ท่ามกลางความวุ่นวายบนถนนสุขุมวิท ดุลายา สปา (Dulaya Spa) ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบสงบในหมู่เรือนไทยที่เรียงราย
ท่ามกลางแมกไม้หลังโรงแรม Davis
หลังจากเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจสปามานาน และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับกรมส่งเสริมการส่งออกในเรื่องนี้ด้วย
วันนี้ศุภารมย์ ตั้งไพบูลย์ ตัดสินใจทำธุรกิจสปา พร้อมกับวางระบบการขายแฟรนไชส์
ก้าวแรกที่เข้าไปในดุลายา จะเห็นสถาปัตยกรรมไทยในศาลา ซึ่งเป็น เรือนรับแขกขนาดใหญ่
มีทางเดินเล็กๆ ไปยังห้องทำทรีตเมนต์ ซึ่งอยู่ในตัวเรือนไทย 2 ชั้น น้ำมันหอมระเหย
โชยกลิ่นออกมาบางเบา คละเคล้าไปกับเสียงเพลงบรรเลงแผ่วๆ
น้ำมันนวด น้ำมันหอมระเหย ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในสปา ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน
ถูกเลือกมาจากสินค้า Otop เป็นหลัก โดยกำลังเตรียมทำเป็นแกลเลอรี่ แบรนด์
Dulaya เพื่อเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้
ส่วนภูมิปัญญาในเรื่องการนวด มรรยาท อัธยาศัยไมตรี และวัฒนธรรม ประเพณีไทย
นำมาผสมผสานกับเรื่องของสุขภาพองค์รวม ด้วยการดึงเอาวิธีนวดแบบสากลมาใช้ด้วยเช่นกัน
ความเป็นไทย กำลังถูกบริหารจัดการด้วยระบบที่เป็นสากล ออกสู่ตลาด ต่างประเทศผ่านการขายแฟรนไชส์
โดยเซ็นสัญญาไปแล้วในสปาของประเทศ อังกฤษ และสิงคโปร์ ราคาขายตั้งไว้ประมาณ
1.5 ล้านบาท ในพื้นที่ 300 ตาราง เมตร สัญญา 3 ปีต่อ 3 ปี
ส่วนทรีตเมนต์เด่นของที่นี่คือ Dulaya Massage ซึ่งได้สอดแทรกท่วงท่าของความนุ่มนวลด้วยอัธยาศัยไมตรีแบบไทย
ตั้งแต่เริ่มทำโปรแกรม ลีลาในการนวด ถูกพัฒนาท่าทางขึ้นเป็นเอกลักษณ์ของดุลายา
สปา โดยใช้พนักงานนวด 2 คน น้ำมันนวดที่นำมาให้ลูกค้าเลือกมี 4 กลิ่นคือ
ดิน น้ำ ลม ไฟ ทั้งหมดมีส่วนผสมของสมุนไพร และดอกไม้ไทย
ลูกค้าต้องตั้งสมาธิ แล้วค่อยๆ สูดกลิ่นหอมเข้าไปช้าๆ เพื่อให้รู้ว่าร่างกายต้องการพักผ่อนด้วยกลิ่นใดในวันนั้น
และหากติดใจจะได้กลับมาลองโปรแกรมใหม่ในวันหน้า