KTC ลงสัญญา ตั้ง "คอนเควสท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย)" บริษัทตัวแทนโฆษณาหนุนธุรกิจและเพื่อควบคุมคุณภาพการดำเนินงาน ตลอดจนขยายโอกาสในการทำธุรกิจของบริษัท ล่าสุดจัดบริการพิเศษ "Your Style Party by KTC" ดูดลูกค้าหันมาใช้บริการ ดันรายได้พุ่งตามเป้าหมาย

นายปกรณ์ มาตระกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เปิดเผยว่า วันที่ 16 มิถุนายน 2547 ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทตัวแทนโฆษณาระหว่าง KTC กับบริษัท คอนเควสท์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เพื่อจัดตั้ง บริษัท คอนเควสท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท

โดยสัดส่วนการลงทุน คือ คอนเควสท์ 75% และ KTC 25% สำหรับวัตถุประสงค์ในการ ร่วมลงทุน คือเพื่อสนับสนุนธุรกิจของ KTC และเพื่อควบคุมคุณภาพการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ และโฆษณาของ KTC และเพื่อขยายโอกาสการทำธุรกิจของ KTC

ล่าสุด KTC ได้จัดบริการพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต KTC ทุกประเภท ภายใต้โครงการ "Your Style Party by KTC" โดยมีให้เลือกถึง 2 แบบด้วยกัน คือ 1.Your Style Party by KTC. ที่ผู้ถือบัตรสามารถออกแบบงานปาร์ตี้ได้ด้วยตัวเอง และ 2.Everyday Party Package ที่ผู้ถือบัตร KTC ทุกประเภทจะสามารถสนุกกับปาร์ตี้ได้ทุกวัน โดยได้รับส่วนลดจากร้านค้าชื่อดัง พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย นับเป็นครั้งแรกในวงการบัตรเครดิตของไทย ที่จัดบริการในรูปแบบพิเศษนี้ โดย KTC ให้เจ้าของบัตรได้เป็นเจ้าของปาร์ตี้ใน สไตล์ที่ตัวเองเลือก Mix & Match ได้เอง ไม่ว่าจะเป็น Disco on the Beach บรรยากาศสุด Chic บนเกาะส่วนตัว หรือสถานที่ที่ลูกค้าโปรดปราน เป็นต้น

โดยสามารถเลือกได้ว่า จะสนุกที่บ้านหรือสั่งตรงศิลปินจากค่ายแกรมมี่มาร่วมสร้างสีสันในงานปาร์ตี้ของคุณ และยังสามารถซื้อ "Your Style Party by KTC." ในโปรแกรม KTC I PLAN หรือสมัครขอกู้วงเงินเพิ่มเติมในโปรแกรม KTC I CASH และยังมีหลายทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเลือกบริการของ KTC ได้ตามความพอใจ

สำหรับผลกำไรของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ยังคงดีต่อเนื่องและดีกว่าไตรมาสที่ 1 เนื่องจากการเติบโตของลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลยังมี การเติบโตที่ดีทำให้บริษัทมีรายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทคาดว่าในสิ้นปีนี้พอร์ตของสินเชื่อบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 1.5 - 1.6 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อบุคคลจะอยู่ที่ 5-7 พันล้านบาท ทำให้พอร์ตของบริษัทโดยรวมมีประมาณ 2.0-2.2 หมื่นล้านบาท และตัวเลขบัตรเครดิตปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 300,000 ใบ

โดยบริษัทได้เพิ่มความระมัดระวังในการออกบัตรเครดิตให้กับผู้ถือบัตรใหม่และการติดตามหนี้บัตรเครดิต โดยบริษัทได้ให้พนักงานพิจารณาใบสมัครของลูกค้าที่ยื่นสมัคร ก่อนที่จะนำเข้าสู่ระบบจัดอันดับความเสี่ยง ซึ่งการเพิ่มความระมัดระวัง ก็จะทำให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมีการชะลอตัวลง

การที่บริษัทเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ การว่างงาน การลงทุน และความสามารถในการชำระหนี้ ของผู้ถือบัตรที่อาจจะลดลง จากช่วงภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

บทวิเคราะห์จาก บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวถึง KTC ว่า ราคาขึ้นแรงได้ปรับคำแนะนำเป็นถือ โดยยังเห็นศักยภาพในการเติบโตที่ดีของบริษัท โดยเฉพาะในส่วนของ Personal loan ที่มีอัตราผลตอบแทนในระดับสูง รวมถึงบริษัทเตรียมเปิดตัว Product ใหม่ Asset Finance ซึ่งจะเป็นการขยายฐานรายได้เพิ่มขึ้น โดยไม่พึ่งพารายได้จากบัตรเครดิตเป็นหลักเหมือนในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้ประมาณกำไรสุทธิ ปี 47 และ 48 ไว้ที่ระดับ 640 และ 868 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 33 บาท (PE 04 ที่ระดับ 13 เท่า) อย่างไรก็ตาม ราคาปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้ upside เหลือเพียง 13% ดังนั้น ปรับคำแนะนำลงจากซื้อเป็นถือ