แชลเลนจ์ พรอพเพอร์ตี้ธุรกิจในเครือราศรี บัวเลิศ ทุ่มงบ 120 ล้านบาท เปิดสถานบันเทิงสุดหรู
เดอะ โดม บนอาคาร สเตท ทาวเวอร์ ภายหลังส่งร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน Sirocco
ออกมาจับกลุ่มลูกค้าระดับบน ล่าสุดเปิดตัวผับหรู Distil ที่อิมพอร์ต อาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก
เดือนสิงหาคมเตรียมเปิดห้องประชุม สัมมนาที่เห็นวิวของกรุงเทพฯได้ 360 องศา ตั้งเป้ารายได้เดือนละ
30 ล้านบาท ถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปี
นางสาวรัฐวดี บัวเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแชลเลนจ์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า
ภายหลังจากที่บริษัทพัฒนา เดอะ โดมบนอาคารสเตท ทาวเวอร์ ให้เป็นสถานบันเทิง โดยเริ่มจาก
การเปิดร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน Sirocco ณ ชั้นที่ 63 ของอาคารสเตท ทาวเวอร์
ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมาก ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผับชื่อ
Distil บนชั้น 64 ของเดอะ โดม โดย Distil จะเน้นอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วทุกมุมโลก
อาทิ มอลต์วิสกี้ ไวน์จากทั่วโลก ออยสเตอร์บาร์ที่คัดหอยนางรมสดจากประเทศฝรั่งเศส
ไข่ปลา คาเวียร์ และซิการ์
นอกจากเปิด Sirocco และ Distil แล้วประมาณปลายเดือนกรกฎาคมนี้ บริษัทจะเปิดตัวร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนภายใต้ชื่อว่า
Mezzaluna บนชั้น 65 และเตรียมเปิดห้องจัดเลี้ยงสัมมนา Dome บนชั้นที่ 67 ที่สามารถชมวิวของกรุงเทพมหานคร
ได้ 360 องศา สามารถจุแขกได้ 250 คน และหากจัดเลี้ยงแบบบุพเฟ่ต์ สามารถจุได้ 350
คน
นางสาวรัฐวดี กล่าวอีกว่า บริษัทได้ลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเดอะ โดม
ของอาคารสเตท ทาวเวอร์ ให้เป็นสถานบันเทิงในยามค่ำคืนของคนกรุงเทพฯ และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายในระยะเวลา
2 ปี โดยตั้งเป้ารายได้ของเดอะ โดมประมาณเดือนละ 30 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จาก
Sirocco ประมาณ 30% Dome 30% Distil 20% และ Mazzaluna อีก 20% สำหรับรายได้จาก
Distil ที่ตั้งเป้าไว้เพียง 20% จากอาหารและเครื่องดื่มเป็นของนำเข้าทั้งหมด โดยเฉพาะอาหารที่เป็นอาหารสดซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งและเสียภาษีนำเข้าสูงมาก
"การที่ตั้งบริษัทแชลเลนจ์ พรอพเพอร์ตี้ ขึ้นมาเพื่อดำเนินงานด้านบริหารจัดการ
ซึ่งในอนาคต มีแผนที่จะรับบริหารร้านอาหารหรือผับ ที่มีกลุ่มลูกค้า แบบเดียวกับที่เดอะ
โดม ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้ามาติดต่อให้ไปบริหารร้านแล้ว 2 ราย แต่ยังไม่ทำตอนนี้
เพราะต้องการทำเดอะ โดม ให้ดีและอยู่ตัวก่อน" นางสาวรัฐวดี กล่าว