เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชาร์ลส์ จาง (Charles Zhang) เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งในวงการอินเตอร์เน็ตของจีน
เพราะ Sohu.com ของเขา ซึ่งมีฐานอยู่ในปักกิ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งในตลาดที่มีอัตราการใช้เว็บภาษาจีนเพิ่มขึ้นสูงมาก
จาง ถือเอาอินเทล คอร์ป และดาว โจนส์ แอนด์ โค.เป็นนักลงทุนในกิจการของเขา
ในขณะที่ นิโคลัส เนโกรปองเต เจ้าตำรับด้านอินเตอร์เน็ต ก็เคยไปช่วยจางถึงปักกิ่งมาแล้ว
จางอายุ 34 ปี เขาจบปริญญาเอกจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (MIT)
กิจการ Sohu.com ของเขาเติบโตแบบเงียบๆ แต่รวดเร็วมาตลอดครึ่งปีแรก โดยมีแรงสนับสนุนจากนักลงทุนต่างประเทศที่เข้มแข็ง
จนเมื่อเดือนกรกฎาคมนี้เองที่จางต้องหนักใจเพราะกิจการของเขามีคู่แข่งอย่าง
China.com Corp. มาท้าทายในฐานะธุรกิจอินเตอร์เน็ตแห่งแรกของจีนที่ไประดมทุนในตลาด
Nasdaq ขณะเดียวกัน ผู้บริหารระดับสูงหลายคนก็ตีจาก นักลงทุนเร่งรัดผลกำไร
และรัฐบาลจีนเองก็คอยสอดส่องธุรกิจของเขา ปีเตอร์ เลิฟล็อค ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคมแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง
ให้ความเห็นว่า "โซหูจะต้องปรับตัวเองครั้งใหม่"
สำหรับจางแล้ว การบุกเบิกธุรกิจอินเตอร์เน็ตที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
ในประเทศที่นักธุรกิจเอกชนทำตลาดได้ยากยิ่งอย่างจีน นับเป็นสิ่งท้าทายความสามารถ
สิ่งหนึ่งที่เขาทำขณะนี้ก็คืออดทนรอคอย เพราะรู้ดีว่าทุกๆ อย่างในจีนนั้น
"ใช้เวลานานกว่าในสหรัฐฯ"
อย่างไรก็ตาม ปัญหาอีกส่วนหนึ่งของจางอาจจะมาจากการที่เขาไม่ได้ดำเนินตามแบบแผนของซิลลิกอน
แวลลีย์มากนัก อย่างเช่น เขามัวรีรอที่จะให้สิทธิผู้บริหารซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อเป็นผลตอบแทนเมื่อบริษัทเข้าตลาด
หลักทรัพย์ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ผู้บริหารระดับสูงหลายคนลาออกไป รวมทั้งผู้อำนวยการด้านการออกแบบ
เทค-โนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ผู้บริหารเหล่านี้พากันไปทำงานให้กับบริษัทคู่แข่ง
ที่เสนอสิทธิการซื้อหุ้นบริษัทให้ อดีตผู้บริหารคนหนึ่งของ Sohu.com เล่าว่า
"เรื่องหุ้นบริษัท จางสัญญากับผู้บริหารระดับสูงครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่เคยเป็นจริงสักที"
ยิ่งกว่านั้น นักลงทุนต่างประเทศ ก็ไม่สบายใจนักกับการดำเนินธุรกิจของจาง
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จางเริ่มมีปัญหากับอินเทลซึ่งต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทหลังจากที่จางทำรายได้ในปี
1998 ได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตกลงไว้ ซ้ำร้ายจางยังใช้วิธีตัดค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาแล้วนำไปรวมในผลประกอบการของปี
1998 ซึ่งเป็นวิธีการที่อินเทลไม่ยอมรับ แต่ทั้งโซหูและอินเทลก็ยังไม่ยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เกี่ยว กับสัดส่วนการถือหุ้น
รัฐบาลจีนเองก็หาทางชะลอธุรกิจของโซหูด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานความปลอดภัยของจีนได้เข้าค้นสำนักงานของโซห
ูเนื่องจากพบว่ามีลูกค้าบางรายเปิดเข้าเว็บไซต์ที่มีภาพอนาจาร และเมื่อเร็วๆ
นี้ทางการจีนยังสั่งปิดบริการอีเมลของโซหูและอีกหลายบริษัทในช่วงที่มีการเคลื่อนไหวของนิกายฟาลุนกง
แต่ถึงจะลำบากยากเย็นเพียงใด จางเชื่อว่าโซหูยังเป็นบริการอินเตอร์เน็ตชั้นนำของจีน
เขายืนยันว่า "ชื่อของโซหูยังนำหน้าคู่แข่ง" และเสริมว่ารายได้บริษัทยังคงสูงที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งจีนด้วยกัน
แม้ว่าเขาจะไม่ได้กล่าวถึงตัวเลขรายได้ให้ชัดเจนก็ตาม จางบอกข่าวลือต่างๆ
เกี่ยวกับบริษัทมาจากการที่นักลงทุนต่างประเทศได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
"สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในจีน ไม่ใช่เรื่องที่นักธุรกิจระดับโลกจะเข้าใจได้ง่ายๆ
แม้แต่ประเทศจีนเองก็ยังเข้าใจได้ยาก" จางบอก
จางย้ำว่าเขายังไม่ยอมถอยง่ายๆ เขายังเริ่มให้บริการใหม่ๆ เพิ่มเติม
เป็น ต้นว่า เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการเงิน กีฬา และสำหรับวัยรุ่นจีนที่ชื่นชอบเน็ตโดยเฉพาะ
นอกจากนั้นเขายังส่งเสริมให้มีไซต์ทางด้านการศึกษาอีกด้วย ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะในช่วงโปรโมชั่นเมื่อเร็วๆ นี้ มีแฮคเกอร์รายหนึ่งแกล้งป้อนคำถามกวนๆ
เข้าไปในไซต์เป็นจำนวนมากมาย ซึ่งจางเชื่อว่าเป็นฝีมือของ บริษัทคู่แข่ง
การสู้รบในธุรกิจอินเตอร์ เน็ตในจีนจึงไม่ใช่เรื่องง่ายดายแม้แต่น้อย