อ.ส.ม.ท.เดินหน้าแปรรูปตามแผน คาด 30 ก.ค. นี้เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ผู้บริหารยืนยันการกระจายหุ้นครั้งนี้จะไม่มีหุ้นอุปการคุณ
ย้ำการกระจายหุ้นจะเป็นแบบขั้นบันได มั่นใจรายย่อยมีสิทธิ์จองซื้อมากสุด เผยสัดส่วนรัฐยังถือหุ้นใหญ่ประมาณ
75% และกระจายหุ้นเพียง 25% เท่านั้น แผนระดมทุนเตรียม ทำโกลเบิลทีวีสู่ระดับอินเตอร์
แหล่งข่าวจากองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าถึงแผนแปรรูปอ.ส.ม.ท.ว่ายังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล และผ่านขั้นตอนต่าง
ๆ มาเรียบร้อยแล้ว และจะเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในวันที่ 30 ก.ค.นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ
ซึ่งได้ทำไปแล้วคือจังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และในวันที่ 26 มิถุนายนนี้จะรับฟังครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา
สำหรับการแปรรูปอ.ส.ม.ท. ได้ว่าจ้างให้บริษัท ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ซึ่งจะมีการกระจายหุ้นขายให้กับประชาชนประมาณ 25% ส่วนอีก 75% นั้นรัฐยังคงถือหุ้นใหญ่อยู่
ซึ่งการกระจายหุ้นครั้งนี้จะถือว่าเป็นครั้งแรกในการแปรรูป รัฐวิสาหกิจที่ไม่มีการเสนอหุ้นให้กับผู้มีอุปการคุณตามมติครม.
นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่จะต้องกระจายหุ้นให้เป็นแบบขั้นบันไดคือกระจายให้ทั่วถึงซึ่งนักลงทุนรายย่อย
ๆ สามารถจองซื้อได้ไม่มีการ กระจุกตัวกับกลุ่มทุนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นนโยบายของบอร์ด
อ.ส.ม.ท.อยู่แล้ว เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรม และป้องกันปัญหาว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจแล้วจะมีกลุ่มทุนได้รับประโยชน์
"การแปรรูปอ.ส.ม.ท.ยืนยันว่ามีความโปร่งใส ไม่เหมือนรัฐวิสาหกิจอื่นหรือทีวีช่องอื่นที่ลัดขั้นตอนการแปรรูปและยังไม่ผ่านขบวนการเห็นชอบจากหน่วยงานของรัฐทำให้เกิดปัญหาขึ้น
แต่อ.ส.ม.ท. ยืนยันว่าจะต้องแปรรูปและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แน่นอน" แหล่งข่าวคนเดียวกัน
กล่าว
สำหรับการระดมทุนครั้งนี้หลายคนมีคำถามว่าอ.ส.ม.ท.มีกำไรทุกปีและสามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐปีละหลายร้อยล้านบาท
แล้วเหตุใดจึงต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แหล่งข่าวคนเดียวกันกล่าวว่า อ.ส.ม.ท. นั้นมีโครงการที่ต้องระดมทุนเพื่อทำเป็นโกลเบิลทีวีเหมือนกับในต่างประเทศเพื่อใช้เป็นกระบอกเสียงในการในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และนำเสนอข่าวสารให้ทั่วโลกได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นตรงนี้จะส่งผลดีต่อการลงทุน
และชื่อเสียงของประเทศในอนาคต
ที่ผ่านมาช่อง 5 เคยทำสถานีโทรทัศน์ในรูป โกลเบิลเน็ตเวิร์กมาแล้ว แต่ก็ประสบปัญหาขาดทุน
เนื่องจากมีปัญหาหลายอย่างเช่น รายการไม่มีคนดูเนื่องจากมีการนำเสนอรายการแบบซ้ำไปซ้ำมาแถมการติดตั้งจานรับสัญญาณต้องซื้อในราคาหลายหมื่นบาททำให้ผู้ชมไม่นิยมติดตั้งจานรับสัญญาณตรงนี้ก็เป็นปัญหาทำให้ประสบความล้มเหลว
แต่แผนการ ทำโกเบิลทีวีของช่อง 9 นั้นจะต้องอุดช่องปัญหาเหล่า นี้ให้ได้จึงจะประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามการทำโกเบิลทีวีนั้นรัฐจะต้องให้การสนับสนุนด้วย
แผนยึดคลื่นวิทยุอ.ส.ม.ท.คืนทั้งหมด
แหล่งข่าวจากอ.ส.ม.ท. กล่าวต่อไปถึงแผนการยึดคลื่นทั่วประเทศของวิทยุอ.ส.ม.ท.คืนทั้งหมด
62 คลื่นแบ่งเป็นคลื่นในกรุงเทพฯ 7 คลื่นส่วนที่เหลือเป็นคลื่นต่างจังหวัด โดยแผนขั้นแรกอ.ส.ม.ท.จะอนุมัติคลื่นเวลาเพียง
30 เปอร์เซ็นให้เอกชนที่มีสัญญา เช่าเวลากับอ.ส.ม.ท.ส่วนอีก 70 เปอร์เซ็นต์อ.ส.ม.ท.จะเข้ามาบริหารจัดการเอง
สำหรับคลื่นในกรุงเทพฯ จะให้เอกชนเช่าทำ 3 คลื่นและอีก 4 คลื่นจะดำเนินการเอง
ซึ่งแผนดังกล่าวได้ทำมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา และต้นปี 2548 อ.ส.ม.ท.จะเอาคลื่นคืนทั้งหมดทั่วประเทศ
สำหรับสาเหตุที่ต้องยึดคลื่นคืนทั้งหมดเนื่องจากที่ผ่านมา อ.ส.ม.ท. ปล่อยช่วงเวลาให้เอกชนเช่าเป็นส่วนใหญ่
เปรียบเสมือนเสือนอนกิน แต่ในอนาคตอันใกล้นี้คณะกรรมการกิจการวิทยุและโทร-ทัศน์แห่งชาติ(กสช.)จะเกิดขึ้น
ซึ่งถ้าหากอ.ส.ม.ท. ไม่รีบเอามาดำเนินการเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากกสช.เกิดขึ้นเมื่อพิจารณารายการแล้วอาจต้องยกคลื่นให้เอกชนที่เช่าคลื่นอ.ส.ม.ท.ไปดำเนินการอย่างแน่นอน
และในที่สุด อ.ส.ม.ท.ก็เหมือนกับเสียค่าโง่ให้เอกชนเหมือนรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่เกิดมาแล้ว
นี่เป็นเหตุผลที่ต้องเอาคลื่นอ.ส.ม.ท.คืนทั้งหมด
"อนาคตกสช.เกิดขึ้นมาคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้มีอำนาจและตัดสินใจว่าจะให้สัมปทานกับใคร
หากตอนนี้อ.ส.ม.ท.ไม่เร่งปรับผังรายการทั้งทีวีและวิทยุให้เนื้อหาสาระที่ดีแล้ว
เชื่อว่าเวลาไปขอสัมปทานเวลาก็มั่นใจว่าคณะกรรมการ กสช.ก็จะไม่พิจารณาให้เวลาแน่นอน
เพราะใครก็มีสิทธิไปยื่นขอคลื่นเวลาได้" แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว