กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ คำแนะนำ : ซื้อราคา 9.00 บาท ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท
เราได้ปรับลดผลการดำเนินงานของ NOBLE ลง 24% เป็น 623 ล้านบาทในปี 2547 และ 21%
เป็น 502 ล้านบาทในปี 2548 จากการที่เราคาดว่าตลาดจะแข่งขันสูงในปีนี้ และ NOBLE
จะต้องเริ่มจ่ายภาษีเพราะ tax shield จะหมดในปีนี้ จากประมาณการผลการดำเนินงานของเราที่ปรับใหม่
จะเห็นว่าราคาของ NOBLE ขณะนี้ซื้อขายกันที่ PER 7-8 เท่าของกำไรปี 2547-2548 เท่านั้น
ซึ่งถือว่ายังต่ำมากเทียบกับเป้าหมายของเราที่ PER 10 เท่าของกำไรปี 2547 และ
NPV ที่ 14.10 บาท แม้ว่าเราได้ปรับลดราคา ที่เหมาะสมลงเหลือ 14.00 บาทต่อหุ้น
แต่ยังมีส่วนต่างจากราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ถึง 56%
จากการที่ราคาหุ้นปรับลดลง เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ต่ำลงของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ทำให้ราคาหุ้นตอนนี้น่าสนใจ NOBLE เข้าสู่ช่วงวัฏจักรธุรกิจที่จะผลิตกระแสเงินสดอิสระได้มากตั้งแต่ปี
2547-2549 และด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เราเชื่อว่า NOBLE เป็นหุ้นปันผลดีตัวหนึ่ง
ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2547 ไม่ดีนัก
กำไรปกติของ NOBLE ในไตรมาสแรกของปี 2547 ตกลง 71% เทียบกับปีก่อนและ 77% เทียบกับไตรมาสก่อนเหลือเพียง
46 ล้านบาท และต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 100 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 27
ล้านบาท ช่วยให้กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 74 ล้านบาท ยอดขายตกลงเหลือ 326 ล้านบาท ลดลง
56% เทียบกับปีก่อน และ 68% เทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากผู้บริโภครีบซื้อบ้านและโอนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 38% จากการขึ้นราคาขายเมื่อต้นปีเพื่อชดเชยภาษีธุรกิจเฉพาะ
ค่าโอน และค่าก่อสร้างที่สูงขึ้น
อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงจาก 0.69 เท่าเหลือ 0.58 เท่า เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น
และหนี้ลดลงเหลือ 1,416 ล้านบาท ทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 2,998 ล้านบาทจากโครงการใหม่
6 โครงการมูลค่า 7,815 ล้านบาท
การแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรงขึ้น
ยอดอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลสูงขึ้นมาก จากการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด
11,500 หน่วย รวมมูลค่ากว่า 37,000 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2547 ในปีที่แล้วมีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่จำนวนมาก
และบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่วางแผนที่จะออกโปรโมชันกลางปีนี้เพื่อกระตุ้นยอดขาย
ซึ่งทำให้เกิดแนวโน้มที่จะมีการแข่งขันรุนแรง และอัตราการทำกำไรน่าจะต่ำลง จากการที่
NOBLE เป็นหนึ่งในผู้นำด้านนี้และมีประสบการณ์กว่า 10 ปี เราเชื่อว่า NOBLE จะสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหม่อื่นๆ ที่อ่อนประสบการณ์กว่าได้
NOBLE พยายามที่จะสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นด้วยการออกแบบที่ทันสมัย
และตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง NOBLE จะสร้างบ้านเสร็จก่อนขายพร้อมตกแต่ง
โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อบ้านพร้อมตกแต่งหรือ ซื้อบ้านเปล่าไปตกแต่งเองก็ได้
NOBLE จัดแคมเปญใหญ่สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมในช่วงเดือนมิถุนายน
เพื่อกระตุ้นยอดขายของ 4 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 ของ ปีนี้มูลค่ากว่า
3,415 ล้านบาท แทน ที่จะให้ส่วนลดเงินสด NOBLE จะคืนกำไรให้ลูกค้าในรูปแบบของรางวัลประมาณ
4-11% ของราคาขาย (สูงสุด 1 ล้านบาท) โดยโอนผ่านบัตร KTC ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยได้อย่างอิสระผ่าน
บัตรนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ซื้อจะได้รับบัตรสมนาคุณส่วนลด 10-35% จากร้านเฟอร์นิเจอร์
และของแต่งบ้านชั้นนำได้แก่ habitat และเดคอร์ มาร์ท แม้ว่าจะเป็นโปรโมชันที่สร้างสรรค์และน่าจะประสบความสำเร็จ แต่เรายังคงประมาณการยอดขายในปี 2547 อย่างอนุรักษนิยม
การปรับราคาขายบ้านสูงขึ้นเนื่องจากราคาที่ดิน ภาษีธุรกิจเฉพาะค่าโอน และค่าก่อสร้างที่สูงขึ้น
