หุ้นไทยรีบาวนด์ดัชนีปิดบวก 10 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาขึ้น นักลงทุนเก็งกำไร
กลุ่มปิโตรฯ ไฟแนนซ์ สื่อสาร รีแฮบโกราคาพุ่งขึ้น โบรกเกอร์เผยราคาน้ำมันชะลอลง
นักลงทุน คลายกังวลหวังเงินฝรั่งยกพลกลับภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ TPI สร้างสีสันตลาดหุ้น
ด้านผู้จัดการ "กิตติรัตน์" ต้อนรับ 3 ผู้บริหารตลาดหุ้นเอเชียใต้ เผยวานนี้(16 มิ.ย.)
ประชุมนัดแรกสภาธุรกิจตลาดทุนจัดโครงสร้าง
การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ วานนี้ (16 มิ.ย. 47) ดัชนีตลาด เปิดตลาดในแดนบวกที่ระดับ
616.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.64 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบวัน จากนั้นดัชนีปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อ
เนื่อง จนทำจุดสูงสุดที่ 626.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด ทั้งนี้ ดัชนีตลาดปิดที่ระดับ
624.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.60 จุด คิดเป็น 1.73% มูลค่าการซื้อขายรวม 19,112.94 ล้านบาท
กลุ่มหลักทรัพย์ที่ระดับราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดคือ กลุ่มปิโตรเคมี เพิ่มขึ้น 4.46%
กลุ่มไฟแนนซ์ เพิ่มขึ้น 2.88% กลุ่มสื่อสารเพิ่มขึ้น 2.71%
นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 906.62 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 84.25 ล้านบาท
และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 822.37 ล้านบาท
นางสาวอรุณรัตน์ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์
นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดีดตัวรับข่าวดีกรณีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค
(CPI) ของเฟด ที่ทำให้สามารถคาดคะเนว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับตัวสูงขึ้นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปในอัตราประมาณ
0.25%
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางจิตวิทยาที่ดัชนีสามารถยืนเหนือ 620 จุด และมูลค่าการซื้อขายอยู่ในระดับที่มากขึ้นทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างชาติเริ่มเข้าลงทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ยังมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม ที่มีมาร์เกตแคปสูง เช่น กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มไฟแนนซ์
และสื่อสารเป็นต้น
ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าดัชนีตลาดจะมีการรีบาวนด์ต่อจากวันนี้
นายนพดล โกศลศุภศิริชัย นักวิเคราะห์กลยุทธ์ การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้
จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับปัจจัยราคาน้ำมันที่มีทิศทางปรับตัวลดลงอย่างชัดเจนนั้น
ทำให้การเก็งกำไรในตลาดดังกล่าว ลดลงนักลงทุนจึงดึงเม็ดเงินลงทุนกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสามารถ
ให้ผลตอบแทนในการลงทุนได้สูง ดังนั้นเชื่อว่าในระยะนี้อาจจะมีเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเอเชียเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามนักลงทุนหันมาเล่นเก็งกำไร ในตลาดหุ้นมากขึ้น โดยเฉพาะ TPI ที่ทำให้ตลาดหุ้นมีสีสันมากขึ้น
ทั้งนี้ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวสูงขึ้นต่อ โดยอาจจะมีการขายทำกำไรในระหว่างวัน
โดยมีแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 633-636 จุด และมีแนวรับที่ 621-620
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า
เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.)ผู้บริหารจากตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์, ตลาดหลักทรัพย์จากจิตตากองและจากเมอร์ริเชียนซึ่งตลาดหลักทรัพย์ทั้ง
3 แห่งเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์เอเชียใต้ได้มาเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์ไทย
รวมทั้งยังได้เชิญให้ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ของไทยไปร่วมประชุม กับสมาพันธ์
ตลาดหลักทรัพย์เอเชียใต้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ ได้ตอบรับคำเชิญที่จะไปร่วมประชุมเพราะพิจารณาเห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อตลาดหุ้นไทยในอนาคต
โดยตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์นั้นถือ ว่าเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตลาดหลักทรัพย์ของไทยและมีตลาดอนุพันธ์ที่เกิดขึ้นก่อนตลาดหลักทรัพย์ของไทย
นอกจากนี้การหารือครั้งนี้ได้มีการเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์แต่ละแห่งไปฝึกอบรมหรือทำงานในระยะเวลามากกว่า
3 เดือน เพราะจะช่วยทำให้เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 2 ฝ่ายมีการพัฒนามากยิ่งขึ้น
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ภายในวันนี้ (17 มิ.ย.) สภาธุรกิจตลาดทุนจะมีการประชุมที่ตลาดหลักทรัพย์
ในช่วงบ่าย โดยคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับการจัด โครงสร้างบริหาร โดยอาจจะมีการแต่งตั้งประธานที่จะเป็นผู้ดูแล รวมทั้งจะหารือเกี่ยวกับการจัดสัมมนา ไทยแลนด์โฟกัส รวมถึงหารือเกี่ยวกับอนุสัญญาภาษีซ้ำซ้อนซึ่งได้มีการตกลงร่วมกันใน
5 สมาคมในช่วงก่อนหน้านี้