สยามอินเวสเมนท์ฟันด์


นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2542)



กลับสู่หน้าหลัก

กล่าวได้ว่าเป็นไฟแนนซ์รายแรกๆ ที่ปรับโครงสร้างทุนสำเร็จและมอบโบนัสพิเศษแก่ผู้ถือหุ้นอย่างมโหฬารไปได้พร้อมๆ กัน ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างแท้จริงสำหรับยุคเศรษฐกิจพังพินาศในตอนนี้ นั่นคือผลงานของบริษัทเงินทุน ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากเมื่อต้นปีถึง 500-600% ทำ เอาผู้ถือหุ้นยิ้มแก้มปริไปตามๆ กันได้ ไม่ใช่เฉพาะราคาหุ้นสามัญเท่า นั้น ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือ Covered Warrant หรือใช้ชื่อหลักทรัพย์ว่า TISCO-C1 ก็มีราคาน่าสนใจมาก เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์

โดยเฉพาะผู้บริหารกองทุน Siam Investment Fund ที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนเพิ่มเป็นหุ้นละ 12.67 เหรียญ หลังจากที่หุ้นบุริมสิทธิและใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ของ TISCO เข้าจดทะเบียน กองทุนฯนี้มีมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้น 25 ล้านเหรียญ ลงทุนในหุ้น TISCO ไว้ 100 ล้านบาท หรือ 2.7 ล้านเหรียญ

TISCO ได้ยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 จากกระทรวงการคลังและได้รับความเห็นชอบอนุมัติโครงการดังกล่าว โดยบริษัทสามารถระดมทุนจากนักลงทุนที่สนใจซื้อหุ้นบริษัทได้จำนวน 300 ล้านหุ้นเป็นเม็ดเงิน 3,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังก็ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TISCO ในจำนวนที่เท่ากัน จึงถือได้ว่า TISCO ประสบความสำเร็จอย่างดีในการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 600 ล้านหุ้น ได้เม็ดเงินมา 6,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 7,002 ล้านบาทแล้วขณะนี้มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ดูตารางประกอบ)

กระทรวงการคลังซื้อหุ้นบุริมสิทธิของ TISCO โดยออกเป็นพันธ บัตรมูลค่า 3,000 ล้านบาทให้ TISCO และกระทรวงยังได้ออกใบสำคัญแสดง สิทธิอนุพันธ์เพื่อนำไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย โดยมีราคาการใช้สิทธิที่ 11.20 บาท สามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการนับแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้น บุริมสิทธิ หรือหุ้นสามัญที่ได้จากการแปลงสภาพ

ปรากฏว่าเมื่อเข้าเทรดในตลาดแล้วนั้น ราคาวอร์แรนต์ตัวนพุ่งขึ้นมาเท่าตัว และมาทรงตัวอยู่ที่ 20.50 บาท เมื่อ 17 มิ.ย. 2542 ต้องถือว่าแค่ชั่วพริบตาเดียวกระทรวงการคลังก็ได้กำไรไปเนื้อๆ เกือบ 3,000 ล้านบาทจากวอร์แรนต์นี้!!

กองทุนสยามอินเวสเมนท์ฟันด์ที่ลงทุนหุ้น TISCO ไว้ 100 ล้านบาท ตอนนี้ปรากฏว่าเงินลงทุนจำนวนนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 530 ล้านบาทแล้ว คิดกำไรอย่างคร่าวก็ปาเข้าไป 430 ล้าน บาท หรือเกือบ 12 ล้านเหรียญ

จะมีสินทรัพย์อะไรที่ลงทุนแล้วเงินจะงอกเงยได้ถึงปานฉะนี้ในยามนี้ !!

ยูยีน เดวิส กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟินันซ่า และเป็นผู้จัดการกองทุนนี้กล่าวว่า "เราได้ร่วมทำงานกับ TISCO ในโครงการเพิ่มทุนในช่วงปีที่ผ่านมา และเราประหลาดใจมากในแต่ละก้าวของการดำเนินงานของ TISCO ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารความเสี่ยงไปจนถึงการบริหารพอร์ตสินเชื่อคอร์ปอเรท บริหารพอร์ตเงินลงทุนและการระดมทุน บริษัทมีความชำนาญเป็นเลิศในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ในแต่ละด้าน ผมเชื่อว่าไม่เพียงแต่ TISCO จะสามารถเอาตัวรอดได้จากภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากนี้เท่านั้น แต่บริษัทยังจะสร้างความรุ่งเรืองมั่งคั่งขึ้นมาได้ภายใต้ภาวะแวดล้อม ทางสังคมธุรกิจใหม่ของประเทศไทย"

นอกจากหุ้น TISCO แล้ว กองทุนสยามอินเวสเมนท์ฟันด์ ยังลงทุนในหุ้นตัวอื่นๆ อีกได้แก่ เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป, ซีเอ็ด, พาโต้เคมิคัล, เอเชีย แปซิฟิค รีซอทเซส, ซิงเกอร์ และบริษัท นอร์ทบริดจ์ คอมมูนิตี้ส์ กองทุนนี้จดทะเบียนในลอนดอน ซื้อขายในแบบ OTC และมี ABN AMRO เป็นมาร์เก็ตเมกเกอร์



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.