บอร์ดทหารไทย อนุมัติโครงสร้างองค์กรแบงก์ใหม่ 15 สายงาน พร้อมแต่งตั้งสามผู้บริหารสูงสุด
ดูแลบังคับบัญชา องค์กรใหม่ดัน "สุภัค ศิวะรักษ์" รั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจแผนควบรวมโอนทรัพย์สินเสร็จตามแผน 2 ก.ค.นี้
พร้อมเปิดซื้อขายหุ้นใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายใน 6 ก.ค. ขณะเดียวกัน เตรียมประกาศรายชื่อผู้บริหารทั้ง
15 สายงานภายในสัปดาห์หน้า ยืนยันไม่ปลดพนักงานอาจโยกย้ายตามความสมัครใจ
นายสมหมาย ภาษี ประธานกรรมการธนาคารและประธานบริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
หรือ TMB เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารได้อนุมัติโครงสร้างองค์กรธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่
ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย ธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ (DTDB) และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โดยโครงสร้างใหม่ได้แบ่งออกเป็น 15 สาย
พร้อมกันนี้ ยังมีมติแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงเข้าดูแลสายงานต่างๆ คือ นายสุภัค
ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ทหารไทย ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
(President & CEO) ธนาคารใหม่ นายไกรทิพย์ ไกรฤกษ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไปไอเอฟซีที
ดำรงตำแหน่ง ประธานผู้บริหารด้านปฏิบัติ (COO) และนายไมเคิล แอนดรูว์ เฮก กรรมการผู้จัดการ
DTDB ดำรงตำแหน่ง ประธานผู้บริหารด้าน การเงิน CFO) ซึ่งทั้งสามท่านจะเป็นคณะจัดการสูงสุด
ดูแลและบังคับบัญชาธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน)ต่อไป
สำหรับรายชื่อผู้บริหารสายงานทั้ง 15 สายงานนั้น จะมีการประกาศได้ภายในวันพุธที่
23 มิถุนายน 2547 ซึ่งจะเป็นการคัดเลือกจากผู้บริหารทั้ง 3 สถาบัน รวมทั้งสรรหาบุคคลภายนอกเข้ามาดูแลเพียง
2 สายงาน คือ สายงานธุรกิจลูกค้ารายย่อย และสายงานบริหารความเสี่ยง โดยแต่ละสายงานจะมีอำนาจในการบริหารงานอย่างเต็มที่
และขึ้นตรงกับประธานบริหารทั้ง 3 ท่าน
ส่วนสายงานกลยุทธ์องค์กร สายงานบริหารความเสี่ยงและสายงานการเงิน จะรายงานภายใต้นาย
ไมเคิล แอนดรูว์ เฮก สายงานพัฒนาสินทรัพย์ สายงานบริหารสินเชื่อ และสายงานปฏิบัติการและบริการ
จะอยู่ภายใต้การดูแลของ นายไกรทิพย์ ไกรฤกษ์ ที่เหลือจะเป็นการดูแลภายในของนายสุภัค
ทั้งหมด โดยการอนุมัติโครงสร้างและผู้บริหาร มีผลวันนี้ (16 มิ.ย.) เป็นต้นไป
เปิดโอกาสให้พนักงานโอนย้ายสายงาน
ส่วนกระบวนการคัดเลือกผู้บริหารและพนักงานนั้น จะเริ่มที่พนักงานระดับสูง 55
ท่าน ที่ต้องกรอกใบสมัครในสายงานที่สนใจจากนั้นบริษัท ฮิววิท แอสโซสิเอทส์(ประเทศไทย)
ที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล ได้ร่วมกับกรรมการผู้จัดการทั้ง 3 สถาบันสัมภาษณ์เพื่อคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมกับสายงาน
ทั้งนี้ หลังจากควบรวมแล้วธนาคารจะมีพนักงานจำนวน 8,330 คน และมีสาขาทั่วประเทศจำนวน
467 สาขา มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเกือบ 700,000 ล้านบาท มีเงินกองทุนกว่า 52,000
ล้านบาท ซึ่งมองว่าบุคลากรที่มีอยู่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องปลดออก เพียงแต่จะต้องปรับเปลี่ยนสายงานให้เหมาะสม
เปิดซื้อขายใหม่ 6 ก.ค.
นายสมหมาย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ธนาคารทหารไทย กำลังดำเนินการด้าน Tender Offer
ถึงกำหนดระยะเวลาวันที่ 25 มิถุนายน 2547 ล่าสุดวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ถือหุ้นไอเอฟซีที
เข้ามาแลกหุ้นกับทหารไทยจำนวน 71% และผู้ถือหุ้น DTDB เข้ามาแลกจำนวน 80% โดยมั่นใจว่าภายในวันที่
25 มิถุนายนนี้จะมีผู้ถือหุ้นของไอเอฟซีทีที่เหลือ เข้ามาแลกหุ้นครบเกินกว่า 75%
เนื่องจากผู้ถือหุ้นต่าง ชาติที่เหลือยังคงติดเงื่อนไขการขออนุมัติจากกระทรวงการคลัง
หลังจากดำเนินการแลกหุ้นแล้วนั้น ธนาคารจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใหม่ภายในวันที่
6 กรกฎาคม เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง นอกจากนี้ยังดำเนินการโอนทรัพย์สิน หนี้สินของทั้ง
2 สถาบันเข้ามาอยู่ในธนาคารเสร็จสิ้นภาย วันที่ 2 กรกฎาคม โดยจะเริ่มจากการโอนของธนาคาร
ดีบีเอสไทยทนุเข้ามาก่อน หลังจากนั้นจะเป็นของไอเอฟซีที ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ลูกค้า
ผู้ถือหุ้น พนักงาน จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น ยังคงดำเนินธุรกรรมได้ตามปกติ
ประเด็นสำคัญที่จะต้องดำเนินการต่อไป คือการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ โดยกรอบคร่าว
ๆ จะมีกรรมการประมาณ 15 ท่าน แยกเป็นกรรมการอิสระ 3-4 ท่าน ที่เหลือจะเป็นกรรมการตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ยังต้องมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนองค์กร ภาพลักษณ์ สาขา ที่สำคัญเรื่องของชื่อธนาคาร
ได้มีกรอบไว้ว่าจะเปลี่ยนชื่อเฉพาะภาษาอังกฤษ(THAI MILITARY BANK) อาจจะเปลี่ยนเป็น
THAHANTHAI BANK ซึ่งในสายตาของต่างชาติจะมองว่าเป็นแบงก์ของทหาร ส่วนชื่อของภาษาไทยยังคงใช้ชื่อเดิม
โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงได้เสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้