนเหมือนกัน

ส่วนหนึ่งของความสำเร็จเป็นเพราะนุสราเป็นนักพัฒนาที่ดินรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถอย่างมากในเรื่องตัวเลข แต่ก็ใช่ว่าจะได้กำไรเป็นตัวเลขที่สวยงามทุกโครงการไป โอเชียนมารีน่า ยอชท์คลับ คือตัวอย่างนั้น

โอเชี่ยนมารีน่า เป็นโครงการหนึ่งที่กฤษณ์ฝันไว้ว่าจะทำให้เมืองไทยมีมารีน่าที่ดีมีมาตรฐานให้ได้ แน่นอน ต้องมีการทุ่มเงินมากมายลงไปในเม็ดทราย จึงจะกลายเป็นโครงการที่สวยงามเป็นท่าจอดเรือที่สมบูรณ์แบบได้ ผลพวงของโครงการนี้ ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทไทยสมุทรเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทำให้ความฝันของกฤษณ์เป็นจริง แต่ก็เป็นโครงการที่ได้เพียงกล่องไม่ได้เงิน

โครงการนี้จะมีกำไรก็ต่อเมื่อตึกหลังที่ 2 ซึ่งเป็นเสาเข็มค้างคาอยู่นั้นเดินเครื่องต่อจนเสร็จ แต่แน่อนในช่วงภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้หยุดไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่าแน่นอน รวมทั้งโปรเจ็กต์พัฒนาที่ดินอีกหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศบิลดิ้ง คอมเพล็กซ์หรู และคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งบางโครงการแบบแปลนแผนผังถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว

ว่ากันว่านุสราเธอเป็นคนค่อนข้างใจร้อน คิดเร็ว ชอบกีฬาเรือใบที่ท้าทายเหมือนพ่อ แต่เธอเรียนรู้จังหวะที่จะดึงจะผ่อนและบังคับใบเรือ รวมทั้งเรียนรู้ทิศทางลม จนทำให้สามารถฝ่ามรสุมธุรกิจครั้งนั้นมาได้

จะว่าไปแล้วสไตล์การทำงานอย่างนี้ก็ไม่ได้ต่างไป จากกฤษณ์ผู้มีบทบาทสำคัญในการขยายอาณา จักรของบริษัทในเครือไทยสมุทรอย่างระมัดระวังมาตลอด จนเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับแรงกระทบมากนักจากภาวะวิกฤติของเศรษฐกิจในรอบนี้

เพราะไม่อย่างนั้นแล้วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถ้าเธอตัดสินใจเดินหน้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดตามแผนการที่วางไว้ล่ะก็ มีหวังไม่มีกะจิตกะใจสานต่อความฝันของพ่อในเรื่องธุรกิจโรงเรียนนานาชาติแน่นอน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.