จะกดดันให้อุปสงค์โดยรวมลดลง ปัจจัยทางลบทางอ้อมอื่นๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และสถานการณ์ ในภาคใต้ ก็มีส่วนให้ความต้องการ ซื้อบ้านชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าความต้องการที่แท้จริงยังคงอยู่ และจะกลับมาตัดสินใจซื้อบ้านอีกครั้งในครึ่งปีหลัง
เปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 7,815 ล้านบาทในปีนี้
NOBLE วางแผนที่จะเปิดตัว 6 โครงการใหม่มูลค่าประมาณ 7,815 ล้านบาทในปีนี้ ประกอบด้วย
โครงการบ้าน 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ เปิดตัวในไตรมาสที่ 2 คอนโดมิเนียม
1 โครงการเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 และคอนโดมิเนียม 1 โครงการเปิดตัวในไตรมาสที่ 4
ทำให้มูลค่า โครงการทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 15,149 ล้านบาท โดยโครงการที่ยังคงเหลือ
มีมูลค่า 10,480 ล้านบาท ใกล้เคียง กับประมาณการยอดขายของ 3 ปีข้างหน้ารวมกัน
ปลายเดือนเมษายน ยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 778 ล้านบาทเป็น 4,667 ล้านบาทจาก 3,889
ล้านบาท ณ สิ้นปี 2546 ยอดขายล่วงหน้าจากโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 33% เป็น 481
ล้านบาท ขณะที่ยอดขายล่วงหน้าของคอนโดมิเนียมสูงขึ้น 10% เป็น 1,029 ล้านบาท เราคาดว่ายอดขายล่วงหน้าของโครงการบ้านเดี่ยวจะถูกรับรู้ในไตรมาสหน้า
ส่วนยอดขายล่วงหน้าของคอนโดมิเนียมจะถูกรับรู้ในครึ่งปีหลัง
ปรับประมาณการรายได้ลงเป็น 3,310 ล้านบาท
รายได้ที่รับรู้ในปีนี้ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการบ้านเดี่ยว เนื่องจากโครงการบ้านเดี่ยวจะเป็นแบบสร้างก่อนขาย
และพร้อมที่จะโอนภายใน 1 เดือน เราคาดว่ายอดขาย จากโครงการบ้านจะสามารถรับรู้ในปีนี้ประมาณ 2,850 ล้านบาท คิดเป็น 86% ของยอดขายทั้งหมด
โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการมูลค่า 3,790 ล้านบาท จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 2-4
ของปีนี้ และจะสามารถรับรู้รายได้ในปีหน้า ยอดขายจากโครงการ ออร่า ทองหล่อ จะรับรู้ในปีนี้ประมาณ
450 ล้านบาท หลังจากเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยปกติโครงการคอนโดมิเนียมของ
NOBLE จะขายก่อนสร้างและต้องดาวน์ 25% โดยระยะเวลาผ่อนดาวน์ 18-20 เดือน และจะรับรู้ยอด
ขายได้หลังจากรับชำระเงินไม่น้อยกว่า 20% ของราคาขาย และการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยไม่น้อยกว่า
10% ของมูลค่าก่อสร้าง
จากการประมาณการยอดขายที่ได้กล่าวในเบื้องต้น เราได้ปรับลดรายได้ทั้งปีของ NOBLE
ลง 7% เหลือ 3,310 ล้านบาท เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะสูงขึ้นเป็น 34.4% ในปีนี้และ
34.6% ในปีหน้าจากราคาขายที่สูงขึ้น
ค่าใช้จ่ายการขายและบริหารเพิ่มขึ้น จากค่าโอนและภาษีธุรกิจเฉพาะ
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายในไตรมาสแรกของปี 2547 เพิ่มเป็น
25% จาก ค่าเฉลี่ยปีที่แล้วที่ 9.7% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของภาษีธุรกิจเฉพาะค่าโอน และรายได้ที่ลดลงจากการสิ้นสุดของมาตรการช่วยเหลือทางภาษี เมื่อปลายปีที่แล้ว
บริษัทต้องจ่ายค่าใช้จ่ายการขายและบริหารเพิ่มขึ้นประมาณ 4.2% ของยอดขาย นอกจากนี้โปรโมชันในเดือนมิถุนายนจะทำให้ค่าใช้จ่ายการขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มประมาณการค่าใช้จ่ายการขายและบริหารของปี 2547 เป็น 425
ล้านบาทหรือเท่ากับ 13% ของยอดขาย เราคาดว่าอัตรากำไรจากการประกอบการจะลดลงจาก
22.4% ในปีที่แล้วเป็น 20.8% ในปีนี้ และ 21.0% ในปีหน้า
กระแสเงินสดจะแข็งแกร่งต่อไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า
จากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะทรงตัวใน 2-3 ปีข้างหน้า NOBLE
ไม่จำเป็นต้องขยายทุนหมุนเวียน และจะมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง เราคาดว่า NOBLE
จะมีกระแสเงินสดอิสระเท่ากับ 340 ล้านบาทในปีนี้ จากที่ติดลบ 420 ล้านบาทในปีก่อน
และเพิ่มเป็น 1,044 ล้านบาทในปี 2548 ด้วยอัตราการจ่ายปันผลประมาณ 25% ของกำไรสุทธิ
เราคาดว่า NOBLE จะสามารถจ่ายปันผลที่ 0.35 บาทต่อหุ้นในปี 2547 คิดเป็นอัตราปันผลตอบแทน
4% ที่ราคาหุ้นปัจจุบัน อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลในอีก 2-3
ปีข้างหน้ามีสูง เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดอิสระที่มากนั่นเอง จากวิธีคิดลดกระแสเงินสดด้วยอัตราคิดลดเท่ากับ
10.25% เราได้ราคาที่เหมาะสมของ NOBLE ที่ 14.00 บาท