ปรับวิธีกัน "ฮั้ว" ชิงสมาร์ทการ์ด 5 กลุ่มยื่นใหม่


ผู้จัดการรายวัน(18 มิถุนายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

กระทรวงไอซีทีเปิดประมูลสมาร์ทการ์ดรอบใหม่ ได้ผู้เข้าร่วมทั้งหน้าเก่าและใหม่ 5 กลุ่ม ภายใต้คณะกรรมการชุดเดิม "หมอเลี้ยบ" เปลี่ยนกฎใหม่ไม่ให้ คู่แข่งเห็นราคา หวังปิดโอกาสฮั้ว ยันยึดราคา 108 บาทเป็นเพดาน

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยถึงการประมูลบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ หรือสมาร์ทการ์ดว่า การเปิดประมูลสมาร์ทการ์ดรอบใหม่มีผู้เข้ายื่นซอง 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มกิจการร่วมค้าซีเอสที มีบริษัท ไมโครอิเล็กทรอนิกส์กับอินเทลการ์ด 2.กลุ่มกิจการร่วมค้าดีพีทีเอฟ มีบริษัทเอ็กซัลโต้กับท็อปปังฟอร์ม 3.กลุ่มกิจการร่วมค้าแอลจีพี มีบริษัท เอ็มพลัส กับไทยบริทิส ซีเคียวริตี้ พรินติ้ง 4.กลุ่มกิจการร่วมค้าจีดีไอซี มีบริษัท จีแอนด์ดีกับอินเทล การ์ด และ 5.กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสเอสไอ แอนด์ โอซีเอส มีบริษัท โอเบอร์ชัวร์กับจันวานิชย์

ส่วนบริษัทที่เข้าประมูล ในส่วนที่เป็นระบบปฏิบัติการสมาร์ทการ์ด เป็นบริษัทที่อยู่อันดับ 1 ใน 5 ของโลกเข้าร่วมประมูลคือ 1.เอ็กซัลโต้ 2.เจมพลัส 3.เจ แอนด์ ดี 4.เอสที ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และ 5.โอเบอร์ชัวร์

สำหรับการประมูลสมาร์ทการ์ดครั้งใหม่นี้ กระทรวงไอซีทีจะใช้คณะกรรมการชุดเดิม โดยจะมีการประกาศผู้ที่ผ่านเงื่อนไขด้านพาณิชย์ในวันที่ 22 มิ.ย. ประกาศผู้ที่ผ่านเงื่อนไขทางด้านเทคนิคในวันที่ 28 มิ.ย. และเปิดประมูลแบบออนไลน์ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้

ส่วนรูปแบบการประมูลจะเปลี่ยนจาก English Auction ที่ให้ฝ่ายหนึ่งเห็นตัวเลขของอีกฝ่ายหนึ่งในการเคาะราคาบนกระดาษแต่ละครั้ง ซึ่งการประมูลด้วยวิธีนี้จะให้สำหรับอุปกรณ์ที่รู้มาตรฐานของราคาอยู่แล้ว อย่างการประมูลครั้งที่ผ่านมามีการกำหนดให้เสนอราคาครั้งละไม่เกิน 5 นาที ส่วนแบบใหม่ที่จะนำมาใช้คือแบบ Sealed Bid Auction รูปแบบคือแต่ละฝ่ายจะไม่เห็นตัวเลขของกันและกัน จะมีเพียงคณะกรรมการเท่านั้นที่เห็นตัวเลขในการประมูลแข่งกัน โดยผู้เคาะราคาแต่ละครั้งหากสูงกว่าอีกฝ่ายหนึ่งระบบจะไม่ตอบรับ หากต่ำกว่าระบบจึงจะตอบรับ

"ผู้ประมูลที่ราคายังสูงกว่าอีกฝ่ายก็ต้องเสนอราคาใหม่ในเวลาที่กำหนดข้อดีของการประมูลแบบนี้คือมีความเหมาะสมกับกรณีที่มีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวนน้อย และโอกาสจะฮั้วกันยากขึ้น"

น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้มีผู้ยื่นซองมากกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งมีเพียงสามราย เป็นการแสดงให้เห็นว่าทั้งห้ากลุ่มตั้งใจแข่งขันกันเต็มที่ เพราะมีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว ว่าทางเราต้องการให้การประมูลจัดซื้อถูกต้องโปร่งใส รวมถึงการส่งมอบบัตรมีความผ่อนคลายมากขึ้น

ส่วนเรื่องราคาจะยึดฐานของผู้ที่ชนะการประมูลครั้งที่แล้วคือประมาณ 108 บาทเป็นเพดาน การทำ Auction ก็จะเริ่มจากราคาต่ำสุด เพื่อให้ได้ราคาในระดับที่พอใจ หากได้ราคาที่ดีแล้วก็จะเริ่มดำเนินการในขั้นต่อไปทันที

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เข้าประมูลกังวลคือระยะเวลาการส่งมอบบัตรล็อตแรก คือตามทีโออาร์ กำหนดว่าล็อตแรกจะต้องส่งมอบภายใน 90 วัน ซึ่งการดำเนินการส่งมอบไม่น่าจะเกินเดือนต.ค.นี้

เดิมการส่งมอบบัตรสมาร์การ์ดล็อตแรกจำนวน 12 ล้านใบ ให้มีการส่งมอบจำนวน 1 หมื่นใบภายในระยะเวลา 3 อาทิตย์ 1 ล้านใบภายในเวลาเดือนครึ่ง ทั้งนี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคาดว่าล็อตแรกจะส่งมอบได้ครบภายในเดือนธ.ค.นี้ จากนั้นกระทรวงไอซีทีก็จะส่งให้กระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการในขั้นต่อไป

น.พ.สุรพงษ์กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เป็นห่วงเกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นสิทธิส่วนบุคคลว่า เรื่องนี้ได้มีการชี้แจงและทำความเข้าใจไปแล้วตั้งแต่มีการประมูลครั้งแรก แต่ถ้าเกิดมีผู้ที่เป็นห่วงในเรื่องดังกล่าวอีก ก็จะมีการชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาอะไร



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.