JIMMY LAI อีกครั้งกับอินเตอร์เน็ต


นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2542)



กลับสู่หน้าหลัก

Jimmy Lai เป็นนักธุรกิจฮ่อง กงที่ตกเป็นข่าวมาหลายครั้ง เขาเป็นคนสร้างเชนร้านเสื้อผ้า Giordano ทำหนังสือพิมพ์ Apple Daily ทั้งยังเคยวิพากษ์วิจารณ์อดีตนายกรัฐมนตรีหลี่เผิงของจีน วันนี้เขากำลังเด่นดังอีกครั้งกับธุรกิจใหม่ บริการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต adM@rt

คงมีนักธุรกิจน้อยคนนักที่จะทำอย่าง Lai คือกระโจนเข้าไปในธุรกิจที่ไม่ค่อยคุ้นเคยแถมยังดูเหมือนเป็นเพียงแฟชั่นเสียด้วย เขาเข้าสู่ธุรกิจสั่งซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตและให้บริการจัดส่งถึงที่ โดยเริ่มต้นกิจการด้วยเงินจำนวน 26 ล้านดอลลาร์ ในชื่อ adM@rt

แต่ adM@rt ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ของเขาเท่านั้น เพราะ Lai กำลังเตรียมนำธุรกิจด้านสื่อบางส่วนเข้าตลาดหุ้นในฮ่องกงด้วย

ตามแผนการของ Lai บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจะมุ่งเน้นที่ธุรกิจออนไลน์ ส่วน adM@rt จะเน้นไปที่อี-คอมเมิร์ซ ซึ่งทั้งหมดนี้นับเป็นวิธีการใหม่ของเขา โดย มีเป้าหมายเดิม คือ การอุดช่องว่างตลาด และอาศัยนักลงทุนมาปิดบังรอยด่างพร้อยเกี่ยวกับชื่อเสียงของ Lai ไว้ เพราะเขาได้ชื่อว่า เป็นนักธุรกิจที่ชอบหาเรื่องวุ่นวายให้กับชีวิต ทั้งๆ ที่ได้ส่งมอบงานบริหารในมือให้กับผู้อื่นไปแล้ว แม้แต่รัฐบาลจีนและคู่แข่งทางธุรกิจในฮ่องกงเองก็เห็นว่า Lai นั้นทำเรื่องวุ่นอยู่เสมอจนเกินจะรับมือไหว Lai ได้ทำให้กิจการร้านเสื้อผ้า Giordano ที่เขาก่อตั้งขึ้นต้องเผชิญมรสุมหนักในตลาดจีน เพราะไปวิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐบาลจีนจนท้ายที่สุดเขาต้องขายหุ้นส่วนกิจการ Giordano ไปเมื่อปี 1996 เพื่อยุติปัญหา

ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าแผนการใหม่ของ Lai จะประสบความสำเร็จหรือไม่ อีกทั้งเมื่อสองปีก่อน Lai ก็ไม่เคยแสดงทีท่าว่าสนใจธุรกิจนี้เลย นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งจึงเฝ้าจับตาดูความ เคลื่อนไหวของเขาอย่างใกล้ชิด

แม้ว่าธุรกิจของ Lai ล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง เขากลับประสบความสำเร็จในการพยายามผลักดันกิจการ "Next Media" ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์นิตยสาร Next Magazine เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยเขาถือหุ้นของ Next Media อยู่ 88% อย่างไรก็ตาม ในปี 1997 ซันฮุงไก อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทอันเดอร์ไรเตอร์ของ Next Media ก็ประกาศถอนตัวอย่างกะทัน หันโดยทาง Next Media อธิบายว่าเนื่องจากซันฮุงไกได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลจีนที่สั่งห้ามดำเนินธุรกิจใดๆ กับ Lai ซันฮุงไกปฏิเสธโดยระบุว่าการตัดสินใจถอนตัวเป็นเพราะ "เงื่อนไขทางเศรษฐกิจและธุรกิจบางประการ"

ที่น่าแปลกก็คือ ปีเตอร์ ฟุง กรรมการผู้จัดการของซันฮุงไก ในขณะนั้น ซึ่งบอก Lai ว่าการนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังเป็นไปไม่ได้ กลับลาออกจากบริษัทไปตั้งกิจการวาณิชธนกิจส่วนตัวในชื่อ "ยูหมิง อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์" และเป็นบริษัทอันเดอร์ไรเตอร์รายใหม่ให้กับ Next Media

ฟุงมีความเชื่อมั่นในตัว Lai และด้วยความช่วยเหลือของฟุง เขากำลังใช้เทคนิค สับเปลี่ยนสินทรัพย์กิจการอย่างสลับซับซ้อน เพื่อจะทำ back-door listing โดยจะเข้าซื้อหุ้นกิจการสิ่งพิมพ์ "พาราเมาท์ พับลิชชิง" ซึ่งกำลังขาดทุน หากทำสำเร็จ Next จะเร่งอัดฉีดกิจการสองแห่งเข้าไปอยู่ภายใต้ชื่อพาราเมาท์ ได้แก่ นิตยสารรายสัปดาห์แนวไลฟ์สไตล์ "Easy Finder" ซึ่งปีที่แล้วทำกำไร 3.2 ล้านดอลลาร์ และ "Next Media Interactive" ซึ่งเป็นบริษัทก่อตั้งใหม่

Next เสริมว่าเว็บไซต์ต่างๆ มีถึง 500,000 หน้าต่อวันซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้ทำโฆษณามาก วอร์เรน ลี ผู้อำนวยการของยูหมิงบอก "Easy Fin-der จะเป็นธุรกิจหลักของบริษัทใหม่ แต่ในอนาคตบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่อินเตอร์เน็ต"

นักวิเคราะห์ธุรกิจสื่อนั้นสนอกสนใจเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Jimmy Lai แต่จะยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นักลงทุนในตลาดต่างจับตาหุ้นตัวนี้ "เพราะเป็นไปได้ว่าอีกหน่อย Next Magazine และ Apple Daily จะตามเข้ามาด้วย" เกาชิค ชริดารานี แห่งโซโลมอน สมิธ บาร์นีย์ ให้ความเห็น ในขณะที่ Lai ซึ่งปกติเป็นคนพูดจาเปิดเผย กลับปฏิเสธที่จะกล่าวถึงประเด็นนี้

ผู้บริหารของ NEXT เองก็ปฏิ-เสธข่าวที่ว่า Lai จงใจเก็บสินทรัพย์ที่ดีที่สุดไว้ในมือ ไม่ว่าจะเป็น Next Magazine หรือ Apple Daily โดยเฉพาะ Apple Daily นั้น เยวง ไว ฮง ประธานกรรมการของเน็กซ์บอกว่า "เป็นเพราะขนาดและมูลค่าของกิจการมากกว่าพาราเมาท์"

สำหรับ adM@rt เป็นกิจการใหม่ที่ Lai เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เขาก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Apple Daily (ad มาจากชื่อ Apple Daily นั่นเอง) adM@rt เป็นบริการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต มีสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและอุปกรณ์เครื่องใช้ขนาดเล็กต่างๆ อีกทั้งยังขยายไปถึงโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และบริการจองตั๋วเครื่องบินด้วย โดยให้ส่วนลดกับลูกค้าและบริการจัดส่งถึงที่ ธุรกิจของ adM@rt ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าทั้งทางโทรศัพท์และทางเว็บไซต์กันเป็นจำนวนมากจนกระทั่งต้องปิดเว็บไซต์เพื่ออัพเกรด

"เราไม่ทันตั้งตัวดี แต่นี่ก็เท่ากับย้ำว่าแนวคิดของเราถูกต้อง" ชู president ของ adM@rt บอกและชี้ว่าปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณค่ามากกว่าเมื่อก่อน และอี-คอมเมิร์ซก็กำลังแพร่หลาย จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจประเภทนี้

จังหวะก้าวต่อไปเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า การจัดเก็บและระบบคลังสินค้า ซึ่งต้องอาศัยทั้งระบบคอมพิว- เตอร์และพนักงานดูแล ชูคาดว่าภายใน สองปี Lai ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าของกิจการแต่เพียงผู้เดียวจะต้องทุ่มเงินให้กับธุรกิจนี้ถึง 130 ล้านดอลลาร์ และตอนนี้บริษัทก็มีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยน จากการให้บริการแบบจัดส่งถึงที่แต่เพียงอย่างเดียว มาเป็นการทำโชว์รูมขนาดเล็กหลายๆ แห่ง แต่นี่ย่อมหมายความว่าบริษัทจะต้องหาทางดึงดูดความสนใจของลูกค้า ให้เข้าไปใช้บริการในร้าน โดยไม่ได้เพียงคิดว่าเป็นร้านค้าปลีกสินค้าราคาถูกที่มีอยู่ดาษดื่น มิฉะนั้นก็จะเป็นการลงทุนที่เปล่าประโยชน์ ปัจจุบัน บริษัทมีออร์เดอร์กว่า 5,000 รายต่อวัน เปรียบเทียบกับ 3,500 รายต่อวัน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป้าหมายของบริษัทอยู่ที่ 20,000 ราย

ทั้งกิจการ adM@rt และการซื้อกิจการพาราเมาท์ เป็นสิ่งใหม่ที่ Lai มอบให้กับลูกค้าและนักค้าหุ้นของฮ่องกง แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ Lai ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งแล้วว่าเขาเป็นผู้ประกอบการที่มีความสามารถทั้งในด้านการบริหารและการตลาด



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.